คุณแม่หลายคนกำลังเลือกขวดนมดี ๆ ให้กับลูก ๆ แต่ก็อาจจะไม่รู้ว่าแบบไหนที่ดีที่สุด หรือเหมาะกับเด็กทารกมากที่สุด ดังนั้นในวันนี้ theAsianparent Thailand จึงอยากนำข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกขวดนมสำหรับเด็กมาฝากคุณแม่ ขวดนมสำหรับเด็ก มีลักษณะอย่างไร ขวดนมเด็กแบบไหนเหมาะและดีกับลูกน้อย ขวดนมคอกว้าง ขวดนมคอแคบ ต่างกันอย่างไร เรารวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้แล้วเรียบร้อย และหากคุณแม่คนไหนที่ยังไม่มีแบรนด์ขวดนมในใจ เราก็ได้คัดเลือกมาให้ด้วยเช่นกัน มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ขวดนมพลาสติก แบบไหนดี วัสดุที่ใช้ทำขวดนมนั้น สำคัญแค่ไหน
เมื่อต้องเลือกซื้อขวดนม คุณแม่ควรจะคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ทำขวดนมด้วย ในปัจจุบัน ขวดนมส่วนใหญ่จะผลิตจากพลาสติก ซึ่งพลาสติกที่ใช้ผลิตขวดนมก็มีหลายแบบแตกต่างกันออกไป ทั้งแบบใส แบบขาวขุ่น แบบสีชา และแบบสีน้ำผึ้ง ส่วนคุณสมบัติของพลาสติกแต่ละชนิดนั้น มีดังนี้
- ขวดนมสีขาวขุ่น ทำจากพลาสติกชนิด Polypropylene สามารถทนต่อความเย็นและความร้อนได้ดี (-20 องศาเซลเซียสถึง 110 องศาเซลเซียส) และมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 6 เดือน แต่ถ้าต้มหรือนึ่งบ่อยอายุการใช้งานจะน้อยลง
- ขวดนมสีชาและสีน้ำผึ้ง ทำจากพลาสติกชนิด Polyethersulfone ทนความเย็นได้ไม่เกิน -50 องศาเซลเซียส และทนความร้อนได้สูงสุด 180 องศาเซลเซียส อายุการใช้งานจะสูงกว่าขวดนมสีขาวขุ่น (6 เดือนถึง 1 ปี) ถ้าดูแลรักษาดี อายุการใช้นานจะนานยิ่งขึ้น
- ขวดนมสีน้ำตาล ผลิตจากพลาสติกชนิด Polyphenylsulfone ทนความเย็นได้ไม่เกิน -50 องศาเซลเซียส และทนความร้อนได้สูงสุด 180 องศาเซลเซียส มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 8 เดือนไปถึง 2 ปี ซึ่งถือว่าใช้งานได้นานที่สุดในบรรดาขวดนมพลาสติกทั้ง 3 ชนิด
ขวดนมพลาสติกเป็น ขวดนมสำหรับเด็ก ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย น้ำหนักเบา ตกไม่แตก มีให้เลือกหลายราคา และมีหลายยี่ห้อ อย่างไรก็ตาม ขวดนมที่ทำจากพลาสติกประเภทเดียวกัน อาจมีสีต่างกันได้ เนื่องจากว่าใช้พลาสติกคนละเกรดผลิต
วิดีโอจาก : Charcoal & Tofu
ขวดนมแบบแก้ว
ขวดนมแบบขวดแก้ว มีข้อดี คือ ใช้ได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะแตก และทนต่อความร้อนได้ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้สาร BPA ละลายได้ง่าย แต่ข้อเสียก็มีอยู่ว่า ขวดนมชนิดนี้ มีน้ำหนักมากกว่าขวดนมพลาสติก แถมยังต้องระมัดระวังในการใช้เป็นพิเศษ เพราะสามารถตกแตกได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไซส์จุกนม 100 สิ่งแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 42 เลือกอย่างไรให้เหมาะกับลูก?
ขวดนมเด็กที่ช่วยลดอาการโคลิค
เด็กบางคน มักจะร้องไห้บ่อย พออุ้มหรือให้ดูดนมก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้ แถมยังมีอาการกํามือ จิกเท้า งอขา และตาเบิกโพลง ซึ่งเรียกอาการเหล่านี้ เป็นอาการของโรคโคลิค ที่อาจเกิดจากการที่เด็กพยายามปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ร่วมกับอาการปวดท้องจากแก๊สในกระเพาะอาหาร แต่ว่าคุณแม่ก็สามารถเลือกซื้อขวดนมที่ช่วยลดอาการโคลิคมาให้ลูกน้อยใช้ได้ ขวดนมชนิดนี้ จะช่วยให้ลมเข้าท้องตอนดูดนมได้น้อยลง
สัญลักษณ์ BPA Free ที่ขวดนม จำเป็นแค่ไหน
โดยปกติแล้ว หากขวดนมโดนความร้อนบ่อย ๆ อาจทำให้สาร BPA ในขวดนมปนเปื้อนลงไปในนม และเข้าสู่ร่างกายเด็กจนเป็นอันตรายต่อระบบสมอง พันธุกรรม และการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งการเลือกซื้อขวดนมชนิด BPA Free จะช่วยไม่ให้สาร BPA ลงไปปนเปื้อนในนมเด็กได้ หากคุณแม่ต้องการซื้อขวดนมชนิด BPA Free ก็สามารถเลือกขวดนมที่ทำจากพลาสติกชนิด Polypropylene Polyethersulfon หรือ Polyphenylsulfone ได้เลย เพราะส่วนใหญ่ขวดนมที่ทำจากวัสดุเหล่านี้ จะไม่มี BPA ผสม

ขวดนมคอแคบ ต่างจากขวดนมคอกว้างอย่างไร เลือกแบบไหนให้ลูกดี
คอขวดนมเด็ก ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและควรใส่ใจ ขวดนมคอแคบ และขวดนมคอกว้าง ต่างกันอย่างไร มาดูกันเลย
1. ขวดนมคอกว้าง
ขวดนมคอกว้าง มีข้อดีตรงที่ฐานจุกนมจะมีลักษณะกว้าง มีความคล้ายเต้านมของคุณแม่ จึงอาจทำให้เด็กรู้สึกเหมือนกำลังดูดนมแม่อยู่ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เอาลูกเข้าเต้าสลับกับการป้อนนมลูกด้วยขวดนม เพราะทำให้ลูกไม่สับสนระหว่างขวดนมกับการเข้าเต้า ช่วยลดปัญหาลูกเข้าเต้าแล้วไม่เอาขวดนมได้ นอกจากนี้ ขวดนมคอกว้างก็ยังล้างง่าย และแห้งเร็วกว่าขวดนมคอแคบ อย่างไรก็ตาม ขวดนมชนิดนี้ ก็มีข้อเสียตรงที่ว่า ถือและหยิบจับค่อนข้างลำบากกว่าขวดนมคอแคบ เพราะคอขวดกว้างเกินไป และกินพื้นที่ในกระเป๋ามากกว่า ทั้งนี้ ยังอาจมีราคาสูงกว่าขวดนมคอแคบด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ
2. ขวดนมคอแคบ
ขวดนมคอแคบมีจุกนมให้เลือกเยอะ เด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่สามารถใช้ได้ จุกนมหาซื้อได้ง่าย แถมบางยี่ห้อก็ราคาถูกกว่าขวดนมแบบคอกว้าง ส่วนข้อเสียนั้นมีอยู่ว่า ขวดนมชนิดนี้ จะล้างยากกว่าขวดนมคอกว้าง เนื่องจากบริเวณคอขวดแคบ จึงทำให้มีบางบริเวณหรือบางส่วนที่ล้างไม่สะอาดหรือไม่ทั่วถึง
แนะนำยี่ห้อขวดนมเด็กน่าซื้อ ปี 2022
หากยังไม่รู้ว่าจะซื้อขวดนมยี่ห้อไหน เราได้รวบรวมยี่ห้อขวดนมที่น่าสนใจมาให้คุณแม่แล้ว

1. Anti Colic Baby Bottle
แม่ ๆ จะเลือกซื้อขวดนมทั้งที ก็ต้องซื้อแบบที่คุณภาพดี ใช้ได้นาน ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย แถมมีประโยชน์มากกว่าแค่การใส่นม อย่าง Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เจ้าตัวเล็กเกิดอาการโคลิค ! มีตัวล็อกกันอากาศ ป้องกันลมเข้าท้องของทารก ลดโอกาสที่ลูกน้อยจะท้องอืดและมีอาการโคลิค, ผลิตจากซิลิโคน food grade ปลอดภัย ไร้สารเคมีปนเปื้อน ลูกน้อยสัมผัสได้ไม่ต้องกลัวอันตราย, ตัวขวดนมยืดหยุ่น บีบได้ ดีไซน์โค้งมน ให้ลูกน้อยได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กโดยการจับและบีบขวดนม, จุกนมออกแบบพิเศษให้คล้ายหัวนมแม่ รูเล็กเพื่อควบคุมการไหล นิ่มยืดหยุ่น ดูดง่าย และคอขวดนมกว้างเป็นพิเศษ ช่วยให้คุณแม่เทนมใส่ได้ง่าย และทำความสะอาดได้ง่ายด้วยค่ะ
ขนาด : 5 ออนซ์ และ 8 ออนซ์
ราคา : 509 บาท

2. Pigeon
ขวดนมยี่ห้อนี้ มีวางขายตามห้างและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่ว ๆ ไป ไม่มีสาร BPA ทำจากพลาสติก Polypropylene จุกนมจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าจุกนมธรรมดาถึง 2 เท่า และมี Air Ventilation System (AVS) เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปในขวดนมขณะดูด ช่วยลดปัญหาท้องอืดได้ แถมจุกนมยังทำจากซิลิโคนคุณภาพสูง ทนความร้อนได้มากถึง 120 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
ขนาด : ไซส์ S ขนาด 4 ออนซ์
ราคา : 335 บาท

3. PHILIPS
ขวดนมยี่ห้อนี้ทำจากพลาสติกชนิด Polypropylene ทนความร้อนได้ดี จุกนมไม่มีสาร BPA ทำจากซิลิโคน ดูดง่าย จุกนมไม่หดตัวง่าย ผ่านการรับรองมาแล้วว่าช่วยลดอาการโคลิค
ขนาด : ขนาด 4 ออนซ์
ราคา : 425 บาท

4. Pur
ขวดนมยี่ห้อ Pur ทนความร้อนได้สูงสุด 100 องศาเซลเซียส ขวดทำจากวัสดุ Polypropylene ไม่มีสาร BPA จุกนมเป็นแบบ Gentle Touchช่วยลดอาการสำลักซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการโคลิคได้
ขนาด : ขนาด 5 ออนซ์
ราคา : 380 บาท

5. Nanny
ขวดนม Nanny ไม่มีสาร BPA ทำจากพลาสติกชนิด Polypropylene ทนความร้อนได้มากถึง 110 องศาเซลเซียส ส่วนจุกนมทนความร้อนได้ 120 องศาเซลเซียส มีลักษณะอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ และอ่อนโยนสำหรับเด็ก มีระบบวาล์วที่ช่วยลดอาการโคลิค
ขนาด : ขนาด 3 ออนซ์
ราคา : 59 บาท
ล้างขวดนมอย่างไรให้สะอาดและปลอดเชื้อโรค
นอกจากการเลือกซื้อขวดนมที่ได้คุณภาพแล้ว การล้างขวดนมก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เราแนะนำให้คุณแม่ ปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้ล้างขวดนมได้สะอาดมากยิ่งขึ้น
- แยกชิ้นส่วนขวดนมออกจากกัน เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จากนั้นให้ใส่อุปกรณ์ทุกชิ้นลงไปในอ่างและเติมน้ำร้อนลงไป ทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงค่อย ๆ เทน้ำออก
- ผสมน้ำยาล้างขวดนมกับน้ำอุ่นเข้าด้วยกัน แล้วใช้ฟองน้ำล้างชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้สะอาด ให้ล้างด้านในก่อนแล้วจึงล้างด้านนอก ไม่ควรใช้ฟองน้ำขัดขวดนมแรง ๆ เพราะจะทำให้ขวดนมเป็นรอย และมีอายุการใช้งานสั้นลง
- ล้างขวดนมด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 รอบ โดยให้ใช้นิ้วมือถูรอบขวดนมเบา ๆ เพื่อดูว่ายังมีคราบนมหรือมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตกค้างอยู่หรือไม่ ถ้าจะให้ดีต้องลองดมขวดนมดูว่า ยังมีกลิ่นนมหรือกลิ่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลงเหลืออยู่หรือเปล่า ขวดนมที่สะอาดจะต้องไม่มีกลิ่นใด ๆ หลงเหลืออยู่
- ตากขวดนมบนตะแกรงวางภาชนะ แล้วยกไปผึ่งแดดให้แห้ง เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรค
- หลังจากล้างขวดนมเสร็จแล้ว ต้องนึ่งขวดนมอีกทีอย่างน้อย 10-15 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือก ขวดนมสำหรับเด็ก ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความชอบ ความพอใจ และกำลังทรัพย์ของแต่ละคน หากคุณแม่เลือกซื้อขวดนมที่ดี มีเครื่องหมายรับรอง และปลอดภัยต่อเด็ก ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงหรือปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดกับเด็กในอนาคตได้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รถเข็นสำหรับเด็ก วิธีเลือกรถเข็นเด็กอย่างปลอดภัย เลือกยังไงให้คุ้ม
วิธีใส่คาร์ซีทที่ถูกต้อง เช็ควิธีที่คุณใส่ที่นั่งบนรถให้ลูกว่าทำถูกหรือไม่
ลูกใครเป็นโคลิคบ้าง ทำยังไงช่วยให้ลูกหยุดร้องไห้จากอาการโคลิค
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับขวดนมเด็กได้ที่นี่ !
ขวดนมเด็ก จะมีวิธีการในการเลือกขวดนมสำหรับเด็กได้อย่างไรบ้างคะ
ที่มาข้อมูล : 1 , 2 , 3 , 4 , 5