เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย? ไขข้อสงสัยอย่างรู้เท่าทัน ป้องกันได้

lead image

เด็กแพ้นมวัว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่างค่ะ แต่มีความเสี่ยงมากถึงขั้นทำให้เกิดอาการหูหนวกได้หรือไม่ ต้องมาพิจารณาไปพร้อมกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยแพ้นมวัว อาจเคยได้ยินมาบ้างว่าเด็กที่แพ้นมวัวนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับ “หูและการได้ยิน” ยิ่งเมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวว่า เด็กแพ้นมวัวคนหนึ่ง ถูกครูบังคับให้ดื่มนมวัวจนเกิดอาการป่วยหูชั้นกลางอักเสบ ก็น่าจะยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารเกิดความกังวลใจมากขึ้น ดังนั้น บทความนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาพิจารณากันว่า เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย? มาทำความเข้าใจ ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจาก ภาวะแพ้นมวัว ของลูกน้อยกันค่ะ

เด็กแพ้นมวัว ไม่ควรกินนมวัว

ภาวะแพ้นมวัว คืออะไร?

ก่อนไปไขข้อสงสัยว่า เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก จริงมั้ย อยากให้มาทำความเข้าใจเรื่อง “ภาวะแพ้นมวัว” กันก่อนค่ะว่าคืออะไร

การแพ้นมวัว หรือ Cow’s Milk Allergy คือ ภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเด็กมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อ “โปรตีน” ในนมวัวมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแพ้ในระบบต่างๆ ทั้งผิวหนัง ระบบทางเดินอาหาร หรือระบบทางเดินหายใจ เช่น ผื่นคัน ท้องเสีย อาเจียน ริมฝีปาก ลิ้นหรือหน้าบวม หรือหายใจลำบาก โดยความรุนแรงและระยะเวลาในการเกิดอาการแพ้จะแตกต่างกันออกไปในเด็กแต่ละคน ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ได้ด้วย

อาการ เด็กแพ้นมวัว เป็นยังไง?

ผิวหนัง
  • ผื่นลมพิษ
  • ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือผื่นแพ้สัมผัส
  • เกิดรอยแดง
  • หน้า ริมฝีปาก และบริเวณรอบดวงตาบวม
ระบบทางเดินอาหาร
  • อาการปวดท้อง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องร่วง
  • ท้องผูก หรืออุจจาระปนเลือด
ระบบทางเดินหายใจ
  • อาการน้ำมูกเรื้อรัง
  • ไอ
  • เสมหะเรื้อรัง
  • อาจมีอาการหอบ
  • หายใจเป็นเสียงหวีด
อาการอื่น ๆ
  • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
  • อาจมีอาการซีด

นอกจากนี้ เด็กแพ้นมวัว บางคนอาจมี “ภาวะภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน” (Anaphylaxis) ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 0.6 โดยมีอาการหายใจลำบาก หรือหายใจเสียงดัง เวียนศีรษะอย่างต่อเนื่อง เสียงแหบ พูดลำบาก ลิ้นหรือคอบวม รู้สึกแน่นภายในลำคอ หอบ ช็อก และชัก หมดสติ รวมถึงมีอาการตัวซีดหรือตัวอ่อนร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังการดื่มนมวัว โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ด่วนค่ะเพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เปิดสาเหตุ ทำไม? เด็กแพ้นมวัว

อย่างที่บอกค่ะว่า การแพ้นมวัว เป็นอาการที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อโปรตีนในนมวัว 2 ตัวคือ

  1. โปรตีนเวย์ (Whey)
  2. โปรตีนเคซีน (Casein)

จนเกิดการอักเสบ ทำให้ร่างกายผลิตสารฮิสตามีน (Histamine) ที่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ขึ้น ทั้งนี้ คนที่มีอาการแพ้นมวัวอาจแพ้โปรตีนตัวใดตัวหนึ่ง หรือแพ้โปรตีนทั้ง 2 ตัวก็ได้

โดยคนที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้นมวัว มักจะเป็นเด็กเล็ก ผู้ป่วยภูมิแพ้ชนิดต่างๆ ผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) หรือสมาชิกในครอบครัวมีประวัติป่วยด้วยอาการแพ้อาหาร หรือภูมิแพ้ชนิดอื่น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย?

เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก ! จริงมั้ย? ก็ต้องตอบว่า การแพ้นมวัวโดยตรงจะไม่ทำให้เกิดภาวะหูหนวกค่ะ แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับปัญหาเกี่ยวกับหูบางอย่าง เช่น เรื่องของ “หูชั้นกลางอักเสบ” ซึ่งจากกรณีที่เป็นข่าวในปัจจุบันนั้นก็พบว่า เด็กที่แพ้นมวัวตามข่าวนั้นมีการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีอาการป่วยหูชั้นกลางอักเสบจริง แต่ก็ยังต้องมีการสืบค้นและวินิจฉัยต่อไปถึงความเชื่อมโยงนี้ค่ะ

ทั้งนี้ “ภาวะหูชั้นกลางอักเสบ” (Otitis media with effusion)  นั้นเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยหูของคนเรานั้นจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักค่ะ ได้แก่ หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน ซึ่งหูชั้นกลางจะมีการเชื่อมต่อกับช่องปากด้านหลังผ่านทางท่อเล็กๆ เรียกว่า “ท่อยูสเตเชียน” เมื่อเราเป็นหวัด มีการติดเชื้อบริเวณคอหรือจมูก หรือเป็นจมูกอักเสบ จากภูมิแพ้ ท่อยูสเตเชียนจะบวมและตัน เกิดการสะสมของน้ำในหูชั้นกลาง หากมีเชื้อในน้ำก็จะเกิดการอักเสบ ทำให้แก้วหูมีการบวมและปวดหูได้ เกิดเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบนั่นเอง

และคำถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเรื่อง เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก หรือส่งผลให้เกิดภาวะหูชั้นกลางอักเสบหรือไม่นั้น เป็นที่ถกเถียงมานานแล้วค่ะ ซึ่งเว็บไซต์ National Library of Medicine ได้เคยเปิดเผยผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการแพ้โปรตีนนมวัวและภาวะหูชั้นกลางอักเสบ โดยสรุปไฮต์ไลท์น่าสนใจไว้ว่า

  • การอักเสบจากภูมิแพ้ในเยื่อบุจมูก มีความสัมพันธ์กับการทำงานผิดปกติของท่อยูสเตเชียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดหูชั้นกลางอักเสบ
  • การศึกษาในอดีตเกี่ยวกับการแพ้โปรตีนนมวัวและหูชั้นกลางอักเสบ ยังมีข้อจำกัด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
  • ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า การแพ้โปรตีนนมวัวเกี่ยวข้องกับหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน หรือชนิดมีน้ำคั่งในหูชั้นกลาง

อย่างไรก็ตาม มีการศึกษา 4 ชิ้น ที่ระบุอัตราความชุกของการแพ้โปรตีนนมวัวในเด็กกลุ่มต่างๆ ไว้ดังนี้ค่ะ

  • 0.2% ของเด็ก 382 คนที่มีอาการพูดช้าเนื่องจากหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังชนิดมีน้ำคั่งในหูชั้นกลาง มีการแพ้โปรตีนนมวัวร่วมด้วย
  • 10.7% ของเด็ก 242 คนที่เข้ารับการผ่าตัดหู คอ จมูก มีการแพ้โปรตีนนมวัว
  • 40% ของเด็ก 25 คนที่มีอาการหูชั้นกลางอักเสบชนิดมีน้ำคั่งแบบเรื้อรัง มีการแพ้โปรตีนนมวัว
  • เด็ก 186 คนที่มีแนวโน้มที่จะเป็นหูชั้นกลางอักเสบ มีแนวโน้มที่จะแพ้โปรตีนนมวัว

ทั้งนี้ การศึกษาที่ 4 ชิ้นไม่ได้ระบุอัตราความชุกของการแพ้โปรตีนนมวัวที่ชัดเจนว่ามากแค่ไหน แพ้ในระดับใด แต่ระบุเพียงแนวโน้มที่สูงขึ้นในการเกิดหูชั้นกลางอักเสบในเด็กที่แพ้โปรตีนนมวัวเท่านั้นค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทำไม? เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก หูชั้นกลางอักเสบ

การอักเสบ การแพ้นมวัวอาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจรวมถึงบริเวณเยื่อบุของ “ท่อยูสเตเชียน” ที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางและโพรงจมูก
การทำงานของท่อยูสเตเชียน เมื่อท่อยูสเตเชียนทำงานผิดปกติ อาจทำให้ของเหลวสะสมในหูชั้นกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อและหูชั้นกลางอักเสบ

อาการที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตคือ หากลูกน้อยของคุณมีอาการแพ้นมวัว และมีอาการที่บ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับหู เช่น

  • ปวดหู โดยเฉพาะเวลาที่นอนหงาย
  • ดึงหูบ่อยๆ
  • นอนยาก ร้องกวน งอแงมากกว่าปกติ อารมณ์หงุดหงิดมากผิดปกติ หรือซึมลง โดยเฉพาะเวลาที่มีไข้สูง
  • มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส
  • น้ำมูกไหล
  • ได้ยินไม่ชัด มีปัญหาในการได้ยิน หรือตอบสนองต่อเสียงต่างๆ ช้า
  • สูญเสียการทรงตัว
  • มีของเหลวไหลออกมาจากหู
  • ปวดศีรษะ
  • ความอยากอาหารลดลง

หากลูกน้อยมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ระดับของการอักเสบของหูชั้นกลาง

หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน หากไม่เคยมีอาการหูชั้นกลางอักเสบมาก่อน จะถือว่าเป็นหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากอาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกลาง เมื่อเกิดการอักเสบที่หูชั้นกลางจะทำให้เกิดของเหลวภายในหู ที่อาจส่งผลต่อการได้ยินในระยะสั้น
ภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกลางเรื้อรัง ของเหลวที่คั่งในหูเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสซ้ำได้ หากเกิดการติดเชื้อบ่อยๆ ก็อาจส่งผลต่อการได้ยิน
หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง หากพบว่ามีการฉีกขาดของแก้วหูบ่อยๆ และมีร่องรอยของการอักเสบ ก็อาจวินิจฉัยได้ว่ามีการอักเสบอย่างเรื้อรังที่หูชั้นกลาง

ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เป็นไปได้เมื่อ เด็กแพ้นมวัว

  • เด็กที่แพ้นมวัวอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแพ้อาหารชนิดอื่นได้ด้วย เช่น ไข่ ถั่ว ถั่วเหลือง เนื้อสัตว์
  • อาจเป็นโรคไข้ละอองฟาง ซึ่งผู้ป่วยจะตอบสนองเมื่อสัมผัสกับขนสัตว์ ฝุ่น ละอองเกสรหรือสารก่อภูมิแพ้ชนิดอื่น
  • อาจส่งผลให้เกิดโรคขาดสารอาหาร ภาวะเลี้ยงไม่โต ภาวะของการขาดธาตุเหล็กเรื้อรัง (Chronic Iron Deficiency Anemia) หรือภาวะการดูดซึมอาหารของลำไส้ผิดปกติได้

 

วิธีป้องกันและดูแล เด็กแพ้นมวัว เพื่อไม่ให้ เสี่ยงหูหนวก

สิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรกที่จะป้องกันไม่ให้ เด็กแพ้นมวัว เสี่ยงหูหนวก หรือเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ คือ “การหลีกเลี่ยงนมวัว” และ “ผลิตภัณฑ์จากนมวัว” อย่างเคร่งครัด รวมถึงปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนการกินอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อย เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างครบถ้วนค่ะ ส่วนการป้องกันและดูแลด้านอื่นๆ อาจทำได้ดังนี้

  • ป้องกันตั้งแต่ท้อง โดยอาการแพ้นมวัวคุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มนมตามความเหมาะสม ไม่ดื่มมากเกินไป เพื่อป้องกันภาวะแพ้นมวัวของทารกแรกเกิด
  • กรณีทารกได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะแพ้นมวัว ควรให้นมแม่หรืออาหารเสริมทารกปลอดสารก่อภูมิแพ้เป็นอาหารหลัก และแม่ให้นมควรหลีกเลี่ยงนมวัวด้วย เพราะโปรตีนในนมวัวสามารถส่งผ่านทางนมแม่ได้
  • กรณีลูกเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยง ที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่ หรือทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ควรปฏิบัติดังนี้
  1. กินนมแม่อย่างเดียว ในช่วง 6 เดือนแรก โดยแม่ไม่จำเป็นต้องงดนมวัวหรืองดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวหลีกเลี่ยงอาหารเสริมใด ๆ ในช่วง 6 เดือนแรก
  2. ควรเริ่มให้อาหารเสริมกับลูกครั้งละ 1 ชนิด และค่อยๆ เพิ่มชนิดของอาหารเสริมทุกๆ 3-5 วัน หากไม่มีอาการแพ้ โดยเริ่มอาหารเสริมที่มีความเสี่ยงที่จะแพ้น้อยเป็นลำดับแรก เช่น เริ่มกินไข่แดงก่อนไข่ขาว หรือเริ่มกินเนื้อหมู เนื้อไก่ ก่อนอาหารทะเล เป็นต้น
  3. คุณแม่ไม่ควรงดอาหารใดๆ ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ หรือช่วงให้นม ยกเว้นกรณีที่คุณแม่หรือลูกน้อยมีประวัติการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ มาก่อน

ทั้งนี้ หากลูกน้อยสามารถงดดื่มนมวัว หรืองดกินอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวได้ดี ก็จะมีอาการดีขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้นค่ะ โดยที่…

  • ร้อยละ 45-56 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 1 ปี
  • ร้อยละ 60-77 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 2 ปี
  • ร้อยละ 84-87 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 3 ปี
  • ร้อยละ 90-95 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 5-10 ปี

เด็กแพ้นมวัว อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดหูชั้นกลางอักเสบนะคะ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อการได้ยินได้ หรือมีโอกาสหูหนวกได้ อย่างไรก็ตาม การแพ้นมวัวไม่ได้ทำให้เกิดภาวะหูหนวกโดยตรง การดูแลและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด รวมถึงการปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณมีสุขภาพที่ดีและมีการได้ยินที่ปกติได้ค่ะ

 

ที่มา : www.pobpad.com , www.medparkhospital.com , bangkokhospitalchanthaburi.com , pmc.ncbi.nlm.nih.gov

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เช็กสัญญาณเสี่ยง! ออทิสติกเทียม รีบแก้ไข ก่อนเป็นภัยคุกคามพัฒนาการลูก

6 เรื่องต้องห้าม! หยอกล้อเด็ก กระทบ Self-Esteem แหย่เด็กเล่น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

ลูกติดแม่มาก เรื่องธรรมดา หรือปัญหาพฤติกรรม รับมือยังไงให้ถูกวิธี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

จันทนา ชัยมี