เลี้ยงลูกแบบคุณพ่อเกาหลี ถอดบทเรียนจาก The Return of Superman

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เลี้ยงลูกแบบคุณพ่อเกาหลี นั้นเป็นการเลี้ยงลูกแบบการให้เขาได้นำประสบการณ์ หรือการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ามาเป็นบทเรียน โดยทางประเทศเกาหลีได้จัดทำรายการโทรทัศน์ The Return of Superman ขึ้นเพื่อส่งต่อความน่ารัก และข้อคิดดี ๆ สำหรับการเลี้ยงลูกโดยคุณพ่อ จะน่ารัก และได้ทริคการเลี้ยงลูกอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

 

The Return of Superman คืออะไร?

เป็นรายการเรียลลิตี้-วาไรตี้ของประเทศเกาหลีใต้ ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ หรือฟรีทีวี ช่อง KBS หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า การกลับมาของซูเปอร์แมน โดยเนื้อหารายการจะเป็นรายการเกี่ยวกับครอบครัว และการเลี้ยงลูกของนักร้อง นักแสดง หรือบุคคลมีชื่อเสียงของประเทศเกาหลีใต้ แต่การเลี้ยงดูลูกโดยคุณแม่คงจะธรรมดาไป รายการนี้เลยนำบรรดาคุณพ่อมาเลี้ยงลูกซะเลย ซึ่งจะต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งตอนนี้มีการถ่ายทำมาแล้วมากกว่า 300 ตอน ผู้เข้าร่วมมากกว่า 10 ครอบครัว (สามารถรับชมได้ฟรีทาง Viu.com)

 

 

รูปแบบรายการเป็นอย่างไร

เนื่องจากรายการเป็นรูปแบบเรียลลิตี้-วาไรตี้ จะเป็นการตั้งกล้องไว้ตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน โดยในเช้าวันแรกบรรดาคุณแม่จะเขียนภารกิจ หรือสิ่งที่คุณพ่อต้องทำขณะที่พวกเขาไม่อยู่ไว้ให้ และบรรดาคุณแม่ก็จะไปพักผ่อนหย่อนใจ และปล่อยลูกตัวน้อยไว้กับคุณพ่อเพียงลำพัง ซึ่งเด็กที่เข้าร่วมรายการมีตั้งแต่อายุ 6 เดือนจนถึง 6 ปี โดยเป็นครอบครัวที่มีทั้งลูกคนเดียว ลูกสอง และสามคนที่มีอายุต่างกัน และลูกแฝด เป็นต้น ทั้งนี้รายการนี้จัดขึ้นเพื่อให้คุณพ่อให้เห็นถึงความเหนื่อย และความยากลำบากของคุณแม่เวลาที่อยู่บ้านที่จะต้องเลี้ยงลูก และต้องทำงานบ้านไปพร้อมกัน

บทความที่น่าสนใจ : แอป Viu มีซีรีย์อะไรที่น่าสนใจบ้าง และเรื่องไหนบ้างที่กำลังฮิตในตอนนี้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ถอดบทเรียนจาก The Return of Superman 2021

เรามาถอดบทเรียนการ เลี้ยงลูกแบบคุณพ่อเกาหลี กันในครอบครัว The Return of Superman 2021 กันดีกว่า ซึ่งประกอบไปด้วยครอบครัวต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 

1. คุณพ่อแซม และลูกทั้งสองคนวิลเลี่ยม และเบนลีย์

คุณพ่อสุดหล่อสายหมีชาวออสซี่ ที่ได้เข้าร่วมรายการวาไรตี้ของเกาหลีตั้งแต่ปี 2008 และได้แต่งงานกับภรรยาชาวเกาหลีและให้กำเนิดลูกน้อยน่ารัก 2 คน วิลเลี่ยม พี่ชายคนโต อายุ 4 ขวบ และ เบนลีย์ อายุ 3 ขวบ ด้วยความที่พวกเขาทั้ง 2 คนมีอายุที่ไล่เลี่ยกันเป็นอย่างมากจึงทำให้พวกเขาค่อนข้างสนิทกัน นอกจากที่พวกเขาจะสนิทกันแล้ว พวกเขายังชอบทะเลาะกันอีกด้วย พ่อแซมจึงต้องมีวิธีจัดการพวกเขาทั้งสองคนอย่างเด็ดขาด และไม่ยอมให้พวกการทะเลาะกันนั้นถูกปล่อยผ่านไปอย่างง่าย ๆ เขาจะสอนให้เด็ก ๆ รู้จักวิธีการขอโทษ การเห็นอกเห็นใจกัน รวมถึงการแสดงความรักของพี่และน้องที่ไม่ควรจะทะเลาะกันนั่นเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

(ขอบคุณภาพจาก KBS WORLD TV)

 

อีกเรื่องที่พ่อแซมถนัดคือการปล่อยให้พวกเขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่างเช่น เขาฝึกให้เด็ก ๆ รับมือกับการหลงกับผู้ปกครองในที่สาธารณะ เขาได้มีการฝึกเด็ก ๆ ให้รู้จักขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และจดจำรายละเอียดของตัวเองและผู้ปกครอง เพื่อที่เวลามีผู้ช่วยเหลือจะได้ตามหาได้ถูกคน และถูกต้องนั่นเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สอนให้ลูกแก้ไขสถานการณ์หลงจากผู้ปกครองด้วยตนเอง (ขอบคุณภาพจาก KBS WORLD TV)

 

2. คุณพ่อแกรี่ และน้องฮาโอ เด็กอัจฉริยะ

แกรี่ แรปเปอร์ชื่อดังที่เป็นอดีตสมาชิกรายการชื่อวาไรตี้ที่มีชื่อเสียงอย่าง running man เขาได้ตัดสินใจในการเข้าร่วมรายการตั้งแต่ปี 2020 โดยลูกชายของเขาชื่อว่า ฮาโอ ซึ่งเรียกได้ว่าฉลาดสุด ๆ เขาเป็นเด็กช่างสังเกต และมักจะจดจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เสมอ ซึ่งคุณพ่อแกรี่นั้นมักจะนำเกมหาภาพโดยที่มีการปิดคำไว้ให้ฮาโอได้ดูเพียง 1 ครั้งและให้เขาได้ทายตำแหน่งของภาพนั้น ๆ ซึ่งฮาโอก็ทำสำเร็จทุกครั้ง โดยเขามีอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น

 

การสอนรู้ให้เรียนรู้แบบไม่ต้องไปกดดันให้พวกเขาทำ (ขอบคุรภาพจาก KBS WORLD TV)

 

นอกจากนี้การสอนของพ่อแกรี่นั้นเรียกได้ว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษมากนัก แต่เขากลับส่งเสริมกิจกรรม และพยายามให้ลูกของเขาเรียนรู้ และค้นหาตัวเอง ด้วยการให้ลูกของเขาได้ลองทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยตนเอง ซึ่งทำให้ฮาโอเป็นเด็กที่มีความมั่นใจสูง ทั้งเรื่องความคิด และเรื่องของสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจน แต่ความมั่นใจของเขาก็ไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นเด็กที่ดูไม่น่ารัก เพราะเขามักใส่ใจคนอื่นเสมอ เขาชอบที่จะตื่นมา และวิ่งไปทักทายตากล้องทุกคนในตอนเช้า หรือแม้แต่แบ่งอาหารให้กับทีมงานขณะที่กำลังถ่ายทำอยู่ รวมถึงช่วยทีมงานเก็บของตอนเลิกถ่ายแล้วอีกด้วย โดยการเลี้ยงลูกแบบคุณพ่อเกาหลี ของคุณพ่อแกรี่นั้นทำให้เห็นว่า ถ้าหากผู้ปกครองให้ความใส่ใจในเรื่องของเด็ก ๆ หรือให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาคิด หรือทำ ลูกของเราก็จะกลายเป็นเด็กดี โดยที่เรานั้นแทบจะไม่ต้องสอน หรือบอกให้เขาทำเลยสักครั้ง

บทความที่น่าสนใจ : ลูกเรียนรู้ด้วยตนเอง ได้ผลดีกว่าการไปบังคับกดดัน หรือไม่?

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ฮาโอเป็นเด็กที่มีน้ำใจต่อผู้อื่น เขาช่วยทีมงานเก็บอุปกรณ์ถ่ายทำ (ขอบคุณภาพจาก KBS WORLD TV)

 

3. คุณพ่อโดยองฮวาน และฮยอนอู ฮายอง

บ้านนี้เรียกได้เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวของเกาหลี ไปพร้อมกับการเลี้ยงลูกเลยก็ว่าได้ โดยพี่ชายคนโดฮยอนอู อายุ 6 ขวบ และน้องคนเล็กสุดแสบฮายอง ที่พร้อมออกเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศเกาหลี โดยคุณพ่อโดยองฮวานคิดคอนเซ็ปต์เรื่องของการพาลูก ๆ ออกไปตั้งแคมป์ปิ้งกัน จนพัฒนามาเป็นโรงเรียนติดล้อ ที่เขาจะลากรถบ้านไปยังจังหวัดต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง และเรื่องราวของการข้ามผ่านอุปสรรคของสาวน้อยฮายอง ที่มีอาการท้องผูก การออกเดินทางครั้งนี้ก็เพื่อให้เธอได้มีสุขภาพช่องท้องที่ดี ขับถ่ายง่ายเป็นปกตินั่นเอง ถือว่าได้ทั้งอิ่มเอมกับธรรมชาติ และการลิ้มรสชาติอาหาร พร้อมกับกรรมวิธีการเอาชนะอาการท้องผูกของหนูฮายองนั่นเอง

 

โดยอนฮวานใช้การท่องเที่ยว และการสมัผัสกับธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นความอยากเรียนรู้ของเด็กๆ (ขอบคุณภาพจาก KBS WORLD TV)

 

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ออกเดินทางกัน ภายในบ้านของพวกเขาก็มักจะจัดกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการเข้าร่วมรายการอย่างยาวนานทำให้เห็นถึงพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มตั้งแต่ตอนที่ตั้งแต่ฮายองเขายังพูดไม่ได้ จนถึงล่าสุดนี้ เขาเริ่มสื่อสารกับคนในบ้านได้ เริ่มจากการสื่อสารผ่านคำสั้น ๆ การชี้ลูกภาพ ไปจนถึงการพูดติดกระเป็นประโยคยาว ๆ อีกทั้งคุณพ่อโดยอนฮวานที่มักเปลี่ยนตัวเองเป็นบทบาทสมมุติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักมายากล คนขายไอติมตุรกี เจ้าของร้านซุ้มแดงข้างทาง เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สาวน้องฮายองที่อยู่ในวัยกำลังซนนั้นก็ได้พี่ชายของเขาดูแลอย่างใกล้ชิด และคอยดูแลน้องสาวที่เขารักสุดชีวิต ถึงแม้ว่าในบางครั้งเขาอาจงอแงตามประสาเด็กบ้าง แต่ต่อหน้าของน้องสาวของเขาแล้วเขานั้นแข็งเข้มที่สุด

 

การสื่อสารกันระหว่างพี่น้อง ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว (ขอบคุณภาจาก KBS WORLD TV)

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสไตล์การเลี้ยงลูกแบบคุณพ่อเกาหลีที่เรานำมาฝากในวันนี้ ถึงแม้ว่าแต่ละบ้านจะมีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาปล่อยให้เด็ก ๆ มีความคิดเป็นอิสระ และได้ทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยแห่งการเรียนรู้ของพวกเขา และนอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าแต่ละบ้านนั้นใส่ใจดูแลลูกของพวกเขาเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องการสอนการใช้ชีวิต คำพูด หรือการเคารพผู้อื่น อีกทั้งยังทำให้เห็นว่าการมีเวลาให้กับลูก หรือครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญนะคะ

 

บทความที่น่าสนใจ :

เคล็ดลับเพิ่มความสะดวกในการเลี้ยงลูก โดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน สำหรับคุณแม่ทำงาน

สอนให้ลูกรู้จักปฏิเสธ ด้วยคำว่า “ไม่” ทำไมถึงต้องสอน?

ที่มา : KBS WORLD

บทความโดย

Siriluck Chanakit