ดื่มกาแฟช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกาย จริงหรือไม่?

ดื่มกาแฟช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกาย จริงหรือไม่ ? วิธีการลดน้ำหนักนั้นมีมากมาย ทั้งการลดน้ำหนักแบบควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การลดแบบ IF กินอาหารคีโตเจนิก วิธีการลดนั้นมีมากมาย ให้สาว ๆ ได้ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองเพื่อการมีสุขภาพที่ดี

การลดน้ำหนักแบบใหม่ และน่าสนใจคือแผนการลดน้ำหนักด้วยการใช้กาแฟ ดื่มกาแฟช่วยลดน้ำหนัก อาจจะถูกใจคอกาแฟไม่มากก็น้อย วันนี้เรามาเจาะลึก การลดน้ำหนักรูปแบบนี้กันค่ะ แต่ต้องบอกก่อนว่าการลดน้ำหนักแบบนี้อาจไม่ส่งผลในระยะยาว และจากการวิจัยของชาวตะวันตก

การลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เป็นวิธีหนึ่ง ที่เสริมเพิ่มเติมขึ้นมา การลดน้ำหนักด้วยกาแฟเป็นแผนการรับประทานอาหารที่ค่อนข้างใหม่ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ดื่มกาแฟช่วยลดน้ำหนัก มันเกี่ยวข้องกับการดื่มกาแฟหลายถ้วยต่อวันในขณะที่ จำกัด ปริมาณแคลอรี่ของคุณไปด้วยนั่นเอง” บางคนรายงานความสำเร็จในการลดน้ำหนักในระยะสั้นด้วยการลดน้ำหนักด้วยกาแฟ อย่างไรก็ตามมีข้อเสียที่สำคัญบางประการที่ตามมา เรามาให้คำตอบและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ประโยชน์และข้อเสียลดน้ำหนักของกาแฟ

รวมถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ ข้อเสียและประโยชน์ที่จะได้รับมีอะไรบ้าง และการมีสุขภาพที่ดี มีเส้นทางอย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

การกินอาหารและกาแฟ เน้นกาแฟควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร โดยจำกัดอาหารแปรรูปและแคลอรี การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ แม้ว่าจะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่คุณก็มีความเสี่ยงสูงที่น้ำหนักจะฟื้นกลับมาได้เมื่อออกจากโปรแกรมนี้ นอกจากนี้คาเฟอีนในปริมาณสูงอาจมีผลข้างเคียงเพิ่มเติม

กาแฟไดเอ็ทคืออะไร?

กาแฟไดเอ็ทได้รับความนิยมจากหนังสือ“ The Coffee Lover’s Diet” โดย Dr. Bob Arnot ซึ่งเป็นหนังสือชื่อดังที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา ในหนังสือดร. Arnot อ้างว่าการดื่มกาแฟหลาย ๆ ครั้งต่อวัน สามารถเพิ่มการเผาผลาญของคุณ เผาผลาญไขมันมากขึ้นบล็อกการดูดซึมแคลอรี และที่สำคัญลดความอยากอาหารของคุณ

เขาได้รับแรงบันดาลใจให้เขียนหนังสือเล่มนี้หลังจากศึกษาผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะ Ikaria ของกรีกซึ่งมีประชากรสูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรงจำนวนมาก เขาเชื่อว่าสุขภาพและอายุที่ยืนยาวเป็นผลมาจากการบริโภคกาแฟที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง

แล้วกระบวนการลดแบบนี้มันทำงานอย่างไร?

แผนการลดน้ำหนักของกาแฟเกี่ยวข้องกับการดื่มกาแฟคั่วอ่อนอย่างน้อย 3 ถ้วย (720 มล.) ต่อวัน การคั่วแบบอ่อนมีแนวโน้มที่จะมีสารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลที่เข้มข้นกว่าการคั่วที่มีสีเข้ม ย้ำว่าต้องเป็นการ คั่วอ่อนนะคะ

ดร. อาร์นอทให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับประเภทของกาแฟที่คุณเลือกและวิธีการชง เขาแนะนำกาแฟทั้งเมล็ดคั่วแบบเบา ๆ ที่คุณจะบดเองที่บ้านและเตรียมโดยใช้น้ำกรอง สำหรับอาหารนั้นคุณสามารถดื่มกาแฟได้มากเท่าที่คุณต้องการไม่ว่าจะมีคาเฟอีนหรือไม่มีคาเฟอีนตราบใดที่คุณกินถึงขั้นต่ำ 3 ถ้วย (720 มิลลิลิตร) อย่างไรก็ตามคุณควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาลหรือครีม เป็นกาแฟดำ ไม่ควรกินกาแฟที่ใส่น้ำตาลและครีม เพราะแทนที่น้ำหนักจะลด กลับได้น้ำตาลเพิ่มนะคะ นอกจากนี้เขายังแนะนำให้คุณเปลี่ยนอาหารหนึ่งมื้อต่อวันด้วยสมูทตี้สีเขียว โฮมเมดที่มีไฟเบอร์สูง สูตรสมูทตี้ที่แนะนำมีอยู่อยู่มากมายค่ะ

อาหารและของว่างอื่น ๆ ของคุณควรมีแคลอรีและไขมันต่ำ อุดมไปด้วยไฟเบอร์จากเมล็ดธัญพืช ผลไม้และผัก ผู้เขียนยังสนับสนุนให้ผู้อ่านหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการแปรรูปสูงเช่นอาหารแช่แข็งและขนมขบเคี้ยวที่ผ่านการกลั่นแล้วซึ่งเป็นอาหารที่ไม่ได้รับความนิยม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ อาหารที่เหมาะสมสำหรับมื้ออาหารได้แก่ เต้าหู้และผักผัดข้าวกล้องหรือสลัดไก่ย่างกับน้ำสลัดนั่นเองค่ะ บางคนรายงานความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยอาหารนี้ซึ่งอาจเกิดจากการ จำกัด แคลอรี่ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้หลักฐานบางอย่างชี้ให้เห็นว่ากาแฟอาจช่วยลดน้ำหนักได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : คาเฟอีน เช็คอาการติดกาแฟ ดื่มกาแฟทุกวัน เรียกว่าเสพติดหรือยัง ?

ประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากใช้กาแฟในการลดน้ำหนัก

กาแฟอุดมไปด้วยคาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าโพลีฟีนอลซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการรวมทั้งลดการอักเสบและความเสียหายจากอนุมูลอิสระ

เมื่อพูดถึงการเพิ่มการลดน้ำหนักกาแฟดูเหมือนจะมีประโยชน์หลักๆ คือ

“ลดความอยากอาหาร” และ “เพิ่มการเผาผลาญ” ให้ร่างกายของเรา

กาแฟอาจลดความอยากอาหารได้ดี

• จากการวิจัยยืนยันว่ากาแฟสามารถระงับความอยากอาหารของคุณได้ซึ่งจะช่วยให้คุณลดปริมาณแคลอรีในแต่ละวันลง
• งานวิจัยบางชิ้นระบุว่านี่เป็นความจริงในระดับหนึ่ง การดื่มกาแฟก่อนมื้ออาหารไม่นานอาจลดปริมาณที่คุณกินในมื้อนั้นได้
• อย่างไรก็ตามการบริโภคกาแฟ 3–4.5 ชั่วโมงก่อนรับประทานอาหารดูเหมือนจะไม่มีผลต่อปริมาณที่คุณรับประทานในมื้อถัดไป

การศึกษาในคน 33 คนที่มีน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักปกติพบว่าการดื่มกาแฟช่วยลดปริมาณแคลอรีในผู้ที่มีน้ำหนักเกินได้ดีทีเดียว และผลจากการวิจัย มากกว่า 3 ครั้งในการศึกษาแต่ละคนที่ได้รับอาหารเช้าและน้ำเปล่ากาแฟปกติหรือกาแฟที่มีคาเฟอีนครึ่งหนึ่ง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กาแฟปกติมีคาเฟอีน 2.7 มก. ต่อปอนด์ (6 มก. / กก.) ของน้ำหนักตัว

เมื่อผู้ที่มีน้ำหนักเกินดื่มกาแฟ 6 ออนซ์ (200 มล.) พวกเขาบริโภคแคลอรีน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ในภายหลังเมื่อเทียบกับเมื่อพวกเขาดื่มน้ำ หรือ กาแฟที่มีคาเฟอีนครึ่งหนึ่ง ในทางกลับกันการศึกษาหนึ่งใน 12 คนพบว่าไม่มีความแตกต่างในปริมาณแคลอรี หรือ ความอยากอาหารระหว่างผู้ที่ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มที่ได้รับยาหลอกก่อนมื้ออาหารนั่นเอง

กาแฟที่มีคาเฟอีนอาจช่วยลดปริมาณแคลอรีสำหรับบางคน แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมก่อนที่จะมีการอ้างได้ชัดเจนว่ากาแฟสามารถลดแคลอรีได้ค่ะ แต่ในแง่ของการลดการอยากอาหารและช่วยการเผาผลาญมีผลการวิจัยรองรับที่มากพอ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์กาแฟ ดื่มแล้วดียังไง ดื่มมาก ๆ ก่อให้เกิดโทษหรือไม่ ?

การดื่มกาแฟ อาจเพิ่มการเผาผลาญที่ดีมากขึ้นให้ร่างกาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟที่มีคาเฟอีนอาจเพิ่มจำนวนแคลอรีและปริมาณไขมันที่คุณเผาผลาญทำให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น ในการทบทวนหนึ่งครั้งที่มีผู้คนมากกว่า 600 คนนักวิจัยพบว่าการบริโภคคาเฟอีนที่มากขึ้นมีความสัมพันธ์กับน้ำหนักที่ลดลงดัชนีมวลกาย (BMI) และมวลไขมัน

เมื่อผู้เข้าร่วมรับประทานคาเฟอีนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าน้ำหนักค่าดัชนีมวลกายและมวลไขมันจะลดลง 17–28% ในการศึกษาอื่นผู้ใหญ่ 12 คนรับประทานอาหารเสริมที่มีคาเฟอีนและโพลีฟีนอลซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสองชนิดของกาแฟหรือยาหลอก อาหารเสริมทำให้ผู้เข้าร่วมเผาผลาญไขมันและแคลอรี่ได้มากกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ

กาแฟอาจช่วยเพิ่มปริมาณไขมันที่คุณเผาผลาญจากการออกกำลังกาย

• การศึกษาชิ้นหนึ่งศึกษาผลของกาแฟในผู้ชายที่มีสุขภาพดี 7 คนที่ออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาทีจากนั้นบริโภคน้ำเปล่าหรือกาแฟที่มีคาเฟอีนประมาณ 1 ถ้วย (250 มล.) ผู้ที่ดื่มกาแฟจะเผาผลาญไขมันได้มากกว่าผู้ที่ดื่มน้ำธรรมดานั่นเอง
• อย่างไรก็ตามงานวิจัยเกี่ยวกับกาแฟและการเผาผลาญส่วนใหญ่ได้ทำในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 90 การวิจัยล่าสุดจะช่วยเสริมสร้างการค้นพบเหล่านี้ค่ะ

กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ

นอกจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดน้ำหนักร่วมด้วย โดยการระงับความอยากอาหารและเพิ่มการเผาผลาญของคุณ แต่อย่างไรก็ตามอาหารกาแฟมีข้อเสียหลายประการเช่นกัน

• ในกาแฟมีคาเฟอีนที่มากเกินไป แม้ว่ากาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนจะเป็นทางเลือกหนึ่งในอาหารประเภทกาแฟ แต่คนส่วนใหญ่ก็ชอบกาแฟที่มีคาเฟอีนมากกว่า นอกจากนี้ประโยชน์ในการเผาผลาญของกาแฟยังมีผลจากคาเฟอีนอีกด้วย
• อย่างไรก็ตามการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายประการเช่นความดันโลหิตสูง การศึกษาเชิงสังเกตชิ้นหนึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกาแฟกับความดันโลหิตในคนมากกว่า 1,100 คนที่มีความดันโลหิตสูง
• ผู้ที่บริโภคกาแฟสามถ้วยขึ้นไปต่อวันมีการอ่านค่าความดันโลหิตสูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟและ คาเฟอีนยังเป็นยาขับปัสสาวะซึ่งหมายความว่าจะทำให้คุณขับของเหลวออกทางปัสสาวะได้มากขึ้น หากคุณดื่มกาแฟมาก ๆ คุณอาจต้องใช้ห้องน้ำบ่อยขึ้น
• นอกจากนี้อิเล็กโทรไลต์หรือวิตามินและสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด อาจสูญเสียไปกับของเหลวรวมทั้งโพแทสเซียม การสูญเสียโพแทสเซียมมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า hypokalemia ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อและสุขภาพหัวใจของคุณ
• ข้อสุดท้ายสุดท้ายการบริโภคคาเฟอีนที่มากเกินไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการหัวใจวายปวดศีรษะนอนไม่หลับ เพิ่มความเสี่ยงของกระดูกหักโรคกระดูกพรุน และแม้แต่ภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน

แม้ว่าการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ แต่โดยทั่วไปแล้วการบริโภคคาเฟอีนมากถึง 400 มก. ต่อวันหรือประมาณ 4 ถ้วย ของกาแฟก็ยังถือว่าปลอดภัยอยู่ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : กาแฟมีกี่ชนิด จะดื่มทั้งที เลือกสั่งเมนูอะไรดีนะ ?

การลดน้ำหนักด้วยกาแฟอาจไม่ยั่งยืน

การลดน้ำหนักด้วยกาแฟ อาจไม่ใช่การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนในระยะยาว ด้วยเหตุผลเหล่านี้

• การลดน้ำหนักด้วยกาแฟ มีแนวโน้มที่น้ำหนักจะกลับคืนมาได้

แผนการรับประทานอาหารที่เกี่ยวข้องกับการลดปริมาณแคลอรี่ลงอย่างมากเช่นปริมาณแคลอรี่ที่แนะนำ 1,500 แคลอรี่ต่อวันในอาหารกาแฟมักส่งผลให้น้ำหนักกลับมาอีกครั้งเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ร่างกายต้องดำเนินการเมื่อคุณ จำกัด แคลอรี่ต่อวันค่ะ

ร่างกายของคุณจะปรับให้เข้ากับจำนวนแคลอรี่ที่คุณบริโภคเป็นประจำ การมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นเมื่อคุณลดปริมาณแคลอรี่ลงอย่างมากร่างกายของคุณจะปรับตัวโดยชะลอการเผาผลาญของคุณลดจำนวนแคลอรี่ที่คุณเผาผลาญ

นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดจากการ จำกัด แคลอรี่อาจเพิ่มความอยากอาหารของคุณกลับคืนมามากกว่าเดิมนั่นเอง

• เลปตินเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมความรู้สึกอิ่มและส่งสัญญาณไปยังสมองของคุณให้หยุดกิน อย่างไรก็ตามระดับเลปตินในร่างกายของคุณสามารถลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำซึ่งอาจนำไปสู่ความหิวและความอยากอาหารมากขึ้นโดยขาดการยับยั้งได้
• ด้วยเหตุผลเหล่านี้การลดน้ำหนักด้วยอาหารจึงเป็นเรื่องยากมากที่ทำให้คุณต้องลดปริมาณแคลอรี่ลงอย่างมากเช่นการลดน้ำหนักจากกาแฟ ผลสุดท้ายมักจะน้ำหนักขึ้นกลับมา

ซึ่งการลดน้ำหนักด้วยกาแฟ พบว่าไม่ปลอดภัยในระยะยาว จริงหรือไม่ ?

จากการวิจัยพบว่า ผู้คนมักจะรับประทานกาแฟเป็นเวลาสองถึงเจ็ดสัปดาห์ ในความเป็นจริงอาจไม่ปลอดภัยในระยะยาวด้วยสาเหตุหลายประการ

การดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนในปริมาณมากอาจนำไปสู่การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างรวมถึงการนอนไม่หลับและภาวะซึมเศร้า อาหารแคลอรี่ต่ำควบคู่กับกาแฟ อาจทำให้การลดน้ำหนักทำได้ยากและไม่ประสบความสำเร็จดังที่หวังไว้

น่าเสียดายที่ไม่มีการศึกษาระยะยาวประเมินความปลอดภัยหรือประสิทธิผลของการควบคุมอาหารและดื่มควบคู่กับกาแฟมากนัก ด้วยเหตุผลเหล่านี้คุณไม่ควรปฏิบัติตามอาหารกาแฟในระยะยาวนะคะ ถ้าทดลองในช่วงสั้นๆอาจเป็นไอเดียหนึ่งได้ แต่การลดน้ำหนักทุกประเภทควรอยู่ในการดูและและคำแนะนำของแพทย์ร่วมด้วยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ :

8 สูตรเด็ด น้ําผลไม้แยกกากลดความอ้วน น้ำผลไม้ทำง่ายดื่มคล่อง ลดน้ำหนักไว

ลดน้ำหนักแบบลดแป้งลดน้ำตาล Low-Carb Diet สุขภาพดียั่งยืน มีวิธีการอย่างไร?

ลดความอ้วนกับการออกกำลังกาย จำเป็นต้องออกกำลังกายช่วงลดน้ำหนักหรือไม่?

ที่มา : healthline.com