ยินดีด้วยนะคะ! คุณกำลังจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาเติมเต็มความสุขในครอบครัวแล้ว การเลือกโรงพยาบาลสำหรับคลอดบุตรเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบ ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ ทั่วประเทศปี 2567 เพื่อให้ว่าที่คุณแม่ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณค่ะ
ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ ในกทม.
|
โรงพยาบาล |
คลอดธรรมชาติ |
ผ่าคลอด |
โรงพยาบาลราชวิถี |
เริ่มต้น 15,000 บาท |
เริ่มต้น 30,000 บาท |
โรงพยาบาลรามาธิบดี |
เริ่มต้น 25,000 บาท |
เริ่มต้น 45,000 บาท |
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ |
เริ่มต้น 19,500 บาท |
เริ่มต้น 42,500 บาท |
โรงพยาบาลศิริราช |
เริ่มต้น 20,000 บาท |
เริ่มต้น 45,000 บาท |
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า |
เริ่มต้น 15,000 บาท |
เริ่มต้น 38,000 บาท |
วชิรพยาบาล |
เริ่มต้น 12,000 บาท |
เริ่มต้น 28,000 บาท |
โรงพยาบาลทหารเรือ |
เริ่มต้น 9,000 บาท |
เริ่มต้น 22,000 บาท |
โรงพยาบาลตำรวจ |
เริ่มต้น 12,000 บาท |
เริ่มต้น 32,000 บาท |
โรงพยาบาลกลาง |
เริ่มต้น 5,500 บาท |
เริ่มต้น 15,000 บาท |
โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี |
เริ่มต้น 12,000 บาท |
เริ่มต้น 30,000 บาท |
ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ ในต่างจังหวัด
|
โรงพยาบาล |
คลอดธรรมชาติ |
ผ่าคลอด |
โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา |
เริ่มต้น 12,000 บาท |
เริ่มต้น 25,000 บาท |
โรงพยาบาลเชียงใหม่ |
เริ่มต้น 10,000 บาท |
เริ่มต้น 22,000 บาท |
โรงพยาบาลศรีนครินทร์ |
เริ่มต้น 14,000 บาท |
เริ่มต้น 30,000 บาท |
โรงพยาบาลสงขลา |
เริ่มต้น 12,000 บาท |
เริ่มต้น 28,000 บาท |
โรงพยาบาลขอนแก่น |
เริ่มต้น 13,000 บาท |
เริ่มต้น 27,000 บาท |
หมายเหตุ:
- ราคาข้างต้นเป็นราคาเบื้องต้น อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ ขึ้นอยู่กับกรณีของผู้ป่วย
- แพ็กเกจคลอดอาจรวมบริการอื่นๆ เพิ่มเติม กรุณาสอบถามกับทางโรงพยาบาลโดยตรงอีกครั้ง
หลักการเลือกโรงพยาบาลสำหรับคลอดบุตร
ก่อนจะเลือกโรงพยาบาลสำหรับคลอดบุตร ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น
-
- ความสะดวก ระยะทาง การเดินทางไปคลอด หากปวดท้องคลอดในชั่วโมงเร่งด่วนจะสามารถไปถึงโรงพยาบาลโดยเร็วได้หรือไม่
- ชื่อเสียงของโรงพยาบาล: มาตรฐานการบริการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แพ็กเกจคลอด: ราคา บริการที่รวมอยู่ โดยพิจารณาจากวิธีคลอด ว่าคุณแม่วางแผนคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด แพ็กเกจจะมีราคาแตกต่างกัน
- บริการเสริม: ห้องพิเศษ คอร์สเตรียมความพร้อมก่อนคลอด ฝากพิเศษ สามารถเลือกสูติแพทย์ได้
- สิทธิประกันสุขภาพ: โรงพยาบาลรองรับประกันประเภทใด และคุณแม่มีสิทธิ์การรักษาแบบใด เช่น มีสิทธิ์บัตรทอง (30 บาทรักษาทั่วไทย) หรือสิทธิ์ประกันสังคม โรงพยาบาลบางแห่งอาจมีการเบิกจ่ายค่าคลอดตามสิทธิ์เหล่านี้
คลอดธรรมชาติ vs ผ่าคลอด: เลือกแบบไหนดีสำหรับคุณ?
การตัดสินใจว่าจะคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอดนั้นเป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่สุดที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเผชิญ ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีคลอดที่เหมาะกับคุณและลูกน้อยมากที่สุด
การคลอดธรรมชาติ
ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ
- ฟื้นตัวเร็ว โดยทั่วไปคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติจะฟื้นตัวเร็วกว่าการผ่าคลอด สามารถกลับบ้านได้เร็วขึ้น และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเร็วขึ้น
- ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน การคลอดธรรมชาติมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการผ่าคลอด เช่น การติดเชื้อ การตกเลือด และการบาดเจ็บที่อวัยวะภายใน
- น้ำนมมาเร็วกว่า ฮอร์โมนที่หลั่งระหว่างการคลอดธรรมชาติจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม ทำให้ทารกเริ่มดูดนมได้เร็วขึ้น และช่วยให้การให้นมบุตรประสบความสำเร็จ
- ประสบการณ์การคลอดที่เป็นธรรมชาติ หลายๆ คนรู้สึกว่าการคลอดธรรมชาติเป็นประสบการณ์ที่พิเศษและเป็นธรรมชาติมากกว่าการผ่าคลอด
ข้อเสียของการคลอดธรรมชาติ
- เจ็บปวด การคลอดธรรมชาติอาจเจ็บปวดมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ออกแรงเบ่งคลอด อาจต้องใช้ยาแก้ปวด หรือบล็อกหลัง
- ระยะเวลาคลอดไม่แน่นอน ระยะเวลาคลอดธรรมชาติไม่แน่นอน อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง หรืออาจยาวนานหลายวัน
- ความเสี่ยงต่อการฉีกขาด มีโอกาสเกิดการฉีกขาดที่ช่องคลอด หรืออวัยวะเพศ
- ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนฉุกเฉิน ในบางกรณี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนฉุกเฉินที่จำเป็นต้องผ่าคลอด
การผ่าคลอด
ข้อดีของการผ่าคลอด
- ควบคุมระยะเวลาคลอดได้ แพทย์สามารถกำหนดวันและเวลาผ่าตัดได้ล่วงหน้า ทำให้คุณแม่เตรียมตัวได้อย่างเต็มที่
- ลดความเจ็บปวด คุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด เพราะจะได้รับการบล็อกหลัง
- ลดความเสี่ยงต่อการฉีกขาด การผ่าคลอดไม่มีความเสี่ยงต่อการฉีกขาดที่ช่องคลอด หรืออวัยวะเพศ
- เหมาะกับกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน การผ่าคลอดเป็นวิธีคลอดที่เหมาะกับกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ทารกอยู่ในท่าขวาง สายสะดือพันคอ หรือ ทารกตัวใหญ่
ข้อเสียของการผ่าคลอด
- ฟื้นตัวช้า โดยทั่วไปคุณแม่ที่ผ่าคลอดจะฟื้นตัวช้ากว่าการคลอดธรรมชาติ อาจใช้เวลาหลายวันในโรงพยาบาล และต้องพักฟื้นที่บ้านนานหลายสัปดาห์
- ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน การผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากกว่าการคลอดธรรมชาติ เช่น การติดเชื้อ การตกเลือด และลิ่มเลือดอุดตัน
- แผลผ่าตัด การผ่าคลอดจะมีแผลเป็นที่หน้าท้อง ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะจางหาย
- น้ำนมมาช้ากว่า ฮอร์โมนที่หลั่งระหว่างการผ่าคลอดจะน้อยกว่าการคลอดธรรมชาติ อาจทำให้การผลิตน้ำนมช้าลง และอาจทำให้การให้นมบุตรประสบความสำเร็จได้ยากขึ้น
การคลอดธรรมชาติและการผ่าคลอดต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ไม่มีวิธีใดดีที่สุด วิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยรวม ความเสี่ยง ความชอบส่วนตัว และการปรึกษาแพทย์ค่ะ หวังว่าข้อมูล ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ และ หลักการเลือกโรงพยาบาล รวมถึงข้อดีข้อเสียของวิธีคลอดลูกทั้งสองแบบ จะช่วยคุณแม่ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่เหมาะกับคุณที่สุดได้ง่ายขึ้นนะคะ
ที่มา : Andawin Clinic , โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รวมแพ็กเกจคลอด ปี 2567 ค่าคลอดเหมาจ่าย รพ.เอกชน ในกรุงเทพฯ
ลูกไม่กลับหัว ผ่าคลอดแบบไหน แม่ใกล้คลอดควรรู้!
ฤกษ์คลอด 2567 ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร ปีมังกรทอง เสริมดวงสิริมงคลให้แม่และลูกน้อย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!