คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยแพ้นมวัว อาจเคยได้ยินมาบ้างว่าเด็กที่แพ้นมวัวนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับ “หูและการได้ยิน” ยิ่งเมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวว่า เด็กแพ้นมวัวคนหนึ่ง ถูกครูบังคับให้ดื่มนมวัวจนเกิดอาการป่วยหูชั้นกลางอักเสบ ก็น่าจะยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารเกิดความกังวลใจมากขึ้น ดังนั้น บทความนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาพิจารณากันว่า เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย? มาทำความเข้าใจ ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจาก ภาวะแพ้นมวัว ของลูกน้อยกันค่ะ
ภาวะแพ้นมวัว คืออะไร?
ก่อนไปไขข้อสงสัยว่า เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก จริงมั้ย อยากให้มาทำความเข้าใจเรื่อง “ภาวะแพ้นมวัว” กันก่อนค่ะว่าคืออะไร
การแพ้นมวัว หรือ Cow’s Milk Allergy คือ ภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเด็กมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อ “โปรตีน” ในนมวัวมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแพ้ในระบบต่างๆ ทั้งผิวหนัง ระบบทางเดินอาหาร หรือระบบทางเดินหายใจ เช่น ผื่นคัน ท้องเสีย อาเจียน ริมฝีปาก ลิ้นหรือหน้าบวม หรือหายใจลำบาก โดยความรุนแรงและระยะเวลาในการเกิดอาการแพ้จะแตกต่างกันออกไปในเด็กแต่ละคน ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ได้ด้วย
อาการ เด็กแพ้นมวัว เป็นยังไง? |
|
ผิวหนัง |
|
ระบบทางเดินอาหาร |
|
ระบบทางเดินหายใจ |
|
อาการอื่น ๆ |
|
นอกจากนี้ เด็กแพ้นมวัว บางคนอาจมี “ภาวะภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน” (Anaphylaxis) ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 0.6 โดยมีอาการหายใจลำบาก หรือหายใจเสียงดัง เวียนศีรษะอย่างต่อเนื่อง เสียงแหบ พูดลำบาก ลิ้นหรือคอบวม รู้สึกแน่นภายในลำคอ หอบ ช็อก และชัก หมดสติ รวมถึงมีอาการตัวซีดหรือตัวอ่อนร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังการดื่มนมวัว โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ด่วนค่ะเพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เปิดสาเหตุ ทำไม? เด็กแพ้นมวัว
อย่างที่บอกค่ะว่า การแพ้นมวัว เป็นอาการที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อโปรตีนในนมวัว 2 ตัวคือ
- โปรตีนเวย์ (Whey)
- โปรตีนเคซีน (Casein)
จนเกิดการอักเสบ ทำให้ร่างกายผลิตสารฮิสตามีน (Histamine) ที่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ขึ้น ทั้งนี้ คนที่มีอาการแพ้นมวัวอาจแพ้โปรตีนตัวใดตัวหนึ่ง หรือแพ้โปรตีนทั้ง 2 ตัวก็ได้
โดยคนที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้นมวัว มักจะเป็นเด็กเล็ก ผู้ป่วยภูมิแพ้ชนิดต่างๆ ผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) หรือสมาชิกในครอบครัวมีประวัติป่วยด้วยอาการแพ้อาหาร หรือภูมิแพ้ชนิดอื่น
เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย?
เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย? ก็ต้องตอบว่า การแพ้นมวัวโดยตรงจะไม่ทำให้เกิดภาวะหูหนวกค่ะ แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับปัญหาเกี่ยวกับหูบางอย่าง เช่น เรื่องของ “หูชั้นกลางอักเสบ” ซึ่งจากกรณีที่เป็นข่าวในปัจจุบันนั้นก็พบว่า เด็กที่แพ้นมวัวตามข่าวนั้นมีการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีอาการป่วยหูชั้นกลางอักเสบจริง แต่ก็ยังต้องมีการสืบค้นและวินิจฉัยต่อไปถึงความเชื่อมโยงนี้ค่ะ
ทั้งนี้ “ภาวะหูชั้นกลางอักเสบ” (Otitis media with effusion) นั้นเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยหูของคนเรานั้นจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักค่ะ ได้แก่ หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน ซึ่งหูชั้นกลางจะมีการเชื่อมต่อกับช่องปากด้านหลังผ่านทางท่อเล็กๆ เรียกว่า “ท่อยูสเตเชียน” เมื่อเราเป็นหวัด มีการติดเชื้อบริเวณคอหรือจมูก หรือเป็นจมูกอักเสบ จากภูมิแพ้ ท่อยูสเตเชียนจะบวมและตัน เกิดการสะสมของน้ำในหูชั้นกลาง หากมีเชื้อในน้ำก็จะเกิดการอักเสบ ทำให้แก้วหูมีการบวมและปวดหูได้ เกิดเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบนั่นเอง
และคำถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเรื่อง เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก หรือส่งผลให้เกิดภาวะหูชั้นกลางอักเสบหรือไม่นั้น เป็นที่ถกเถียงมานานแล้วค่ะ ซึ่งเว็บไซต์ National Library of Medicine ได้เคยเปิดเผยผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการแพ้โปรตีนนมวัวและภาวะหูชั้นกลางอักเสบ โดยสรุปไฮต์ไลท์น่าสนใจไว้ว่า
- การอักเสบจากภูมิแพ้ในเยื่อบุจมูก มีความสัมพันธ์กับการทำงานผิดปกติของท่อยูสเตเชียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดหูชั้นกลางอักเสบ
- การศึกษาในอดีตเกี่ยวกับการแพ้โปรตีนนมวัวและหูชั้นกลางอักเสบ ยังมีข้อจำกัด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
- ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า การแพ้โปรตีนนมวัวเกี่ยวข้องกับหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน หรือชนิดมีน้ำคั่งในหูชั้นกลาง
อย่างไรก็ตาม มีการศึกษา 4 ชิ้น ที่ระบุอัตราความชุกของการแพ้โปรตีนนมวัวในเด็กกลุ่มต่างๆ ไว้ดังนี้ค่ะ
- 0.2% ของเด็ก 382 คนที่มีอาการพูดช้าเนื่องจากหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังชนิดมีน้ำคั่งในหูชั้นกลาง มีการแพ้โปรตีนนมวัวร่วมด้วย
- 10.7% ของเด็ก 242 คนที่เข้ารับการผ่าตัดหู คอ จมูก มีการแพ้โปรตีนนมวัว
- 40% ของเด็ก 25 คนที่มีอาการหูชั้นกลางอักเสบชนิดมีน้ำคั่งแบบเรื้อรัง มีการแพ้โปรตีนนมวัว
- เด็ก 186 คนที่มีแนวโน้มที่จะเป็นหูชั้นกลางอักเสบ มีแนวโน้มที่จะแพ้โปรตีนนมวัว
ทั้งนี้ การศึกษาที่ 4 ชิ้นไม่ได้ระบุอัตราความชุกของการแพ้โปรตีนนมวัวที่ชัดเจนว่ามากแค่ไหน แพ้ในระดับใด แต่ระบุเพียงแนวโน้มที่สูงขึ้นในการเกิดหูชั้นกลางอักเสบในเด็กที่แพ้โปรตีนนมวัวเท่านั้นค่ะ
ทำไม? เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก หูชั้นกลางอักเสบ |
|
การอักเสบ | การแพ้นมวัวอาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจรวมถึงบริเวณเยื่อบุของ “ท่อยูสเตเชียน” ที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางและโพรงจมูก |
การทำงานของท่อยูสเตเชียน | เมื่อท่อยูสเตเชียนทำงานผิดปกติ อาจทำให้ของเหลวสะสมในหูชั้นกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อและหูชั้นกลางอักเสบ |
อาการที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตคือ หากลูกน้อยของคุณมีอาการแพ้นมวัว และมีอาการที่บ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับหู เช่น
- ปวดหู โดยเฉพาะเวลาที่นอนหงาย
- ดึงหูบ่อยๆ
- นอนยาก ร้องกวน งอแงมากกว่าปกติ อารมณ์หงุดหงิดมากผิดปกติ หรือซึมลง โดยเฉพาะเวลาที่มีไข้สูง
- มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส
- น้ำมูกไหล
- ได้ยินไม่ชัด มีปัญหาในการได้ยิน หรือตอบสนองต่อเสียงต่างๆ ช้า
- สูญเสียการทรงตัว
- มีของเหลวไหลออกมาจากหู
- ปวดศีรษะ
- ความอยากอาหารลดลง
หากลูกน้อยมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
ระดับของการอักเสบของหูชั้นกลาง |
|
หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน | หากไม่เคยมีอาการหูชั้นกลางอักเสบมาก่อน จะถือว่าเป็นหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากอาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว |
ภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกลาง | เมื่อเกิดการอักเสบที่หูชั้นกลางจะทำให้เกิดของเหลวภายในหู ที่อาจส่งผลต่อการได้ยินในระยะสั้น |
ภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกลางเรื้อรัง | ของเหลวที่คั่งในหูเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสซ้ำได้ หากเกิดการติดเชื้อบ่อยๆ ก็อาจส่งผลต่อการได้ยิน |
หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง | หากพบว่ามีการฉีกขาดของแก้วหูบ่อยๆ และมีร่องรอยของการอักเสบ ก็อาจวินิจฉัยได้ว่ามีการอักเสบอย่างเรื้อรังที่หูชั้นกลาง |
ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เป็นไปได้เมื่อ เด็กแพ้นมวัว
- เด็กที่แพ้นมวัวอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแพ้อาหารชนิดอื่นได้ด้วย เช่น ไข่ ถั่ว ถั่วเหลือง เนื้อสัตว์
- อาจเป็นโรคไข้ละอองฟาง ซึ่งผู้ป่วยจะตอบสนองเมื่อสัมผัสกับขนสัตว์ ฝุ่น ละอองเกสรหรือสารก่อภูมิแพ้ชนิดอื่น
- อาจส่งผลให้เกิดโรคขาดสารอาหาร ภาวะเลี้ยงไม่โต ภาวะของการขาดธาตุเหล็กเรื้อรัง (Chronic Iron Deficiency Anemia) หรือภาวะการดูดซึมอาหารของลำไส้ผิดปกติได้
วิธีป้องกันและดูแล เด็กแพ้นมวัว เพื่อไม่ให้ เสี่ยงหูหนวก
สิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรกที่จะป้องกันไม่ให้ เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก หรือเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ คือ “การหลีกเลี่ยงนมวัว” และ “ผลิตภัณฑ์จากนมวัว” อย่างเคร่งครัด รวมถึงปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนการกินอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อย เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างครบถ้วนค่ะ ส่วนการป้องกันและดูแลด้านอื่นๆ อาจทำได้ดังนี้
- ป้องกันตั้งแต่ท้อง โดยอาการแพ้นมวัวคุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มนมตามความเหมาะสม ไม่ดื่มมากเกินไป เพื่อป้องกันภาวะแพ้นมวัวของทารกแรกเกิด
- กรณีทารกได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะแพ้นมวัว ควรให้นมแม่หรืออาหารเสริมทารกปลอดสารก่อภูมิแพ้เป็นอาหารหลัก และแม่ให้นมควรหลีกเลี่ยงนมวัวด้วย เพราะโปรตีนในนมวัวสามารถส่งผ่านทางนมแม่ได้
- กรณีลูกเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยง ที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่ หรือทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ควรปฏิบัติดังนี้
- กินนมแม่อย่างเดียว ในช่วง 6 เดือนแรก โดยแม่ไม่จำเป็นต้องงดนมวัวหรืองดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวหลีกเลี่ยงอาหารเสริมใด ๆ ในช่วง 6 เดือนแรก
- ควรเริ่มให้อาหารเสริมกับลูกครั้งละ 1 ชนิด และค่อยๆ เพิ่มชนิดของอาหารเสริมทุกๆ 3-5 วัน หากไม่มีอาการแพ้ โดยเริ่มอาหารเสริมที่มีความเสี่ยงที่จะแพ้น้อยเป็นลำดับแรก เช่น เริ่มกินไข่แดงก่อนไข่ขาว หรือเริ่มกินเนื้อหมู เนื้อไก่ ก่อนอาหารทะเล เป็นต้น
- คุณแม่ไม่ควรงดอาหารใดๆ ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ หรือช่วงให้นม ยกเว้นกรณีที่คุณแม่หรือลูกน้อยมีประวัติการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ มาก่อน
ทั้งนี้ หากลูกน้อยสามารถงดดื่มนมวัว หรืองดกินอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวได้ดี ก็จะมีอาการดีขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้นค่ะ โดยที่…
- ร้อยละ 45-56 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 1 ปี
- ร้อยละ 60-77 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 2 ปี
- ร้อยละ 84-87 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 3 ปี
- ร้อยละ 90-95 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 5-10 ปี
เด็กแพ้นมวัว อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดหูชั้นกลางอักเสบนะคะ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อการได้ยินได้ หรือมีโอกาสหูหนวกได้ อย่างไรก็ตาม การแพ้นมวัวไม่ได้ทำให้เกิดภาวะหูหนวกโดยตรง การดูแลและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด รวมถึงการปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณมีสุขภาพที่ดีและมีการได้ยินที่ปกติได้ค่ะ
ที่มา : www.pobpad.com , www.medparkhospital.com , bangkokhospitalchanthaburi.com , pmc.ncbi.nlm.nih.gov
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เช็กสัญญาณเสี่ยง! ออทิสติกเทียม รีบแก้ไข ก่อนเป็นภัยคุกคามพัฒนาการลูก
6 เรื่องต้องห้าม! หยอกล้อเด็ก กระทบ Self-Esteem แหย่เด็กเล่น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ลูกติดแม่มาก เรื่องธรรมดา หรือปัญหาพฤติกรรม รับมือยังไงให้ถูกวิธี