ในยุคนี้ จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองสายตาสั้นหรือสายตายาวนั้นไม่ง่าย เพราะหลาย ๆ คนต้องนั่งจ้องจอคอมทุกวันจนตาล้า หรือไม่ก็อายุมากขึ้น สายตาก็เลยพร่ามัว และอาจจะมีคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่มีปัญหาทางด้านสายตา สายตาสั้นจนอยากทำเลสิก วันนี้เราจะพามาดูกันว่า เลสิก เป็นอันตรายต่อคนท้องหรือเปล่า ท้องอยู่แล้วจะทำได้หรือไม่ มาหาคำตอบกันค่ะ
เลสิก คืออะไร
การทำเลสิก เป็นการผ่าตัดตาโดยการยิงเลเซอร์ เพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น หรือสายตายาว ซึ่งจะใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นที่สั้นและให้ความเย็น แต่จะไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ดวงตา ส่วนคนที่ทำเลสิกได้นั้น จะต้องเป็นคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีค่าสายตาคงที่มานานกว่า 1 ปี หรืออาจเป็นผู้ที่ไม่ต้องการใส่แว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ นอกจากนี้ จะต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังให้นมลูก หรือเป็นโรคเกี่ยวกับตา เช่น จอประสาทตาเสื่อม ภาวะตาแห้งรุนแรง หรือเป็นโรคเกี่ยวกับกระจกตา เป็นต้น
ซึ่งก่อนเข้ารับการผ่าตัดเลสิก คุณหมอจะตรวจตาอย่างละเอียด และจะพิจารณาว่าเราสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ไหม หลาย ๆ คนที่ค่าสายตายังไม่คงที่ ก็อาจจะยังทำเลสิกไม่ได้ และบางครั้งหมอก็จะแนะนำให้งดใส่คอนแทคเลนส์สักระยะหนึ่งก่อนผ่าตัด และเมื่อเข้ารับการทำเลสิกเรียบร้อย หมอก็จะแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
- ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าแทนการล้างหน้า
- ระมัดระวังไม่ให้ฝุ่นเข้าตา เพื่อไม่ให้ติดเชื้อได้ง่าย
- หากต้องการสระผม ให้ไปสระผมที่ร้านทำผมแทน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำเข้าตา
- งดแต่งหน้าจนกว่าแผลจะหายดี เพื่อไม่ให้รู้สึกเคืองตา
- ไม่ขยี้ตา และให้ใช้ฝาครอบตาขณะที่นอนหลับ เพื่อไม่ให้เผลอเอามือไปสัมผัสตา
- เมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง ให้สวมแว่นตากันแดดและลม
- งดออกกำลังกายเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดว่ายน้ำ 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้น้ำเข้าตา และงดดำน้ำเป็นเวลา 1 เดือน
- ใช้ยาหยอดตาอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง
บางคนที่ทำเลสิกมาเสร็จ อาจมีอาการที่เกิดจากผลข้างเคียงอย่างเคืองตา แสบตา ตาแดง และมีน้ำตาไหล รวมทั้งบางคนอาจคัดจมูกร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้ ควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ และให้ใส่ที่ครอบตาไว้ตลอดเวลา หากรู้สึกปวดตา ให้ทานยาแก้ปวดทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง และให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกชนิด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จัก ! การทำเลสิก คืออะไร ตัวช่วยสำหรับคนสายตาสั้น
คนท้องทำเลสิกได้ไหม
จริง ๆ แล้วการทำเลสิกไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง แต่ว่าหลังจากทำเลสิก คุณแม่ต้องรับประทานยาเพื่อช่วยให้แผลผ่าตัดหายได้ไวขึ้น รวมทั้งยังต้องใช้ยาหยอดตาอีกด้วย ซึ่งการใช้ยาเหล่านี้ อาจทำอันตรายต่อเด็กในท้องได้ เพราะบางคนที่ปวดตาหลังการผ่าตัดมาก ๆ ก็ต้องรับประทานยาบ่อย ๆ แถมยังต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหาร ซึ่งอาจทำให้การอุ้มครรภ์เป็นไปอย่างยากลำบาก
นอกจากนี้ ในขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ ความหนาของกระจกตาคุณแม่อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฮอร์โมนในร่างกาย จนทำให้คุณหมอวิเคราะห์ความหนาของกระจกตาคลาดเคลื่อน ไม่สามารถคาดคะเน หรือควบคุมได้ จนท้ายที่สุด อาจทำให้ต้องผ่าตัดตาซ้ำ ๆ ทั้งนี้ หากคุณแม่เองมีภาวะสุขภาพอย่างเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือมีภาวะครรภ์เป็นพิษ ก็อาจทำให้เส้นเลือดในตาแตกได้ง่าย และทำให้ตาพร่ามัว ซึ่งยิ่งจะยากต่อการผ่าตัดทำเลสิก เพราะฉะนั้น หากจะให้ชัวร์ ปลอดภัย และผ่าตัดเลสิกออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรรอให้คลอดลูกน้อยออกมาก่อนสักระยะใหญ่ ๆ หรือเลิกให้นมบุตรแล้วสักพัก จึงค่อยทำเลสิก หรืออาจจะรีบทำเลสิกก่อนที่จะวางแผนตั้งครรภ์ก็ได้
อย่างไรก็ตาม หากต้องการทำเลสิกในระหว่างที่ตั้งครรภ์จริง ๆ ก็จะต้องเข้ารับการตรวจตาและกระจกตาก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ากระจกตาไม่มีความผิดปกติใด ๆ และคุณแม่จะต้องยินยอมที่จะไม่ใช้ยานอนหลับขณะที่ผ่าตัด นอกจากนี้ คุณแม่จะต้องไม่ใช้ยาหยอดตาเด็ดขาดในขณะที่ตั้งครรภ์ และก็ควรได้รับอนุญาตจากสูตินรีแพทย์ก่อนทุกครั้งหากต้องการทำเลสิก หากคุณแม่คนไหนยังสงสัย ไม่แน่ใจ ก็สามารถเข้าปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการทำเลสิกได้ตลอดเวลา เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์
บทความที่เกี่ยวข้อง : สายตา แย่ลง ในช่วงที่ท้อง เป็นเรื่องปกติหรือไม่ หลังคลอดจะกลับมาเป็นปกติไหม
ดูแลสายตาช่วงตั้งครรภ์ยังไงให้ดีที่สุด
ในขณะที่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งระดับเลือดในร่างกายก็จะไม่คงที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นหรือสายตาของคุณแม่ได้ เราแนะนำให้คุณแม่ปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อช่วยดูแลสายตาของตนเองระหว่างที่ตั้งครรภ์
- ก่อนใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะยาบางชนิด อาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง
- ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ตาแห้งได้ง่าย ถ้าจะให้ดีควรเปลี่ยนมาใส่แว่นสายตาแทน
- เมื่อต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพและตรวจตา อย่าลืมบอกหมอว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ เพื่อที่หมอจะได้เลือกใช้เครื่องมือ หรือให้ยาได้เหมาะกับคุณแม่
- รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และช่วยบำรุงสายตา เช่น ปลาที่มีโอเมก้า 3 อย่างทูน่า แซลมอน ผักใบเขียว ผลไม้ เป็นต้น
- เมื่อต้องใช้โทรศัพท์หรือจ้องคอมเป็นเวลานาน ให้พักสายตาเป็นระยะ ๆ ทุก ๆ 20 นาที และควรกะพริบตาบ่อย ๆ
- เมื่อต้องออกไปข้างนอก ให้สวมแว่นตากันแดดเพื่อป้องกันแสงยูวีทุกครั้ง
- ไม่รับประทานเครื่องดื่มผสมกาเฟอีน หรืออาหารที่มีโซเดียมเยอะ
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และตาแห้งได้ง่าย
- งดสูบบุหรี่ และไม่อยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่มีอาการ เช่น ตาข้างใดข้างหนึ่งมองไม่เห็นโดยฉับพลัน ตาพร่ามัวกะทันหัน เห็นภาพซ้อน หรือตาเห็นแสงกะพริบหรือจุดสีดำ ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 สุดยอด อาหารบำรุงสายตา มองไม่ชัด ตาล้า ทานสิ่งนี้
ใส่แว่นตาแบบไหน ให้ดูดี และแบบไหนจะเหมาะกับใบหน้าของเรา
คอนแทคเลนส์ คืออะไร ข้อดีและข้อเสียของคอนแทคเลนส์มีอะไรบ้าง?
ที่มา : laservisionthai, webmd, allaboutvision, aao, mayoclinic, chularat3
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!