เมื่อเจ้าตัวเล็กข้ามผ่านช่วงการเป็นทารกเข้าสู่วัยเตาะแตะ ลูกจะกระตือรือร้นและสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นอกจากพัฒนาการด้านต่าง ๆ จะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้ว ระบบการย่อยและการดูดซึมของลูกก็ใกล้เคียงผู้ใหญ่มากขึ้นจึงสามารถกินอาหารได้หลากหลายขึ้น ทั้งอาหารหลัก 3 มื้อ แล้วเสริมด้วยนมวัว หรือนมผง อย่างไรก็ตาม คุณแม่หลายบ้านยังลังเลและตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกนมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบยังไง จึงจะสามารถเสริมสร้างพัฒนาการลูกได้เต็มที่ เรามีวิธีมาบอกค่ะ
ส่องพัฒนาการลูกวัยเตาะแตะ ก่อนเลือกนมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ
ลูกน้อยวัยเตาะแตะ 1 ขวบปี จะสามารถสื่อสารและแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้หลากหลายขึ้นแล้วนะคะ เช่น
- พูดคำที่มีความหมายได้เป็นครั้งแรก ตอบโต้และรับฟังการร้องเพลงหรือเล่านิทานของคุณพ่อคุณแม่ได้
- มีความพยายามพูดทวนคำที่ได้ยินจากคนอื่น
- มีสิ่งของที่ชอบ จำพวกของเล่น ของใช้ส่วนตัวอย่างผ้าห่ม ตุ๊กตา และมักถือติดมือไว้เสมอ
- หยิบอาหารเข้าปากเองได้
- ชอบใช้นิ้วชี้วัตถุหรือรูปภาพ
- นั่งเองได้โดยไม่ต้องให้ช่วย รวมถึงลุกขึ้นเองได้ บ่อยครั้งที่เดินได้แล้วแต่ก็ยังชอบคลานอยู่
- ชอบเคลื่อนไหวเตาะแตะไปเรื่อย ๆ โดยเกาะโซฟา เก้าอี้ โต๊ะ
- ดื่มน้ำ หรือนม จากถ้วยหรือแก้วได้ และใช้ของใช้ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง
โดยหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยกระตุ้นให้ลูกขยับร่างกายบ่อย ๆ ควบคู่ไปกับได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกทั้งด้านร่างกาย การสื่อสาร สังคม และสติปัญญาให้เติบโตเต็มศักยภาพตามวัยได้ค่ะ
นมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ กินสูตรไหน เริ่มกินได้เมื่อไหร่
เมื่อลูกเข้าสู่ช่วงอายุ 1 ปี คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านมักเริ่มให้กินข้าวเป็นอาหารหลักแล้วนะคะ แต่ก็ยังมีความต้องการเสริมโภชนาการให้ลูกน้อยด้วยการเพิ่มนมผงเสริมเข้าไปด้วย เพื่อให้ร่างกายลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งสามารถทำได้ค่ะ โดยนมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ นั้นแนะนำว่าควรเป็น นมผงสูตร 3 เพราะเป็นสูตรที่มีปริมาณโปรตีนและแคลเซียมมากกว่านมผงสูตร 1 และนมผงสูตร 2 ค่ะ รวมถึงมีการเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงด้วย
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรให้นมแม่อย่างเดียวนานอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนตามวัย และสามารถให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยได้นาน 2 ปี หากให้ลูกกินนมผงสำหรับเด็ก ก็ควรให้กินนมผงเด็กแต่ละสูตรอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยเสริมสารอาหารที่แตกต่างกันไปตามพัฒนาการในแต่ละวัยของเด็ก โดยเด็กวัยเตาะแตะ 1-3 ปี ควรได้รับสารอาหารที่จำเป็น เช่น
- วิตามิน A ช่วยบำรุงเนื้อเยื่อร่างกายและประสาทตา
- วิตามิน D ช่วยเสริมการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ทั้งยังช่วยในการดูดซึมของวิตามินเอด้วย
- วิตามิน C ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย ป้องกันหวัด ทั้งยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็กได้
- วิตามิน B6 ช่วยควบคุมการทำงานของสมองและเนื้อเยื่อ
- วิตามิน B12 ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมอง
- โฟเลต มีส่วนช่วยการสร้างส่วนประกอบของเซลล์และเม็ดเลือดแดง ป้องกันอาการซีด
- ดีเอชเอ (DHA) ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยพัฒนาสมองและระบบประสาทสัมผัสซึ่งกำลังเติบโตมากในช่วงวัยนี้
- แคลเซียม มีความสำคัญมากต่อการเสริมสร้างและบำรุงความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ทั้งยังมีส่วนช่วยให้หัวใจ ระบบประสาท และกล้ามเนื้อมีการพัฒนาและทำงานเป็นปกติ
- ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง นำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- ไอโอดีน เสริมสร้างพัฒนาการของต่อมไทรอยด์ซึ่งควบคุมการปล่อยฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการเผาผลาญ ควบคุมการเจริญเติบโต อุณหภูมิของร่างกาย และช่วยป้องกันพัฒนาการทางสมองไม่สมบูรณ์ ความผิดปกติทางระบบประสาทและการเคลื่อนไหว ป้องกันโรคคอพอก
นมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ นมผงสูตร 3 เริ่มกินตอนไหน
คุณแม่สามารถเปลี่ยนนมจากนมผงสูตร 2 เป็นนมผงสูตร 3 ให้เจ้าตัวเล็กได้โดยพิจารณาจากปัจจัยดังนี้
- ลูกมีอายุ 1 ปี และมีน้ำหนักตามเกณฑ์ กินอาหารได้ 3 มื้อ ครบ 5 หมู่ แนะนำให้เปลี่ยนจากสูตร 2 มาเป็นสูตร 3 ตอนที่เขามีอายุประมาณ 1 ขวบครึ่งค่ะ แต่หากลูกกินนมสูตร 2 ได้ดีอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกสูตร 2 ไปได้จนอายุ 3 ขวบเลยค่ะ
- ลูกกินข้าวเก่งมาก แต่ก็เบื่อนมสูตร 2 แล้วเช่นกัน และกินนมน้อยกว่าวันละ 20 ออนซ์ แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นนมสูตร 3 ได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบเลยค่ะ เพราะมีปริมาณโปรตีนและแคลเซียมที่ใกล้เคียงกับนมวัว เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารในปริมาณที่เพียงพอตามวัย และมีการเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง เสริมสร้างกระดูกให้เเข็งแรง เพื่อให้เด็กในวัยนี้มีพัฒนาการที่สมวัย
- ลูกกินนมสูตร 2 ได้ดีมาก และกินข้าวได้น้อย แนะนำให้ใช้สูตร 2 ต่อเนื่องไปจนถึง 3 ปี ควบคู่ไปกับฝึกให้ลูกกินข้าวและอาหารอื่น ๆ ให้ได้มากขึ้น แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสูตร 3 เมื่อลูกพร้อมค่ะ
นมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน
เนื่องจากนมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเจ้าตัวเล็ก ทั้งยังมีส่วนช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูกด้วย ดังนั้น สำหรับเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป แนะนำว่าควรดื่มนมอย่างน้อย 2-3 แก้วต่อวันค่ะ โดยอาจแบ่งมื้อนมเป็น 4 – 5 มื้อค่ะ
วิธีเลือกนมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบให้ลูก
- ปรึกษากับแพทย์ คือวิธีดีที่สุดที่ในการเลือกนมผงได้ตรงกับวัยและสุขภาพของลูกน้อยค่ะ ช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก สลับสูตรไปมาจนสับสนนั่นเองค่ะ
- ควรเลือกนมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ โดยสังเกตวันหมดอายุให้ดี มีรายละเอียดวันเดือนปีที่ผลิตชัดเจน และควรมีเครื่องหมาย อย. รับรองอย่างถูกต้อง ผลิตจากแหล่งที่เชื่อถือได้ บรรจุภัณฑ์ได้มาตรฐาน เพื่อให้แน่ใจได้ว่านมผงนั้นไม่ได้มีการเสื่อมคุณภาพ และมีมาตรฐานความปลอดภัย
- อ่านก่อนซื้อ เพราะนมผงแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ แม้จะมีส่วนผสมคล้าย ๆ กัน แต่ปริมาณอาจไม่เหมือนกัน คุณแม่จึงต้องพิจารณาว่าควรเน้นสารอาหารชนิดไหน ในปริมาณเท่าไหร่จึงเหมาะสมกับลูก
- เลือกตามสภาวะสุขภาพของลูก เช่น นมผงสำหรับเด็กที่มีปัญหาเรื่องการย่อย นมผงสำหรับเด็กแพ้นมวัว ฯลฯ เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
อย่างไรก็ตาม นมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ หรือเด็กวัยใดก็ตาม ควรเป็นนมรสจืดนะคะ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุและโรคอ้วนในกรณีที่กินนมซึ่งปรุงแต่งรสชาติที่มักผสมน้ำตาลในปริมาณมาก และควรเลือกนมผงให้เหมาะสมตามช่วงวัย เพื่อการรับสารอาหารที่มีประโยชน์และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายได้ตามเกณฑ์ ที่สำคัญคือเมื่อเกิดความผิดปกติจากการกินนมขึ้นกับเจ้าตัวเล็ก ควรปรึกษาแพทย์นะคะ
ที่มา : pobpad.com , nestlemomandme.in.th , enfababy.com , hellokhunmor.com , www.beabathailand.com , www.samitivejhospitals.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เคล็ดลับ! วิธีเปลี่ยนนม เพื่อคุณแม่สบายใจ คุณลูกสบายท้อง
วิตามินบี 12 มีอะไรบ้าง ทำไมวิตามินบี 12 ถึงสำคัญสำหรับลูกน้อย ?
สอนลูกใส่รองเท้าครั้งแรก ต้องทำอย่างไร? เทคนิคง่าย ๆ ทำตามไม่ยาก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!