TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ทำไมเด็ก ๆ ถึงทะเลาะกัน สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก วิธีการแก้ไขการทะเลาะกัน

บทความ 5 นาที
ทำไมเด็ก ๆ ถึงทะเลาะกัน สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก วิธีการแก้ไขการทะเลาะกัน

ทำไมเด็ก ๆ ถึงทะเลาะกัน สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก วิธีการแก้ไขการทะเลาะกัน

ความขัดแย้งและการทะเลาะกันในหมู่เด็ก ๆ เป็นเรื่องธรรมดามาก มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเติบโตในครอบครัว การทะเลาะกันเกิดขึ้นเมื่อมีความขัดแย้งและจะกลายเป็นความก้าวร้าว ตัวอย่างเช่น เมื่อมันเกี่ยวข้องกับการตะโกน และ สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก มันเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ และสามารถรับมือกับมันได้อย่างไร

สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

การต่อสู้มักเริ่มต้นเมื่อเด็กเห็นสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรม หรือเมื่อเขาพยายามที่จะยืนยันสิ่งที่พวกเขาคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของพวกเขา

บางครั้งคุณเห็นลูก ๆ ทะเลาะกันเพราะพวกเขามองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบเดียวกันในรูปแบบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เด็กโตอาจล้อเล่นเด็กเล็กในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นวิธีที่ตลก แต่เด็กเล็กอาจไม่ชอบ

และบางครั้งพี่น้องก็เกิดความขัดแย้งขณะที่พวกเขาแข่งขันกันเพื่อขอความเห็นชอบจากผู้ปกครอง พี่น้องที่มีอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะทะเลาะมากขึ้น

ข่าวดีเกี่ยวกับการต่อสู้กับเด็ก ๆ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับลูกของคุณในการฝึกฝนทักษะทางสังคมที่พวกเขาต้องการในฐานะผู้ใหญ่ได้

เมื่อความขัดแย้งระหว่างเด็ก ๆ เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมและไม่มีใครบาดเจ็บเด็ก ๆ ก็จะเริ่มสร้างทักษะการแก้ปัญหา เช่น การเจรจา พวกเขายังได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการเห็นทัศนะคติของบุคคลอื่นและเคารพสิทธิ ความรู้สึก และสิ่งของของผู้อื่นอีกด้วย และจะมีการต่อสู้น้อยลงเมื่อลูกของคุณเติบโตและพัฒนาทักษะทางสังคมที่ดีขึ้น

อารมณ์มีผลต่อการต่อสู้ของเด็ก ๆ อย่างไร

เด็กบางคนดูเหมือนจะอารมณ์รุนแรงมากกว่าคนอื่น นี่อาจเป็นเพราะอารมณ์ของพวกเขา ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดของบุคลิกภาพของพวกเขา

บางคนโกรธเร็วกว่าคนอื่นหรือควบคุมความรู้สึกโกรธได้น้อยกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ใหญ่ที่จะแก้ไขความขัดแย้ง

สภาพแวดล้อมมีผลต่อการต่อสู้ของเด็ก ๆ อย่างไร

เด็ก ๆ เรียนรู้วิธีแยกแยะความแตกต่างโดยดูและเลียนแบบพฤติกรรมที่พวกเขาเห็นในสภาพแวดล้อมของพวกเขา ดังนั้นหากเด็กเห็นว่าคุณแยกแยะความแตกต่างในด้านบวกพวกเขาก็จะเรียนรู้ที่จะประพฤติตนแบบนั้น สิ่งนี้เรียกว่าแบบจำลองพฤติกรรมที่ดี คุณสามารถจำลองพฤติกรรม เช่น

  • ให้ความร่วมมือ
  • สงบสติอารมณ์เมื่อคุณโกรธ
  • ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะลงมือทำ
  • ตอบสนองในแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์
  • รับฟังมุมมองของคนอื่น

และเด็ก ๆ ก็เรียนรู้จากพฤติกรรมเชิงลบเช่นกัน หากผู้ปกครองตีสอนลูก โดยการตีเด็กเช่นนี้ เด็กก็จะมีแนวโน้มที่จะตีพี่น้อง เพื่อน ผู้หญิงหรือแม้แต่พ่อแม่ และแนวโน้มที่จะทำให้พวกเขาใช้กำลังคือ

สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

สาเหตุ การทะเลาะกันในเด็ก

  • พวกเขาเห็นผู้คนก้าวร้าวโดยใช้กำลังต่อกัน โดยเฉพาะพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อน ๆ
  • พวกเขาได้สิ่งที่ต้องการโดยการใช้กำลังมา
  • พ่อแม่ของพวกเขาไม่ได้กำหนดขีดจำกัด ในการทะเลาะกันแต่ละครั้ง
  • พวกเขาเห็นความรุนแรงในทีวีภาพยนตร์และวิดีโอเกม

อายุและทักษะมีผลต่อการต่อสู้ของเด็กอย่างไร

วิธีที่เด็กจัดการกับความขัดแย้งนั้นถูกกำหนดโดยอายุและระดับทักษะของพวกเขา ตัวอย่างเช่น เป็นเรื่องปกติที่เด็กเล็กจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว สิ่งนี้มักจะเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นและเรียนรู้วิธีที่ดีกว่าในการแก้ไขความขัดแย้งครั้งต่อ ๆ ไป

วิธีหยุดการทะเลาะกันระหว่างพี่น้อง

1. ดูแลความต้องการของเด็กแต่ละคน

ลูกของคุณอาจต้องการกฎและขอบเขตที่แตกต่างกันไปตามอายุและอารมณ์ของพวกเขา แต่พวกเขาจำเป็นต้องรู้สึกว่าคุณรักและให้คุณค่ากับพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะไม่รู้สึกว่าพวกเขาต้องแข่งขันเพื่อแย่งความรักและความสนใจของคุณ คุณสามารถส่งเสริมความรู้สึกเหล่านี้ได้โดยใช้เวลาพิเศษกับเด็กแต่ละคนเป็นประจำมอบกอดและรอยยิ้มให้กับทุกคนและพยายามที่จะไม่เปรียบเทียบเด็กกับคนอื่น ๆ

แม้ว่าเด็ก ๆ จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการแบ่งปัน แต่ก็มีประโยชน์หากพวกเขามีสิ่งพิเศษของตนเองที่พวกเขาไม่ต้องแบ่งปันพื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้แต่แค่ลิ้นชักที่ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิเปิดได้ซึ่งเป็นความคิดที่ดีเช่นกัน

2. กำหนดกฎครอบครัวที่ชัดเจน

ตั้งกฎให้เด็กรู้ว่าอะไรดีและอะไรไม่ดี หากคุณมีกฎของครอบครัวอยู่แล้ว คุณจะสามารถเตือนเด็ก ๆ ว่าคุณคาดหวังให้พวกเขาปฏิบัติต่อกันอย่างไร โดยสามารถทำได้ดังนี้

  • ให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมในการตั้งกฎ สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกของคุณจำและรักษากฎได้
  • เขียนและแปะกฎนี้ ไว้ที่ต่าง ๆ ภายในบ้านของคุณ เช่น แปะไว้หน้าตู้เย็นหรือที่ไหนก็ได้ที่ทุกคนเห็น
  • ทำตามกฎทุกครั้งที่เด็กงอแงหรือทำผิดกฎ เริ่มต้นด้วยการเตือนความจำที่เป็นมิตร จากนั้นให้โอกาสอีกครั้ง หากเด็กยังคงละเมิดกฎใช้ผลลัพธ์ที่ตกลงกันไว้

3. ตั้งค่ากิจวัตร

มันง่ายกว่ามากที่จะจัดการกับความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเมื่อคุณมีกิจวัตรประจำวันของครอบครัว หมายความว่าทุกคนรู้ว่าใครนั่งอยู่ที่ไหน ทำอะไรที่น่าเบื่อ และวันไหน และใครเป็นคนแรกในที่จะใช้สิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านหรือห้องน้ำก่อน

ตัวอย่างอย่างเช่น

  • โทรทัศน์ : ลูกคนเล็ก เลือกรายการตั้งแต่เวลา 18:30 น. – 19:00 น. ลูกคนโต เลือกเวลา 19.30 น. – 20.00 น. (หลังจากลูกคนเล็กเข้านอน)
  • เกม : ลูกคนโต เลือกในวันเสาร์ ลูกคนเล็ก เลือกในวันอาทิตย์
  • ห้องน้ำ : ลูกคนโต ใช้ห้องน้ำก่อนในตอนเช้าจากนั้นเป็นลูกคนเล็ก

4. ให้รางวัลและคำชมแก่พวกเขา

บทความจากพันธมิตร
Attitude Mom เครื่องปั๊มนมแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเครื่องปั๊มนมไร้สาย Easy Life III และ Application Attitude Mom
Attitude Mom เครื่องปั๊มนมแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเครื่องปั๊มนมไร้สาย Easy Life III และ Application Attitude Mom
รวมโมเมนต์แห่งความสุขจากงาน Central x theAsianparent Baby Fair 2025
รวมโมเมนต์แห่งความสุขจากงาน Central x theAsianparent Baby Fair 2025
ช้อปสุดฟิน!  ครั้งแรกของปี รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว Central x theAsianparent Baby Fair งานแฟร์สินค้าแม่ลูกสุดยิ่งใหญ่ ลดสูงสุด 70%
ช้อปสุดฟิน! ครั้งแรกของปี รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว Central x theAsianparent Baby Fair งานแฟร์สินค้าแม่ลูกสุดยิ่งใหญ่ ลดสูงสุด 70%
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ปลดล็อคพลังแห่งผู้นำ สู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ปลดล็อคพลังแห่งผู้นำ สู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ

นี่หมายถึงการสังเกตและให้ข้อเสนอแนะในเชิงบวกกับลูกของคุณ เมื่อพวกเขาทำงานได้ดี เมื่อคุณบอกเด็ก ๆ อย่างชัดเจนและเฉพาะเจาะจงว่าพวกเขาทำอะไรได้ดี คุณมีแนวโน้มที่จะเห็นพฤติกรรมนั้นอีกครั้ง

สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

ตัวอย่างของเสริมพัฒนาการทางบวก

  • แม่ชอบวิธีที่ลูก ๆ ทั้งคู่กำลังเล่นบนแทรมโพลีน
  • เป็นเด็กดีจังเลย แบ่งของเล่นกันเลยด้วย
  • ลูกเป็นคนแก้ปัญหานี้หรอ เก่งจังเลย งั้นวันนี้เรามานั่งดูหนังเป็นรางวัลกันดีกว่า

5. แสดงให้เด็กเห็นว่าจะเข้ากันได้อย่างไร

คุณเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ลูก ๆ ของคุณจะสังเกตเห็นว่าคุณทำงานอย่างไรโดยไม่ต้องมีการทะเลาะ หากคุณต้องการให้ลูกของคุณทำงานอย่างสงบและให้ความเคารพ พวกเขาจำเป็นต้องเห็นคุณทำพฤติกรรมดังกล่าวก่อน หากคุณต้องการให้พวกเขาพูดขอโทษผู้อื่น พวกเขาก็ต้องเห็นการขอโทษของคุณเช่นกัน เรียกได้ว่าเด็ก ๆ จะเลียนแบบพฤติกรรมต่าง ๆ จากพ่อแม่นั่นเอง

6. ชี้แนะลูก ๆ ของคุณ

คุณเป็นโค้ชเพื่อแก้ปัญหาให้กับลูก ๆ ของคุณ คุณสอนพวกเขาถึงวิธีจัดการกับความขัดแย้งและนำพวกเขาไปสู่ทักษะในการจัดการความรู้สึกโกรธ การเจรจาและการเล่นอย่างยุติธรรมสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีกว่าการเป็นผู้ตัดสินที่แยกการต่อสู้ นี่คือเคล็ดลับบางอย่างสำหรับการสอนลูก ๆ ของคุณในการแก้ปัญหา

  • ให้โอกาสลูก ๆ ของคุณเล่นกับคนอื่น และเกมจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะเล่นด้วยกันได้ดีและฝึกฝนทางเลือกในเชิงบวกได้อีกด้วย
  • พูดคุยในภายหลัง สำหรับเด็กโต การหาทางออกที่ปราศจากการตำหนิ หลังจากนั้นจะทำให้การต่อสู้เกิดขึ้นน้อยลง ตัวอย่างเช่น ลูกจะทำอย่างไรในการแก้ปัญหานี้ ให้ลูกและน้องได้ใช้คอมพิวเตอร์อย่างยุติธรรม
  • ช่วยให้เด็ก ๆ หาวิธีแสดงออกถึงความรู้สึกโกรธแค้นหรือความรู้สึกโกรธด้วยคำพูดที่สงบหรือกิจกรรมในเชิงบวก ตัวอย่างเช่น การเล่นน้ำ วาดภาพ และเล่นแป้งสิ่งนี้จะช่วยให้เด็กเล็กแสดงความรู้สึก ส่วนเด็กโตและวัยรุ่นที่มีอายุมากกว่าอาจพบว่าการออกไปวิ่งหรือเล่นดนตรีช่วยพวกเขาได้มากกว่า
  • สอนและวางรูปแบบทักษะทางสังคมของ ‘ไม่เห็นด้วยอย่างเคารพ’ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการพูด บางสิ่งที่คุณสามารถเห็นด้วย จากนั้นพูดในสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วย ตัวอย่างเช่น จริงอยู่ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นของลูก แต่แม่คิดว่ามันไม่ถูกต้องถ้าลูกจะไม่ให้น้องอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะน้องขออนุญาตลูกแล้วตั้งแต่แรก
สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

สาเหตุ การทะเลาะกันในเด็ก

7. รับมือกับสถานการณ์ที่ยากจะควบคุม

มันสามารถช่วยให้คิดล่วงหน้าเกี่ยวกับวิธีจัดการกับการทะเลาะกันในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ในบางกรณีมันอาจช่วยอธิบายได้ว่าหากการมีทะเลาะกันเกิดขึ้น คุณจะลบการปฏิบัติหรือสิทธิพิเศษืแต่ก็เป็นความคิดที่ดีที่จะจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เด็กมีโอกาสน้อยลงในการทะเลาะกัน

ต่อไปนี้เป็นแนวคิดที่จะช่วยคุณวางแผนสำหรับการทะเลาะต่อสู้กัน

ที่บ้าน

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีของเล่นเพียงพอสำหรับทุกคนเพื่อให้พวกเขาสามารถเล่นด้วยกันได้โดยไม่ต้องผลัดกัน
  • หากคุณกำลังจัดระเบียบการเล่น ลองเชิญเพื่อนของเด็กแต่ละคน หรือจัดให้เด็กคนหนึ่งไปที่อื่นถ้าคนอื่นกำลังมีเพื่อนอยู่
  • กวนใจเด็ก ๆ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม หากคุณรู้สึกถึงการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง ตัวอย่างเช่นแนะนำเกมใหม่ พาเด็ก ๆ ไปเล่นหรืออ่านหนังสือกับเด็ก ๆ ข้างบ้าน

ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต

  • สร้างกฎพิเศษ ตัวอย่างเช่น ‘จะไม่มีการต่อสู้หรือทะเลาะกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ต หมายความถ้าลูกทำได้ ลูก ๆ จะได้รางวัลโดยไปการเล่นที่สนามเด็กเล่น’
  • ให้ประเมินสถานการณ์ว่าคุณสามารถฝากเด็กกับเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งในขณะที่คุณซื้อสินค้าได้หรือไม่

บนรถ

  • หากมีที่นั่งสำรองที่ด้านหลังให้นั่ง ให้แยกเด็ก ๆ ออกจากกัน เพื่อป้องกันการทะเลาะ
  • ถ้าลูกคนโตของคุณโตพอ เอาเธอไปไว้ที่เบาะหน้า
สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก

สาเหตุ การทะเลาะกันในเด็ก

8. ให้เด็กทำงานบางครั้ง

ด้วยความช่วยเหลือของคุณเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีการทะเลาะ สิ่งนี้สามารถช่วยให้ลูกของคุณเข้ากันได้ดีขึ้นและจัดการกับความขัดแย้งในเชิงบวกกับเด็กคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย นี่คือเคล็ดลับในการช่วยให้ลูกของคุณทำสิ่งต่าง ๆ

  • ปล่อยให้เด็กไปหากเพื่อนของพวกเขาพยายามหาทางแก้ไข การพูดคุย การโต้วาที และการโต้เถียงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเด็กกำลังพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ออกมา เพิ่มความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับวิธีโต้ตอบของพวกเขา ตัวอย่างเช่น แม่ภูมิใจในวิธีที่ลูกกำลังพยายามทำสิ่งนี้ด้วยตัวเองนะจ๊ะ”
  • จับตามองการกระทำ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของคุณในการป้องกันการต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบ
  • ให้คำแนะนำ คำแนะนำที่วางไว้อย่างดี อาจเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนต้องการ ตัวอย่างเช่น “ลูกนึกถึงวิธีที่ทุกคนจะสามารถใช้คอมพิวเตอร์เมื่อคุณต้องการได้หรือไม่” หรือ “อย่าลืมให้ความยุติธรรมและผลัดกันใช้’

 

Source : raisingchildren , raisingchildren

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

รักลูกให้เท่ากัน จะต้องทำยังไงดี เมื่อลูกรู้สึกว่ารักพวกเขาไม่เท่ากัน ปัญหาพี่น้อง

วิธีแก้ปัญหาพี่อิจฉาน้อง เทคนิคการเลี้ยงลูก 2 คนขึ้นไป วิธีทำให้พี่น้องรักกัน การป้องกันพี่อิจฉาน้อง ทำได้อย่างไร

7 วิธีที่ทำให้ลูกเลิกทะเลาะกัน แล้วกลับรักกันมากขึ้น

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Jitawat Jansuwan

  • หน้าแรก
  • /
  • ไลฟ์สไตล์
  • /
  • ทำไมเด็ก ๆ ถึงทะเลาะกัน สาเหตุการทะเลาะกันในเด็ก วิธีการแก้ไขการทะเลาะกัน
แชร์ :
  • วิจัยเผย มีลูกชายทำแม่แก่เร็วขึ้น ยิ่งมีลูกชายหลายคน ยิ่งเสี่ยงแก่ไว

    วิจัยเผย มีลูกชายทำแม่แก่เร็วขึ้น ยิ่งมีลูกชายหลายคน ยิ่งเสี่ยงแก่ไว

  • ไม่ต้องแอบถามใคร! เปิดทุกเคล็ดลับ "กำจัดขนหมออ้อย" ฉบับแม่ท้องใกล้คลอด ที่ต้องรู้!

    ไม่ต้องแอบถามใคร! เปิดทุกเคล็ดลับ "กำจัดขนหมออ้อย" ฉบับแม่ท้องใกล้คลอด ที่ต้องรู้!

  • 10 ห้องสมุดเด็กในกรุงเทพฯ สุดเจ๋ง ปี 2568 เปลี่ยนลูกติดจอ เป็นหนอนหนังสือ!

    10 ห้องสมุดเด็กในกรุงเทพฯ สุดเจ๋ง ปี 2568 เปลี่ยนลูกติดจอ เป็นหนอนหนังสือ!

  • วิจัยเผย มีลูกชายทำแม่แก่เร็วขึ้น ยิ่งมีลูกชายหลายคน ยิ่งเสี่ยงแก่ไว

    วิจัยเผย มีลูกชายทำแม่แก่เร็วขึ้น ยิ่งมีลูกชายหลายคน ยิ่งเสี่ยงแก่ไว

  • ไม่ต้องแอบถามใคร! เปิดทุกเคล็ดลับ "กำจัดขนหมออ้อย" ฉบับแม่ท้องใกล้คลอด ที่ต้องรู้!

    ไม่ต้องแอบถามใคร! เปิดทุกเคล็ดลับ "กำจัดขนหมออ้อย" ฉบับแม่ท้องใกล้คลอด ที่ต้องรู้!

  • 10 ห้องสมุดเด็กในกรุงเทพฯ สุดเจ๋ง ปี 2568 เปลี่ยนลูกติดจอ เป็นหนอนหนังสือ!

    10 ห้องสมุดเด็กในกรุงเทพฯ สุดเจ๋ง ปี 2568 เปลี่ยนลูกติดจอ เป็นหนอนหนังสือ!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว