เมื่อเมนูโปรดมาเสิร์ฟเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปรุงพริกน้ำปลา คนท้องกินพริกน้ำปลาได้ไหม ยิ่งเป็นคนติดเค็ม จะให้ไม่เติมก็คงจะทำได้ลำบาก หากคุณแม่ชอบพริกน้ำปลาอยู่แล้วต้องระวัง เพราะหากกินมากเกินไป นอกจากรสเค็มโดนใจ ทำให้อาหารอร่อยขึ้นแล้ว ยังทำให้แม่ท้องมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายจากปริมาณโซเดียมที่มากเกินไปได้ด้วย
คนท้องกินพริกน้ำปลาได้ไหม
เมื่อเจอกับอาหารที่มีรสชาติไม่ได้ถูกปากอย่างที่คิด สิ่งที่ตามมา คือ การปรุงรสด้วยตนเอง ยิ่งหากเป็นคนที่ชอบทานรสเค็มเผ็ด ยิ่งต้องเติมพริกน้ำปลา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไปร้านอาหารทั่วไปก็ต้องเจอพริกน้ำปลาอยู่แล้ว แต่แม่ท้องรู้ไหมว่าโซเดียมจากพริกน้ำปลานั้นมีปริมาณมากกว่าที่คิดมาก ประกอบกับมื้ออาหารโดยทั่วไปที่มีโซเดียมอยู่แล้ว อาจทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อภาวะอันตรายหลายอย่างหากร่างกายรับโซเดียมปริมาณมากเกินไป เช่น อาการบวมน้ำ, ความดันโลหิตสูง, เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด และเสี่ยงต่อภาวะไตวาย เป็นต้น
แม่ท้องควรเลี่ยงการเติมน้ำปลา หรือพริกน้ำปลาในเมนูอาหาร หากสามารถทำได้ จะยิ่งทำให้คุณแม่ปลอดภัยจากภาวะร้ายต่าง ๆ มากขึ้น อย่างไรก็ตามแม่ท้องยังสามารถเติมพริกน้ำปลาได้อยู่ หากแม่ท้องเติมในปริมาณน้อย และไม่ได้เติมทุกมื้อ ไม่ได้เติมทุกวัน ประกอบกับการทานอาหารที่หลากหลาย และครบ 5 หมู่
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินครัวซองต์ได้ไหม รู้ไหมว่าครัวซองต์อาจทำให้แก่เร็ว !
วิดีโอจาก : Wellness Hub
คนท้องกินพริกน้ำปลาได้สารอาหารอะไรบ้าง ?
เชื่อว่ามีแม่ท้องหลายคนที่ชอบเติมพริกน้ำปลาในมื้ออาหารที่สามารถเติมได้ จนอาจติดเป็นนิสัยไปแล้ว แต่ในพริกน้ำปลานั้นนอกจากรสเค็มแล้วก็ไม่ได้มีสารอาหารมากพอ ไม่ได้จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่ และอาจก่ออันตรายมากกว่า เนื่องจากสารอาหารก็คือโซเดียม ซึ่งมีมากถึง 1.4 กรัมเพียง 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นก็เป็นสารอาหารเล็กน้อยอย่างโพแทสเซียม, โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต เป็นต้น ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ สามารถหาได้ง่ายในการทานเมนูอาหารอื่น ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเติมพริกน้ำปลาเลย
พริกน้ำปลากับปริมาณโซเดียมที่มากเกินจำเป็น
โดยปกติแล้วปริมาณของโซเดียมที่แม่ท้องสามารถบริโภคได้ต่อวัน ควรอยู่ที่ประมาณ 3.8 – 5.8 กรัมเท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยอาหารไทยทั่วไป โดยเฉพาะขนมกรุบกรอบตามร้านสะดวกซื้อ หรือเมนูอาหารคาว ล้วนแล้วแต่มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากรสชาติเค็ม และเผ็ดเป็นรสชาติพื้นฐานของคนไทย และรสชาติที่ว่านี้ก็คือ รสชาติของพริกน้ำปลานั่นเอง โดยในพริกน้ำปลานั้น ในปริมาณเพียง 1 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 18 กรัม จะให้โซเดียมมากถึง 1.4 กรัม นั่นเท่ากับว่ายิ่งใส่ในอาหารมากมื้อเท่าไหร่ แม่ท้องจะยิ่งเป็นอันตรายได้
หากเทียบว่าแม่ท้องกินข้าว 3 มื้อ โดยใส่พริกน้ำปลาเฉลี่ยประมาณ 2 ช้อนโต๊ะก็เท่ากับร่างกายของคุณแม่ได้รับโซเดียมประมาณ 2.8 – 3 กรัมเข้าไปแล้ว ถึงแม่ท้องอาจปรุงพริกน้ำปลาน้อยกว่านี้ แต่มื้ออาหารของคุณแม่ ก็มีปริมาณโซเดียมเข้ามาเสริมอยู่ดี เช่น มื้ออาหารหลักยอดฮิตอย่างกะเพราหมูสับก็มีปริมาณโซเดียมเกือบ 1 กรัม / จาน หรือกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ไข่ก็ให้โซเดียมไปแล้วประมาณ 1.6 กรัม ดังนั้นหากแม่ท้องต้องการปกป้องสุขภาพของตนเอง คงต้องงดเพิ่มพริกน้ำปลาในมื้ออาหารทุกมื้อไปก่อนเลย
จะเกิดอะไรกับคนท้องหากกินพริกน้ำปลามากเกินไป ?
การกินพริกน้ำปลาของแม่ท้องหากมากเกินไป จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณของโซเดียมมาก การมีพริกในน้ำปลาไม่ได้ช่วยลดปริมาณโซเดียมเลย ดังนั้นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก็ไม่แตกต่างจากการเติมน้ำปลาในอาหาร ดังนี้
- โรคไต : ไตเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากโซเดียมโดยตรง เนื่องจากการทำงานของไต คือ การรักษาสมดุลของน้ำและเกลือในร่างกาย หากมีปริมาณโซเดียมจากพริกน้ำปลามากเกินไป ไตจะทำงานหนักมากขึ้น จนส่งผลให้เกิดโรคไต และเสี่ยงต่อไตวายเฉียบพลันได้
- ความดันโลหิตสูง : นอกจากการกินเมนูที่มีไขมันสูงแล้ว การกินพริกน้ำปลาที่มีรสเค็มมากนั้น ก็ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงเช่นกัน หากเป็นภาวะนี้ต่อเนื่องจะทำให้เกิดโรคอันตรายตามมาในระยะยาว คือ โรคทางหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง
- ทำให้บวมน้ำ : โซเดียมปริมาณในไต ทำให้ไตต้องการปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นเพื่อปรับสมดุล เป็นคำตอบว่าทำไมเวลาคุณแม่กินเค็ม เวลาต่อมาถึงหิวน้ำมากขึ้น เมื่อต้องกินน้ำมาก จะทำให้เกิดอาการบวมที่บริเวณเท้าและมือ ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นชั่วคราวได้
- เสี่ยงขาดสารอาหาร : การกินพริกน้ำปลาปริมาณมากเท่ากับคุณแม่เน้นมื้ออาหารคาวรสเค็มเผ็ดบ่อยครั้ง การทานอาหารที่ไม่หลากหลาย นอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินแล้ว ยังทำให้คุณแม่เสี่ยงขาดสารอาหารจากการทานอาหารที่ไม่หลากหลาย ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ด้วย
จะกินพริกน้ำปลาอย่างไรให้ปลอดภัย
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อาจกำลังมีความกังวลอยู่ เนื่องจากการเติมพริกน้ำปลาในอาหาร กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว หรืออาจเป็นคนติดเค็ม ชอบทานอาหารรสเค็ม เป็นต้น ความจริงแล้ว เราแนะนำให้งดการเติมพริกน้ำปลา อย่างไรก็ตามถ้าคุณแม่พอรู้วิธีการเติมพริกน้ำปลาอย่างถูกต้องเหมาะสม ก็ยังพอทานได้อยู่เช่นกัน ดังนี้
- เริ่มจากการจำกัดปริมาณในการเติมพริกน้ำปลา ให้เติมน้อยกว่าปกติ ลดปริมาณลงไปก่อน กรณีที่คุณแม่เป็นคนที่ติดเค็มมาก วิธีนี้จะทำให้คุณแม่ค่อย ๆ ปรับตัวลงได้
- หากวันนั้นมีมื้อที่คุณแม่กินเมนูที่ต้องเติมพริกน้ำปลา มื้ออื่น ๆ อาจต้องเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม หรือเลือกทานเมนูที่ไม่สามารถเติมน้ำปลาได้ในมื้ออื่น ๆ
- ลดมื้ออาหารที่มีโซเดียมมาก โดยคิดจากพื้นฐานอาหารที่มีรสเค็ม อย่างไรก็ตามเมนูหลายเมนูที่มีรสเค็มก็ไม่ได้มีปริมาณโซเดียมมากมายอะไร แม่ท้องอาจศึกษาเมนูที่จะทานก่อนตัดสินใจซื้อมาก็ได้
- ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโภชนาการ และการปรับตัว หากรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถปรับตัวได้ และยังคงติดทานเค็มอยู่เรื่อย ๆ
หากไม่มีความจำเป็นในการปรุงพริกน้ำปลาลงในอาหาร แม่ท้องก็ไม่ควรเติมเลย หากแม่ท้องเป็นคนที่ไม่ได้เติมเป็นปกติอยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องห่วงอะไร อย่างไรก็ตามสำหรับคุณแม่ที่ชอบกินเค็ม จะต้องระวังมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่คุณแม่ทานจะส่งผลให้ทารกด้วย หากทานอาหารไม่ดี ไม่หลากหลาย ทารกในครรภ์ก็จะได้รับสารอาหารขาด ๆ เกิน ๆ ตามไปด้วยนั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินน้ำพริกปลาร้าได้ไหม แซ่บ ๆ แบบนี้ ไม่ระวังอาจแย่
คนท้องกินพะโล้ได้ไหม หวานหอมสมุนไพรเครื่องเทศ ดีต่อคนท้องไหมนะ ?
คนท้องกินสเต๊กได้ไหม กินแบบ Rare และ Medium Rare ได้ไหม ?
ที่มา : sgethai, gotoknow
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!