X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

บริจาคร่างกาย ขั้นตอนสู่การเป็น "อาจารย์ใหญ่" ผู้ให้ กับกุศลอันยิ่งใหญ่

บทความ 5 นาที
บริจาคร่างกาย ขั้นตอนสู่การเป็น "อาจารย์ใหญ่" ผู้ให้ กับกุศลอันยิ่งใหญ่

“อาจารย์ใหญ่” คือ ชื่อ ที่นักศีกษาแพทย์ ใช้เรียกผู้ที่เสียสละ บริจาคร่างกาย เพื่อการศีกษา สำหรับนักศึกษาแพทย์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก และ ไม่เคยผ่านการเรียน กับอาจารย์ใหญ่มาก่อน แต่รู้ไหมว่า ใคร ๆ ก็สามารถเป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ เพียงแค่ บริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา เท่านั้น

 

สำหรับนักศึกษาแพทย์นั้น อาจารย์ใหญ่ ไม่ใช่แค่ร่างมนุษย์ ที่ไม่มีลมหายใจเท่านั้น แต่พวกเขาเหล่านั้น คือผู้ให้ ที่ยิ่งใหญ่ และ เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่อง เชิดชู วันนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “อาจารย์ใหญ่” ที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นได้

 

บริจาคร่างกาย เส้นทางสู่ อาจารย์ใหญ่

บริจาคร่างกาย เส้นทางสู่ อาจารย์ใหญ่

 

ร่างกายของผู้บริจาค สามารถสร้างประโยชน์ให้กับใครได้บ้าง ?

บางคนอาจจะคิด และสงสัยว่า หลังจากที่เราตายไปแล้ว จะสามารถทำอะไร ที่ยังพอจะสร้างประโยชน์ ให้กับชีวิตอีกหลายชีวิตที่ยังอยู่ สิ่งที่เราสามารถทำได้ ก็คือการบริจาคร่างกาย และการบริจาคอวัยวะ 

ในปัจจุบัน การบริจาคร่างกาย ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ สำหรับสังคมไทย แต่เป็นการถูกมองว่าการบริจาคนั้น เป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ จึงได้มีผู้บริจาคที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการบริจาคร่างกาย สามารถบริจาคได้ ตามโรงพยาบาล หรือ ภาควิชาคณะแพทย์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ที่มีการเปิดรับ 

 

วัตถุประสงค์ในการนำร่างกายของผู้บริจาคไปใช้หลักๆ ดังนี้

  • เพื่อใช้ในการศึกษา ของนักศึกษาแพทย์
  • เพื่อใช้ในการฝึกผ่าตัด สำหรับแพทย์เฉพาะทาง และงานวิจัยทางการแพทย์
  • เพื่อเก็บเนื้อเยื้อบางส่วน สำหรับการรักษา ทางการแพทย์
  • เพื่อให้เก็บโครงกระดูก เพื่อใช้ในการศึกษา

 

บริจาคร่างกาย ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

บริจาคร่างกาย ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

 

ใครที่สามารถบริจาคร่างกายได้บ้าง ?

การบริจาคร่างกายนั้น สามารถทำได้ทุกคน ตามความสมัครใจ แต่ได้มีกฎเกณฑ์การรับบริจาค และไม่ต้องตรวจสุขภาพ สถาบันรับบริจาค จึงกำหนดกฎเกณฑ์ เอาวไว้ ดังนี้

  • เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว (หากยัง ต้องได้รับการยินยอมจากบิดา มารดา และครอบครัวก่อน)
  • ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง เช่น HIV ไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค โรคไต เป็นต้น
  • ร่างกายของผู้บริจาค ต้องไม่เกี่ยวข้องกับคดีความ ใดๆทั้งสิ้น

 

การเตรียมตัวก่อนบริจาคร่างกาย

ก่อนการบริจาค ผู้บริจาค จะต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสารที่จำเป็นให้เรียบร้อย และควรจะแจ้งญาติ และจัดเตรียมผู้ที่จะสามารถดำเนินเรื่อง ภายหลังการเสียชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และความวุ่นวาย และเข้าใจตรงกัน ถูกต้อง ไม่คลาดเคลื่อน หากมีข้อสงสัย เกี่ยวกับการบริจาคร่างกาย ควรติดต่อสอบถามให้แน่ชัด เพื่อการดำเนินการที่ถูกต้องต่อไป

 

การบริจาคร่างกาย ต้องทำยังไงบ้าง ?

การบริจาคร่างกาย ต้องทำยังไงบ้าง ?

 

ขั้นตอนการบริจาคร่างกาย

แต่ละสถาบัน และหน่วยงาน จะมีการส่งเอกสาร และแบบฟอร์ม ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนเอกสาร ที่จะเตรียมไปใช้จะมีลักษณะ คล้ายกันทุกที่ ดังนี้

  • บัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรประชาชน
  • รูปถ่าย 1 นิ้วหรือ 2 นิ้ว จำนวน 2ใ บ

*สถาบันบางสถาบัน ต้องทำการยื่นคำร้อง ด้วยแบบฟอร์ม ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่จะไปบริจาค

จากนั้นกรอกข้อมูล ในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน ถูกต้อง นำไปส่งเจ้าหน้าที่ ทางหน่วยงาน จะมอบบัตรประจำตัวให้กับผู้บริจาค และควรเก็บไว้กับตัว เพื่อเป็นหลักฐานการบริจาค เมื่อแสดงความจำนง อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา เรียบร้อยแล้ว ควรแจ้งให้ทางครอบครัว หรือผู้ใกล้ชิดทราบไว้ เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเมื่อผู้อุทิศร่างกายฯ ถึงแก่กรรม

 

ข้อจำกัดในการบริจาคร่างกาย

  1. ขณะเสียชีวิต หากอายุเกิน 80 ปี จะต้องมีน้ำหนักต่ำกว่า 40 กิโลกรัม
  2. ต้องเสียชีวิตไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก่อนถูกนำไปเก็บรักษาร่าง ไว้ในห้องเย็น
  3. ผู้บริจาคร่างกาย ต้องไม่เคยได้รับการผ่าตัด หรือมีร่องรอยความเสียหาย บริเวณศีรษะ และสมองมาก่อนเสียชีวิต
  4. ผู้บริจาคร่างกาย ต้องไม่เสียชีวิตจาก โรคมะเร็ง บริเวณศีรษะ และสมอง หรือ เสียชีวิตจากการติดเชื้อ รวมถึงโรคร้ายแรง เช่น โรคเอดส์ ไว้รัสลงตับ วัณโรค โรคไต โรคเบาหวาน หรืออุบัติเหตุ
  5. ผู้บริจาคร่างกาย ต้องไม่เกี่ยข้องกับคดีความ หรือ ต้องมีการผ่าพิสูจน์
  6. ร่างกายของผู้บริจาค ต้องไม่ผ่านกระบวนการเก็บรักษา ด้วยน้ำยามาก่อน
  7. ร่างกายผู้บริจาค ต้องมีสภาพที่สมบูรณ์ และเหมาะสม ไม่เน่าเปื่อย หรืออวัยวะขาดหายไป ไม่ครบ ไม่สมบูรณ์

 

บริจาคร่างกาย เป็นอีกหนึ่งการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ ร่างกายของเรา ที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จะถูกนำไปใช้อย่างเกิดประโยชน์ ต่อยอดให้นิสิต นักศึกษา หรือบุลคากรทางการแพทย์ ได้นำไปฝึกฝน และศึกษาต่อ เพื่อนำวิชาความรู้ที่ได้ มาพัฒนา เป็นแพทย์ ผู้รักษาชีวิตของคนอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ถ้ารู้แบบนี้แล้ว คุณสนใจที่จะบริจาคแล้วหรือยัง ?

 

ที่มาข้อมูล : 1 , 2

บทความที่เกี่ยวข้อง :

บทความจากพันธมิตร
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
เคล็ดลับเนรมิตห้องครัวให้เรียบหรู ทันสมัย และถูกใจคนใช้งานจริง
เคล็ดลับเนรมิตห้องครัวให้เรียบหรู ทันสมัย และถูกใจคนใช้งานจริง
กระเป๋าแม่ลูกอ่อน สำคัญอย่างไร เลือกกระเป๋าแบบไหนให้สะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด
กระเป๋าแม่ลูกอ่อน สำคัญอย่างไร เลือกกระเป๋าแบบไหนให้สะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ  ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน

การบริจาคอวัยวะ การให้ที่ยิ่งใหญ่ ต่อลมหายใจได้มากถึง 8 ชีวิต

บริจาคอวัยวะกับบริจาคร่างกาย ต่างกันยังไง มีวิธีการ ขั้นตอนยังไงบ้าง ?

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Waristha Chaithongdee

  • หน้าแรก
  • /
  • ไลฟ์สไตล์
  • /
  • บริจาคร่างกาย ขั้นตอนสู่การเป็น "อาจารย์ใหญ่" ผู้ให้ กับกุศลอันยิ่งใหญ่
แชร์ :
  • บริจาคอวัยวะกับบริจาคร่างกาย ต่างกันยังไง มีวิธีการ ขั้นตอนยังไงบ้าง ?

    บริจาคอวัยวะกับบริจาคร่างกาย ต่างกันยังไง มีวิธีการ ขั้นตอนยังไงบ้าง ?

  • การบริจาคอวัยวะ การให้ที่ยิ่งใหญ่ ต่อลมหายใจได้มากถึง 8 ชีวิต

    การบริจาคอวัยวะ การให้ที่ยิ่งใหญ่ ต่อลมหายใจได้มากถึง 8 ชีวิต

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • บริจาคอวัยวะกับบริจาคร่างกาย ต่างกันยังไง มีวิธีการ ขั้นตอนยังไงบ้าง ?

    บริจาคอวัยวะกับบริจาคร่างกาย ต่างกันยังไง มีวิธีการ ขั้นตอนยังไงบ้าง ?

  • การบริจาคอวัยวะ การให้ที่ยิ่งใหญ่ ต่อลมหายใจได้มากถึง 8 ชีวิต

    การบริจาคอวัยวะ การให้ที่ยิ่งใหญ่ ต่อลมหายใจได้มากถึง 8 ชีวิต

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ