ความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปวัด มีอยู่หลากหลายในวัฒนธรรมทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วย โดยมีที่มาจากหลายแง่มุม ทั้งทางวัฒนธรรม ศาสนา และ ไสยศาสตร์ theAsianparent ขอรวบรวมความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ มาให้คุณได้ทราบดังนี้
คนท้องห้ามไปวัด จริงหรือไม่?
ความเชื่อที่ว่าคนท้องไม่ควรไปวัดเป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมและศาสนาที่มีในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย เหตุผลที่คนในสังคมบางกลุ่มมีความเชื่อนี้มีหลายประการ ดังนี้
-
ความเชื่อทางไสยศาสตร์และความเป็นสิริมงคล
ในบางสังคมมีความเชื่อว่าคนท้องมีความเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมีพลังบางอย่าง การไปวัดอาจจะทำให้พลังเหล่านั้นไม่สมดุลหรือทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อแม่และเด็กในครรภ์
-
ความเชื่อเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบ
วัดเป็นสถานที่ที่ต้องการความสงบเรียบร้อยและสะอาด คนท้องอาจจะมีความยากลำบากในการนั่งนานๆ หรืออาจจะต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษที่อาจจะไม่มีในวัด
-
คนท้องห้ามไปวัด เพื่อการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย
บางคนเชื่อว่าการไปวัดในขณะที่ท้องอาจจะทำให้แม่และเด็กเจอสิ่งชั่วร้ายหรือวิญญาณที่ไม่ดี ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหรือปัญหาอื่น ๆ
-
ความเชื่อเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพของแม่และเด็ก
การเดินทางไปวัดหรือการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาบางครั้งอาจจะต้องใช้พลังงานมากหรือทำให้แม่รู้สึกเหนื่อยล้า ซึ่งอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพของทั้งแม่และเด็ก
ซึ่งในความเชื่อและประเพณีของบางวัฒนธรรมในประเทศไทย อาจมีความเชื่อว่า “คนท้องห้ามไปวัด” แต่ความเชื่อนี้ไม่ได้เป็นกฎที่แน่นอนและเป็นที่ยอมรับในทุกที่ ขึ้นอยู่กับประเพณีท้องถิ่นและความเชื่อส่วนบุคคลของแต่ละคน ดังนั้น คนท้องสามารถไปวัดได้
พิธีกรรมทางศาสนาที่คนท้องไม่ควรเข้าร่วม
โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีพิธีกรรมทางศาสนาใด ๆ ที่ระบุว่าคนท้องไม่ควรเข้าร่วมโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ประเพณีท้องถิ่น และข้อจำกัดทางร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม มีบางพิธีกรรมที่อาจไม่เหมาะกับคนท้อง ดังนี้
1. พิธีกรรมที่มีการร้องไห้ คร่ำครวญ หรือแสดงอารมณ์รุนแรง
- อารมณ์ที่รุนแรงอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและทารกในครรภ์
- เสียงรบกวนดังๆ อาจส่งผลต่อการได้ยินของทารกในครรภ์
2. พิธีกรรมที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน
- คนท้องมีความเสี่ยงต่อการเป็นลม หน้ามืด หรือบวมตามข้อ
- การยืนนานๆ อาจทำให้ปวดหลังและขา
3. พิธีกรรมที่ต้องอดอาหารหรืออดนอน
- คนท้องต้องการสารอาหารและการพักผ่อนที่เพียงพอ
- การอดอาหารหรืออดนอนอาจส่งผลต่อสุขภาพของแม่และทารก
4. พิธีกรรมที่มีการเคลื่อนไหวหรือการออกแรงมาก
- การเคลื่อนไหวหรือการออกแรงมาก เช่น การรำ การเต้น
- การนั่งสมาธิในท่าทางที่ไม่สะดวก อาจทำให้คนท้องรู้สึกไม่สบายหรือมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ
5. พิธีกรรมที่ต้องเดินทางไกลหรืออยู่ในที่แออัด
- คนท้องมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
- การเดินทางไกลอาจทำให้เหนื่อยล้า
สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนท้องควรเลือกร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่รู้สึกสบายใจ ปลอดภัย และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์
คนท้องช่วงไหนถึงต้องระวังเป็นพิเศษ
ถึงแม้ว่าคนท้องสามารถไปวัดได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ทั้งการเดินทางและที่วัด ครอบครัวควรดูแลและเอาใจใส่คนท้องเป็นพิเศษ เพื่อให้การไปวัดเป็นประสบการณ์ที่ดี และปลอดภัยสำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย ดังนั้นวันนี้เรามีข้อแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความประสงค์อยากไปวัดว่าจะต้องปฏิบัติหรือต้องระวังอะไรบ้าง ไปดูกัน
ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่ทั้งด้านร่างกายและอารมณ์
- ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทารกกำลังพัฒนาระบบสำคัญต่าง ๆ แม่ควรระวังการเดินทางที่ยาวนานหรือเหนื่อยล้า เพราะอาจเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้
- อาการแพ้ท้องเป็นเรื่องปกติและอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวกสบาย
- อาจเกิดภาวะแท้งบุตร เนื่องจากสามารถพบได้บ่อยในช่วง 3 เดือนแรก
ไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ (ช่วง 4-6 เดือน) มักเรียกว่าช่วง “Honeymoon Phase” เพราะร่างกายของคุณแม่เริ่มปรับตัวเข้ากับการตั้งครรภ์ได้ดีขึ้น อาการแพ้ท้องเริ่มดีขึ้น คุณแม่รู้สึกมีพลัง กระปรี้กระเปร่า
- ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทางเนื่องจากอาการแพ้ท้องมักจะบรรเทาลงแล้ว และแม่ยังไม่รู้สึกหนักหน่วงเกินไป
- ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อหรือมีสถานพยาบาลที่ไม่เพียงพอ
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์แล้ว แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาสสามก็ยังมีความเสี่ยงบางประการที่ควรทราบและดูแลตัวเอง
- ในช่วงนี้คุณแม่อาจรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเนื่องจากขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้น การเดินทางนานๆ อาจทำให้เกิดการบวมของขาหรืออาการเจ็บปวดอื่นๆ
- ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วง 8 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจเกิดการคลอดก่อนกำหนดได้
- เฝ้าระวังภาวะแท้งก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนด อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในช่วงไตรมาสที่สาม แต่พบบ่อยในช่วงสัปดาห์ที่ 37
บทความที่น่าสนใจ: วิธีสังเกตอาการคนท้องและพัฒนาการทารกในครรภ์แต่ละไตรมาส
นอกจากช่วงเวลาแล้ว ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น สถานที่ที่เดินทางไป สภาพอากาศ และความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมทั้งควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทางเสมอเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและการตั้งครรภ์ของคุณแม่เอง โดนสามารถจำแนกได้ ดังต่อไปนี้
การเดินทาง
- เลือกช่วงเวลาที่อากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป
- เลือกเส้นทางที่สะดวก ไม่มีการจราจรหนาแน่น
- เดินทางด้วยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด หากจำเป็นต้องใช้รถสาธารณะ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน
- แจ้งคนรอบข้างให้ทราบ เผื่อกรณีฉุกเฉิน
ที่วัด
- เลือกนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง หรือปูผ้ารองนั่งเพื่อความสบาย
- หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได หรือยืนนาน ๆ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ พกยาประจำตัวไปด้วย
- แจ้งพระสงฆ์หรือเจ้าหน้าที่ที่วัดให้ทราบ เผื่อกรณีฉุกเฉิน
สำหรับครอบครัว
- ควรดูแลและเอาใจใส่คนท้องเป็นพิเศษ ไปด้วยเพื่อช่วยเหลือและดูแล
- เตรียมน้ำดื่ม ยารักษาโรค และของใช้จำเป็นอื่น ๆ ไปด้วย
- คอยสังเกตอาการของคนท้อง หากมีอะไรผิดปกติ รีบพาไปพบแพทย์ทันที
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมพิธีกรรมที่ต้องนั่งพับเพียบนาน ๆ หรือต้องยืนนาน ๆ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย
- หลีกเลี่ยงการไปวัดที่มีผู้คนหนาแน่น หรือมีเสียงดัง
การไปวัดทำบุญเป็นกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายของคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อยในครรภ์ เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อม ดูแลตัวเองอย่างใส่ใจ ประเมินความเสี่ยงก่อนไป เลือกวัดที่เหมาะสม แต่งกายให้สบาย เตรียมอาหารว่างและน้ำดื่ม และเลือกทำกิจกรรมที่เหมาะสม แค่นี้คุณแม่ก็สามารถไปวัดได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข
ที่มา: www.enfababy.com, www.si.mahidol.ac.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ท้องไตรมาสแรกห้ามทำ ข้อห้ามคนท้องอ่อน ข้อห้ามคนท้องไตรมาสแรก แม่ท้องไตรมาสแรกต้องระวัง
7 ความเชื่อของคนท้อง ข้อห้ามคนท้องตามความเชื่อโบราณมีอะไรบ้าง ความจริงคืออะไร
ข้อห้ามคนท้อง6เดือน เกินครึ่งทางแล้ว ต้องระวังอะไรบ้าง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!