ไฟเบอร์ ถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีประโยชน์ และจำเป็นต่อร่างกายมาก ๆ สามารถหารับประทานได้ทั้งจากแหล่งอาหารต่าง ๆ อย่างผักและผลไม้ และยังสามารถหารับประทานได้จากอาหารเสริม ซึ่งไฟเบอร์ถือเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของระบบขับถ่าย และมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ มากมาย ในเมื่อไฟเบอร์มีประโยชน์ต่อการขับถ่าย ดังนั้น บทความในวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า ไฟเบอร์กับยาระบาย นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงเรามาบอกถึงประโยชน์ของไฟเบอร์ว่านอกจากจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้วยังประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อะไรอีกบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาตามไปดูพร้อมกันเลย
ไฟเบอร์กับยาระบาย แตกต่างกันอย่างไร?
ไฟเบอร์ (Dietary Fiber)
ไฟเบอร์ (Dietary Fiber) หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กากใยอาหาร ซึ่งจะสามารถพบไฟเบอร์เหล่านี้ได้ในแหล่งอาหาร อย่าง พืช ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไฟเบอร์จะแบ่งออกเป็นทั้ง 2 ชนิด ซึ่งไฟเบอร์ทั้ง 2 ชนิดนี้ ล้วนมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายด้วยกันทั้งสิ้น ที่จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ลดการเกิดปัญหาท้องผูก และลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
-
ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (Soluble Fiber)
ซึ่งไฟเบอร์ชนิดนี้จะสามารถพบได้ในกลุ่ม ธัญพืช, ถั่ว, แอปเปิล หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติของไฟเบอร์ชนิดนี้คือจะช่วยในการชะลอการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล และช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
-
ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำไม่ได้ (Insoluble Fiber)
สำหรับไฟเบอร์ชนิดที่ไม่สามารถละลายน้ำได้ จะช่วยให้อุจจาระกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการเกิดท้องผูกได้ ซึ่งไฟเบอร์ชนิดนี้จะพบได้ในกลุ่มธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ผักใบเขียว และถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ
ยาระบาย (Laxative Drug)
สำหรับยาระบายจะเป็นยาที่ใช้รักษาอาการท้องผูก ซึ่งจะออกฤทธิ์โดยการไปกระตุ้นให้การทำงานของลำไส้ และยังช่วยเพิ่มความอ่อนนุ่มให้อุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้สะดวก และง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา เช่น อ่อนเพลีย, ปวดท้อง, ท้องเสียรุนแรง หรือเลือดออกทางทวารหนัก เป็นต้น ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกใช้ยาระบายควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนทุกครั้ง แล้วก็ยาระบายไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลด หรือผอมลงนะคะ ดังนั้น จึงไม่ควรนำยาระบายมาใช้เพื่อเป็นยาลดน้ำหนัก เพราะยังไม่มีการรับรองออกมาว่าการใช้ยาระบายนั้นจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องผูกตอนท้อง กินยาระบาย ได้ไหม กินยาถ่าย อันตรายกับลูกหรือเปล่า
ไฟเบอร์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
สำหรับอาหารเสริมไฟเบอร์ ไม่ว่าจะในรูปแบบผง แบบเม็ด หรือแบบเจลลี่ หรือไฟเบอร์ที่มาจากแหล่งอาหาร ล้วนให้ประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งคุณสมบัติเด่นของไฟเบอร์ก็คือมีส่วนช่วยปรับสมดุลของลำไส้ให้ทำงานได้อย่างปกติ ช่วยเพิ่มกากใยอาหาร ลดปัญหาท้องผูก ทำให้ขับถ่ายได้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง ยังช่วยกำจัดของเสีย ล้างสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายอีกด้วย และถ้าหากใครกำลังควบคุมน้ำหนักไฟเบอร์ การรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ หรือรับประทานไฟเบอร์ที่มาจากแหล่งอาหารต่าง ๆ ก็จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้อง ลดความอยากอาหารระหว่างวัน
นอกจากนี้ หากใครที่มีไขมันในเลือดสูง การรับประทานไฟเบอร์เข้าไปก็จะช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ แถมไฟเบอร์ยังมีส่วนช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อีกทั้ง ยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วยค่ะ
วิธีการรับประทานไฟเบอร์ให้ปลอดภัย
สำหรับวิธีการรับประทาน แนะนำให้เลือกรับประทานปริมาณที่เหมาะสมตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งก็คือปริมาณ 25 กรัมต่อวัน และดื่มน้ำควบคู่กันไปให้มาก ๆ ซึ่งไฟเบอร์สามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา แต่ถ้าหากใครต้องการรับประทานไฟเบอร์เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย เนื่องจากมีปัญหาท้องผูก ขับถ่ายยาก แนะนำให้รับประทานไฟเบอร์ช่วงก่อนนอนจะดีที่สุด เพราะไฟเบอร์จะไปกระตุ้นการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้ตื่นเช้ามาคุณก็จะสามารถขับถ่ายได้ง่ายมากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินไฟเบอร์ได้ไหม ไฟเบอร์มีประโยชน์ต่อคนท้องอย่างไร
ข้อควรระวังสำหรับการรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์
- การรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ล้วนให้ประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ซึ่งข้อควรระวังในการรับจะรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ ก็คือจะต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป เพราะอาจจะส่งผลให้ร่างกายเคยชิน และทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้เองตามปกติ แล้วก็ถ้าหากรับประทานไฟเบอร์ในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจส่งผลทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุ และวิตามินได้น้อยลงอีกด้วยค่ะ
- หลังรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ไม่ว่าจะในรูปแบบชงดื่ม เจลลี่ หรือแบบเม็ด ควรดื่มน้ำตามเยอะ ๆ ควบคู่ไปด้วยนะคะ เพื่อที่จะช่วยให้ไฟเบอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และป้องกันภาวะอุดตันของลำไส้อีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ไฟเบอร์กับยาระบาย นั้นถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยนะคะ ซึ่งการใช้ยาระบาย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้นะคะ เพราะถ้าหากใช้ผิดวิธีอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา ส่วนไฟเบอร์ไม่ว่าจะมาจากแหล่งอาหาร หรืออาหารเสริมนั้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่ายได้อย่างปลอดภัย
หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน และถ้าหากใครต้องการที่จะหยุดรับประทานไฟเบอร์แบบอาหารเสริม ควรหันมารับประทานผัก และผลไม้ชนิดที่มีไฟเบอร์สูง และดื่มน้ำให้สม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้เช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 10 APPLE CIDER ยี่ห้อไหนดี ตัวช่วยลดพุง ลดน้ำหนัก ดีท็อกซ์ร่างกาย
โยเกิร์ตลดน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี จะลดความอ้วนต้องกินอย่างไรให้ได้ผล
นมลดน้ำหนัก แคลอรีต่ำ หาซื้อง่าย กับ 7 นมน้ำตาลน้อยเหมาะกับคนลดความอ้วน!
ที่มา : pobpad, kapook, charmace
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!