ปัจจุบันสัดส่วนการคลอดธรรมชาติและการผ่าคลอดในประเทศไทยนั้น เรียกได้ว่า “สูสี” ค่ะ โดยมีคุณแม่จำนวนมากที่ตั้งครรภ์ปกติ ไม่มีความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน จึงเลือกการคลอดแบบธรรมชาติซึ่งมีข้อดีคือ ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงทารกจะได้รับภูมิคุ้มกันจากเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดด้วย แต่การคลอดธรรมชาติก็ยังสร้างความตื่นเต้นและกังวลให้กับแม่ท้องหลายคน โดยเฉพาะความต้องการให้การคลอดเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ไม่ต้องเจ็บท้องนาน บทความนี้จึง รวมเคล็ดลับ คลอดธรรมชาติ คลอดง่าย มาให้คุณแม่ รวมถึง ท่าที่ทำให้ ปากมดลูกเปิดเร็ว มาฝากให้แม่ท้องลองฝึกทำด้วยค่ะ
คลอดธรรมชาติ คืออะไร มีข้อดีอย่างไร
คลอดธรรมชาติ (Natural birth) คือ การคลอดโดยที่คนท้องเบ่งคลอดเอง เมื่อมีอายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 42 สัปดาห์ โดยทารกจะอยู่ในท่ากลับหัวลงแล้วจะค่อยๆ เคลื่อนตัวมายังอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมคลอดแบบธรรมชาติ ไม่มีการผ่าตัด ซึ่งเหมาะสำหรับคนท้องที่ตั้งครรภ์ปกติ ไม่มีความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษหรือมีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งการคลอดแบบธรรมชาติมีผลดีทั้งต่อตัวคุณแม่เองและทารก ดังนี้
|
ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ
|
ผลดีต่อคุณแม่ |
- ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว เคลื่อนไหว ลุก นั่ง เดินได้หลังการคลอด พักฟื้นไม่นาน กลับบ้านได้เร็ว
- เสียเลือดน้อยกว่าการผ่าคลอด เจ็บแผลน้อย
- ไม่มีแผลผ่าตัด หรือภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
- ท้องแรกส่วนใหญ่จะมีแผลฝีเย็บขนาดเล็ก ประมาณ 2-4 เซนติเมตรเท่านั้น
- ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ หรือฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง โอกาสติดเชื้อในมดลูกน้อย
- คุณแม่จะมีความภาคภูมิใจที่คลอดลูกเองได้สำเร็จ
|
ผลดีต่อลูกน้อย |
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากทารกจะได้รับภูมิคุ้มกันจากเชื้อแบคทีเรีย Probiotics ในช่องคลอดมากกว่าการผ่าตัดคลอด
- ผนังมดลูกจะช่วยรีดของเหลวออกจากปอดของทารก ลดความเสี่ยงปัญหาด้านการหายใจ
|
คลอดธรรมชาติ ปากมดลูกต้องเปิดกี่เซน
คุณแม่ท้องแรกที่มีการคลอดธรรมชาตินั้นโดยปกติแล้ว ปากมดลูกจะเปิดประมาณ 1.2 เซนติเมตร/ชั่วโมง และใช้ระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ปากมดลูกจึงจะเปิดทั้งหมด ส่วนกรณีคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นท้องที่สอง ปากมดลูกจะเปิดประมาณ 1.5 เซนติเมตร/ชั่วโมง และเปิดทั้งหมดในระยะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง โดยเมื่อปากมดลูกเปิดถึง 10 เซนติเมตร เท่ากับความกว้างของศีรษะทารก คุณแม่จะเกิดความรู้สึกอยากเบ่ง ซึ่งระยะเบ่งนี้จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ลูกน้อยก็จะคลอดออกมาลืมตาดูโลก ทั้งนี้ ปกติแล้วการคลอดธรรมชาติจะประกอบไปด้วยขั้นตอน ตั้งแต่การเจ็บครรภ์ การเบ่งคลอด และการคลอดรก ดังนี้ค่ะ
เริ่มตั้งแต่มดลูกเริ่มบีบตัว จนกระทั่งปากมดลูกเปิดกว้าง 10 เซนติเมตร แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ
- ระยะเริ่มต้น เป็นช่วงที่มดลูกเริ่มบีบตัว ปากมดลูกเริ่มเปิดและบางลง โดยจะเปิดกว้าง 5 เซนติเมตร
- ระยะเร่ง มดลูกเริ่มบีบตัวแรงมากและบ่อยขึ้น ทุกๆ 3 นาที แต่ละครั้งอาจนานถึง 1 นาที เป็นระยะที่คุณแม่จะรู้สึกปวดท้องมาก จนอาจขอยาบล็อกเพื่อหลังระงับอาการปวด ซึ่งคุณหมออาจวินิจฉัยให้ยาออกซิโทซิน (oxytocin) เร่งการเจ็บครรภ์ได้
- ระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิดกว้างเกือบถึง 10 เซนติเมตร มดลูกบีบตัวแรงและเร็วนานกว่า 1 นาที คุณแม่จะเริ่มมีเหงื่อออก อาเจียน ตัวสั่น อันแสดงถึงอาการเบื้องต้นก่อนเบ่งคลอด
คือระยะตั้งแต่ปากมดลูกเปิดถึง 10 เซนติเมตร จนถึงทารกคลอดออกมาทางช่องคลอด มดลูกคุณแม่จะบีบตัวรุนแรงและเริ่มอยากเบ่งคลอด มีแรงกดปวดเหมือนปวดท้องถ่าย อาจนานเพียงไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมงก็ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีคุณแม่เคยคลอดธรรมชาติมาก่อน จะสามารถเบ่งคลอดได้อย่างรวดเร็วค่ะ
หลังจากทารกคลอดออกมาสำเร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ เป็นการคลอดรกที่ค้างอยู่ภายในออกมา ซึ่งอาจกินเวลานานถึง 30 นาทีค่ะ
4 ท่าที่ทำให้ ปากมดลูกเปิดเร็ว คลอดง่าย
คุณแม่ท้องส่วนใหญ่มักเริ่มมีอาการเจ็บท้องเตือนเมื่ออายุครรภ์ย่างเข้าเดือนที่ 8 ค่ะแต่ก็มีบางกรณีที่จะครบกำหนดคลอดแล้ว หรือเลยกำหนดคลอดแล้ว คุณแม่บางคนก็ยังไม่มีสัญญาณบอกว่าจะคลอด เลยจะชวนมาบริหารร่างกายง่ายๆ ด้วย 4 ท่าที่ทำให้ ปากมดลูกเปิดเร็ว คลอดง่าย ซึ่งถือเป็นการเร่งคลอดแบบธรรมชาติ ดังนี้ค่ะ
-
ท่านั่งผีเสื้อคนท้อง
หรือท่าโยคะ Butterfly Pose มีส่วนช่วยให้อุ้งเชิงกรานและต้นขาด้านในของคนท้องขยายได้ดี ทารกในครรภ์ขยับลงมาบริเวณอุ้งเชิงกราน ทำให้การคลอดทำได้ง่ายขึ้น
- นั่งบนพื้นราบที่สบาย หรือบนเตียง เหยียดขาออกไปด้านหน้า
- โค้งเข่าลงโดยค่อยๆ ดึงปลายเท้าเข้าหาลำตัวจนฝ่าเท้าชิดกัน
- ใช้มือจับที่เท้าทั้งสองข้างดันเข้าหาตัวให้มากที่สุด
- หายใจเข้า-ออกลึกๆ ช้าๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย
- ยืดกล้ามเนื้อโดยกดเข่าทั้งสองข้างลงพื้น ด้วยแรงจากกล้ามเนื้อสะโพก ไม่ใช้แรงกดจากมือ กดค้างไว้ หรือจะยกเข่าขึ้นลงเบาๆ อย่างต่อเนื่องก็ได้
- นั่งในท่านี้ประมาณ 1-5 นาที หรือจนกว่าจะรู้สึกสบาย
-
ท่ายืดหลัง
- ให้คุณแม่นอนหงายราบหลังตรง ขันเข่าทั้งสองขึ้น โดยวางเท้าทั้งสองข้างราบชิดกับพื้น
- ใช้มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างเอวกับพื้น
- ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องออกแรงกดลงบนกระดูกสันหลัง เพื่อให้แผ่นหลังราบกับพื้น
- ค้างท่าไว้ประมาณ 4-5 วินาที แล้วคลายแรงกดออก
- ทำซ้ำประมาณ 5-10 ครั้ง
-
ท่าโก่งหลัง
- เริ่มจากคุณแม่คุกเข่าลง วางมือทั้งสองราบกับพื้นไปทางด้านหน้า
- ก้มศีรษะลงเล็กน้อย พร้อมโก่งหลังขึ้นช้าๆ
- จากนั้นค่อยๆ แอ่นหลังลงช้าๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นช้าๆ คุณแม่จะรู้สึกดึงบริเวณกล้ามเนื้อต้นคอและหลัง
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอ และหลังตามปกติ
- ทำซ้ำ ประมาณ 1-2 ครั้ง
-
ท่าบริหารหลังต้นขาและเชิงกราน
- นั่งยองลงกับพื้น โดยให้ปลายเท้าทั้งสองข้างหันออกนอกตัว ส้นเท้าทั้งสองข้างแนบกับพื้น
- พนมมือประสานกัน ใช้ข้อศอกทั้งสองดันต้นขาให้ห่างจากกันอย่างช้าๆ เพื่อยืดกล้ามเนื้อต้นขาและเชิงกราน ทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยๆ คลายออก
- หรือนั่งยองลงกับพื้น โดยใช้เก้าอี้ช่วยพยุงตัว ปลายเท้าทั้งสองข้างหันออกนอกตัว
- หากไม่สามารถวางเท้าราบกับพื้นได้ให้ใช้ผ้าห่มม้วนแล้วรองไว้ใต้ส้นเท้า
- พยายามแยกเข่าทั้งสองให้ห่างจากกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อยืดกล้ามเนื้อต้นขาและเชิงกราน แล้วค่อยๆ คลายออก
ปากมดลูกเปิดเร็ว ดีมั้ย? ทำยังไงให้ปากมดลูกเปิดเร็ว คลอดง่าย
อาจมีคุณแม่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับความสำคัญของการที่ ปากมดลูกเปิดเร็ว หรือช้า ว่ามีผลต่อการคลอดอย่างไร ต้องบอกว่า การที่ปากมดลูกเปิดเร็วอาจมีส่วนช่วยให้การคลอดเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้นค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายคนท้องและทารกในครรภ์ด้วยนะคะ
อย่างไรก็ตาม เรามีเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณแม่ที่มีอายุครรภ์พร้อมคลอด หรือตั้งครรภ์ได้ 40 สัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่มีอาการเตือนว่าจะคลอด เพื่อให้ ปากมดลูกเปิดเร็ว คลอดง่าย แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ก่อนจะทดลองใช้วิธีเหล่านี้ คุณแม่ต้องปรึกษาแพทย์จนแน่ใจก่อนว่า มีสุขภาพร่างกายที่ปกติดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ในระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ
การมีเพศสัมพันธ์อย่างนุ่มนวล ในท่าทางที่ปลอดภัย จะช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดของคนท้องเกิดการหดรัดตัวได้ดีขึ้น อีกทั้งสารโปรสตาแกลนดินในสเปิร์มอาจช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดตัวได้ ช่วยให้ ปากมดลูกเปิดเร็ว คลอดง่าย
การนวดหรือดูดที่หัวนมจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ที่ช่วยให้มดลูกหดตัว โดยให้คุณแม่ใช้ฝ่ามือนวดบริเวณลานนมเบาๆ ครั้งละ 15-20 นาที วันละหลายๆ ครั้ง จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้ และปากมดลูกมีความพร้อมมากขึ้น แต่ก่อนที่จะใช้วิธีนี้ อาจต้องปรึกษากับคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อนว่ามีความพร้อม หรือสามารถทำได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
การเดินอาจช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินที่ช่วยให้มดลูกบีบรัด เป็นการกระตุ้นการคลอด และจะช่วยให้ทารกเคลื่อนตัวลงมาดันปากมดลูก อยู่ในตำแหน่งการคลอด เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณแม่เจ็บท้องคลอดได้เร็วขึ้น โดยคุณแม่ควรเดินช้าๆ อย่างผ่อนคลาย 20-30 นาที/วัน และควรมีคุณพ่อเดินเล่นเป็นเพื่อนด้วยเผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
การนั่งบนลูกบอลและโยกตัวไปมา จะช่วยให้ทารกเคลื่อนที่ลงมาดันปากมดลูกได้ดีขึ้น ทารกมีการเคลื่อนไหวลงสู่ช่องเชิงกรานได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีนี้คุณแม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมคือ ลูกบอลขนาดใหญ่ ที่มีประโยชน์ในการช่วยยืดกล้ามเนื้อคล้ายกับการเล่นโยคะนั่นเอง
การออกกำลังกายด้วยการทำโยคะ นอกจากช่วยให้ร่างกายคุณแม่ท้องแข็งแรง ลดอาการปวดหลัง ปวดขา และอาการตะคริวแล้ว ท่าทางต่างๆ ของโยคะยังช่วยบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานช่วยให้คลอดได้ง่ายขึ้น เช่น ท่าแมว ท่าสุนัขบิดขี้เกียจ อีกทั้งโยคะยังเป็นการบริหารลมหายใจ ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลาย คลอดง่าย มีประโยชน์มากหากคุณแม่นำมาใช้ในระหว่างคลอด
อย่างไรก็ตาม หากการตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นไปอย่างปกติดีทุกประการ ควรรอให้มีการเจ็บครรภ์เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะดีที่สุดนะคะ เพราะทุกคนมีความพร้อมในการคลอดที่แตกต่างกัน วิธีการเหล่านี้จึงอาจไม่สามารถใช้ได้ผลกับทุกคน และให้ระลึกไว้เสมอว่า ความปลอดภัยของแม่และทารกในครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าพยายามเร่งคลอด หรือทำท่าทางที่ทำให้ ปากมดลูกเปิดเร็ว ด้วยวิธีที่ไม่ปลอดภัย ดังนั้น ต้องปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนจะลองวิธีการใดๆ นะคะ
ที่มา : www.bnhhospital.com , www.gedgoodlife.com , medparkhospital.com , samitivejhospitals.com , www.regagar.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อาการคนใกล้คลอด เป็นอย่างไร อาการใกล้คลอดแบบไหน ควรไปหาหมอ
อุ้มเรอกี่นาที อุ้มเรอถึงกี่เดือน ลูกไม่เรอแต่ตด ได้ไหม?
5 เครื่องดื่มคุณแม่หลังคลอด ฟื้นฟูร่างกาย บำรุงน้ำนมเพื่อลูกน้อย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!