คุณแม่หลายคนเป็นสาย Activity ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ดังนั้นในช่วง 9 เดือนที่อุ้มท้องเจ้าตัวเล็กก็อาจวุ่นวายใจ คันไม้คันมือ อยากทำนู่น นี่ นั่น อยู่บ้าง ซึ่งก็พอจะยั้งใจได้ แต่พอหลังคลอดเท่านั้นแหละ ความกระตือรือร้นอยากออกกำลัง ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือกระทั่งยกของหนัก ๆ ด้วยตัวเองก็กลับมาอีกครั้ง แต่คำถามคือ กรณีที่เป็นคุณแม่ “ผ่าคลอด” จะยกของหนักได้เหรอ ผ่าคลอด ห้ามยกของหนักกี่โล แล้ว… หลังคลอดกี่วันออกแรงเยอะ ๆ ได้ หรือไม่มีอะไรเป็นข้อจำกัด ต้องมาหาคำตอบค่ะ
ทำไมต้อง ผ่าคลอด
การผ่าคลอด (Cesarean section) คือ การผ่าตัดเปิดช่องท้องและผนังมดลูกของคุณแม่ เพื่อนำทารกออกจากถุงน้ำคร่ำซึ่งมี 2 แบบ ได้แก่ การผ่าคลอดแนวขวางที่มดลูกส่วนล่าง และการผ่าตัดแนวตั้งที่มดลูกส่วนล่าง โดยการผ่าคลอดนั้นเป็นทางเลือก และทางออกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้ หรือมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ว่าต้องผ่าคลอด เช่น
- ลูกตัวใหญ่เกินกว่าที่จะคลอดปกติ
- รกเกาะต่ำ อยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการขวางทางออกในการคลอด
- คุณแม่ตั้งครรภ์แฝดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
- สรีระของคุณแม่ไม่พร้อม กระดูกเชิงกรานเล็กเกินไป สายสะดือสั้นเกินไป
- ความไม่พร้อมทางด้านร่างกายหลายอย่างของสุขภาพแม่ หรือแม้แต่การคลอดในภาวะฉุกเฉินก็เช่นกัน
ข้อดี-ข้อเสีย ของการผ่าคลอด
ข้อดีของการผ่าคลอด นอกจากจะเป็นไปเพื่อคุณแม่ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์แล้ว ในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ปกติยังสามารถกำหนดเวลาคลอดที่แน่นอนได้ สะดวก เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า และไม่รู้สึกเจ็บขณะคลอด รวมถึงสามารถปิดอู่ทำหมันได้เลยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การผ่าคลอดนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า และยังทำให้คุณแม่ต้องเจอกับปัญหาบางประการหลังคลอด เช่น
- ร่างกายฟื้นตัวช้า อาจไม่สามารถให้นมลูกได้ทันที
- เสียเลือดมาก เจ็บแผลนาน รวมถึงอาจมีภาวะแทรกซ้อนเมื่อเจ็บครรภ์ครั้งต่อไป เช่น แผลมดลูกปริแตก รกเกาะลึกผิดปกติ
- เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
- ทารกไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานตั้งต้นผ่านช่องคลอด อาจเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ หรือป่วยง่าย
ดูแลตัวเองอย่างไรหลังผ่าคลอด ยกของหนักได้มั้ย ผ่าคลอด ห้ามยกของหนักกี่โล
อย่างแรกที่คุณแม่ต้องรู้คือ หลังผ่าคลอด “การพักผ่อน” สำคัญมากค่ะ เพราะร่างกายของคุณแม่จะยังคงอ่อนเพลีย เนื่องจากการผ่าตัดและการให้นมลูกในตอนกลางคืน ดังนั้น เมื่อลูกหลับ คุณแม่ต้องนอนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นะคะ ส่วนการดูแลตัวเองด้านอื่น ๆ ก็เช่น
- วันแรกหลังผ่าคลอด คุณแม่ควรขยับตัวให้เร็วที่สุด เช่น ลุกนั่ง หรือยืนข้าง ๆ เตียง โดยควรทำอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้แผลที่หน้าท้องตึงเกินไป
- ควรพลิกตัวบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้ลำไส้ขยับ ฟื้นตัว และกลับมาทำงานได้ตามปกติเร็วขึ้น และลดอาการท้องอืด
- วันที่ 2 เป็นต้นไป คุณแม่อาจรู้สึกเจ็บแปลบที่แผลผ่าตัดได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้ามีอาการไปควรใช้มือหรือหมอนกดที่แผล หายใจลึก ๆ กลั้นไว้ก่อน แล้วจึงค่อยไอออกมาแรง ๆ 2-3 ครั้งเพื่อกำจัดเสมหะ
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารหรือดื่มน้ำ แต่ใช้วิธีค่อย ๆ เริ่มจิบน้ำหรือของเหลว เช่น ซุป น้ำแกงใส ทีละนิด แล้วค่อยขยับเป็นอาหารเหลว หรือโจ๊ก เมื่อพร้อมจึงเปลี่ยนเป็นอาหารย่อยง่ายรสจืด
- เลี่ยงการดื่มนมหรือน้ำอัดลม เพราะจะทำให้ท้องอืด และควรงดอาหารรสจัด อาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ
- แม้ว่าจะผ่าคลอดแล้ว แต่คุณแม่ก็จะยังคงมีน้ำคาวปลาอยู่ โดยในวันแรก ๆ จะมีสีแดงสด และมีปริมาณมาก จากนั้นจึงจะมีสีอ่อนลงและปริมาณลดลง คุณแม่ควรใช้ผ้าอนามัยและเปลี่ยนบ่อย ๆ โดยน้ำคาวปลาจะหยุดหรือแห้งไปเองในสัปดาห์ที่ 2-3
วิธีดูแลแผลผ่าคลอดอย่างถูกต้อง
เพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าคลอดเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อ รวมถึงไม่เป็นแผลเป็นง่าย ๆ คุณแม่จึงควรดูแลแผลด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ
- ห้ามแกะแผล และระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ หลังจากตัดไหมหรือแผลแห้งดีแล้ว หากโดนน้ำควรใช้ผ้าสะอาดซับน้ำ หรือเช็ดแผลเบา ๆ เท่านั้น
- หากมีอาการปวดแผล มีการอักเสบ บวมแดง แผลฉีกขาด หรือมีหนอง มีกลิ่นเหม็น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ไม่ยกของหนัก หรือเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง งดเว้นการบริหารที่ต้องยืดกล้ามเนื้อจนกว่าแผลจะหาย เพราะจะทำให้แผลอักเสบ และมีอาการเจ็บแผลได้
ผ่าคลอด ห้ามยกของหนักกี่โล หลังคลอดกี่วันออกแรงเยอะ ๆ ได้
หลังผ่าคลอดในช่วง 1-4 สัปดาห์แรกนั้น แม้ว่าคุณแม่จะอยากทำงานบ้าน เข้าครัว จัดข้าวของ มากแค่ไหน ก็ขอแนะนำให้งดเว้นจากภารกิจชีวิตทั้งปวงไปก่อนค่ะ เพราะว่าคุณแม่ผ่าคลอดไม่ควรยกของอะไรก็ตามที่หนักเกินกว่าการอุ้มทารกเพื่อให้นม ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า ผ่าคลอด ห้ามยกของหนักกี่โล ก็คือ ห้ามยกของหนักเกินกว่า 4 กิโลกรัมค่ะ
โดยจะต้องงดออกแรงยกของหนัก ออกกำลัง หรือทำงานหนัก อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพื่อรอให้แผลผ่าคลอดเริ่มปิดสนิท และไม่มีเลือดไหล เนื่องจากการออกแรงยกของหนักเร็วเกินไป โดยที่แผลผ่าคลอดยังไม่หายดี จะเพิ่มแรงกดไปที่แผลผ่าคลอด ทำให้แผลปริ แยก หรืออักเสบ ทำให้แผลหายช้า จนอาจจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ
จะเป็นยังไงถ้าคุณแม่ฝืนยกของหนักหลังผ่าคลอด
การออกแรงยกของหนัก หรือทำงานหนักเร็วจนเกินไป โดยที่ร่างกายยังพักฟื้นหลังผ่าคลอดไม่เต็มที่ จะส่งผลกระทบคุณแม่หลายอย่างเลยค่ะ เช่น
- เสี่ยงต่ออาการปวดหลัง เคล็ด ตึง บริเวณหลังส่วนล่าง รวมถึงอาจทำให้เอ็นอักเสบได้ด้วย
- เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากยังอ่อนแรง และพักฟื้นไม่เต็มที่
- เกิดแรงกดทับไปที่แผลผ่าคลอด ทำให้แผลเปิด ปริ เสี่ยงต่อการอักเสบ คราวนี้ยาตัวไหนก็เอาแผลเป็นหลังผ่าคลอดไม่อยู่ค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุให้คุณแม่ต้องอออกแรงยกของหนัก หลังการผ่าคลอด หรือทำกิจกรรมหนักจนแผลผ่าคลอดเปิด ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ เพื่อรับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง รวมถึงเย็บปิดแผลใหม่อีกครั้ง แต่ทางที่ดี อย่าฝืนตัวเองค่ะ ให้คนข้าง ๆ อย่างคุณพ่อของเจ้าตัวเล็กช่วยออกกำลังแทนไปก่อนสัก 1-2 เดือนดีกว่าค่ะ
ที่มา : hdmall.co.th , www.samitivejhospitals.com , www.enfababy.com , www.sikarin.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีทำให้แผลแห้ง ตกสะเก็ดเร็ว แม่ผ่าคลอดควรรู้ ลดรอยแผลเป็น
เช็กเลย! ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ 2567 เตรียมพร้อมคลอดแบบประหยัด!
ผลข้างเคียงระยะยาวของการบล็อกหลัง ผ่าคลอดบล็อคหลังดีไหม