X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

9 ประโยชน์ของเมล็ดเจีย (Chia Seeds) กินแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?

บทความ 5 นาที
9 ประโยชน์ของเมล็ดเจีย (Chia Seeds) กินแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?

เมล็ดเจีย ถือเป็นธัญพืชที่จะช่วยป้องกันโรค และบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งปัจจุบันเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ทำให้ผู้คนเริ่มห่วงใยสุขภาพของตัวกันมากขึ้น และเริ่มที่จะหันมารับประทานอาหารเสริม หรือธัญพืชต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้น เมล็ดเจีย ก็ถือเป็นธัญพืชที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งเมล็ดเจียนั้นจะมีลักษณะรูปร่างที่มีขนาดเล็ก คล้ายเมล็ดแมงลัก แต่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย บทความสำหรับวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับ ประโยชน์ของเมล็ดเจีย กันให้มากยิ่งขึ้น ว่าทำไมเมล็ดเจียจึงเป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลย

 

คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเจีย

  • เมล็ดเจีย  28 กรัม ให้พลังงานเพียง 137 แคลอรี
  • โปรตีน 40.32 กรัม
  • ไขมัน 11.89 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 35.14 กรัม
  • ไฟเบอร์ 34.4 กรัม
  • แคลเซียม 150 กรัม
  • ธาตุเหล็ก 14.30 กรัม
  • แมกนีเซียม 362 กรัม
  • ฟอสฟอรัส 810 กรัม
  • โพแทสเซียม 425 กรัม
  • โซเดียม 41 กรัม
  • ซิงก์ 10.70 กรัม

 

ประโยชน์ของเมล็ดเจีย มีอะไรบ้าง?

 

ประโยชน์ของเมล็ดเจีย

 

Advertisement

1. ช่วยลดน้ำหนัก

เมล็ดเจียมีส่วนในการที่จะช่วยลดน้ำหนักได้เมื่อรับประทานเข้าไป เพราะเมล็ดเจียนั้นจะมีคุณสมบัติพองตัวออก เมื่อถูกแช่ในน้ำ ทำให้เมื่อรับประทานเมล็ดเจียเข้าไปก็จะไปขยายตัวภายในท้อง จนทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มนาน และรับประทานได้น้อยลง ไม่ทำให้เกิดอาการหิวระหว่างวัน ส่งผลให้น้ำหนักลดลงนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ ภายในเมล็ดเจียยังมีเส้นใยอาหาร และกรดอัลฟาไลโนเลนิก ที่อาจมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะอ้วน และยังมีงานวิจัยพบว่า การรับประทานเมล็ดเจียวันละ 35 กรัม นาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ลดน้ำหนัก และขนาดรอบเอวลงได้จริง และระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมก็ลดลง และมีไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้น

 

2. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

โดยทั่วไปแล้วธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะดีต่อการลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ รวมถึงอาจเป็นผลดีต่อคนที่ป่วยเป็นเบาหวานด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงได้มีการศึกษาพบว่า เมื่อให้คนที่ป่วยเป็นเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างดี รับประทานเมล็ดเจีย ชนิดซัลบา หรือรำข้าวสาลี ประมาณ 37 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว และลดการเกิดความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ที่สามารถทำให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง

 

3. รักษาความดันโลหิตสูง

ได้มีการวิจัยศึกษาเรื่องการลดระดับความดันโลหิต ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โดยพบว่าการรับประทานเมล็ดเจียแบบบดวันละ 35 กรัม นาน 12 สัปดาห์ ส่งผลให้คนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง มีระดับความดันโลหิตลดลง โดยไม่ส่งผลต่อระดับความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว ดังนั้น จึงมีการคาดว่าการรับประทานเมล็ดเจียจึงอาจมีส่วนในการควบคุมรักษาภาวะระดับความดันโลหิตสูง แต่ก็ยังไม่ได้มีการศึกษายืนยันอย่างชัดเจนปัจจุบัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคความดันโลหิตสูง อาการและแนวทางรักษา ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับความดันโลหิตสูง

4. ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

เมล็ดเจีย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เนื่องจากภายในเมล็ดเจียนั้นมีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม และกรดอัลฟาไลโนเลนิก หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน

 

5. ช่วยรักษาบาดแผลหายเร็ว

การรับประทานเมล็ด อาจมีส่วนช่วยในการรักษาบาดแผลให้หายเร็ว ไม่ติดเชื้อง่าย เนื่องจากเมล็ดเจียนั้นจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งมีฤทธิ์แก้อักเสบ และบรรเทาอาการเจ็บปวด แถมยังป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลอีกด้วยค่ะ

 

6. ดีต่อระบบเผาผลาญพลังงาน

การรับประทานเป็นประจำ ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น เนื่องจากภายในเมล็ดเจียนั้นจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้นั้นมีส่วนช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายนั่นเองค่ะ

 

7. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานปกติ

เนื่องจากภายในเมล็ดเจีย จะอุดมไปด้วยไขมันดี และไฟเบอร์ประมาณ 34.4 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งตัวไฟเบอร์นั้นจะมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้พุงป่อง และยังลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องไม่ผูกขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

ประโยชน์ของเมล็ดเจีย

 

8. ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย

สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายโดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬา หรือคนที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ การรับประทานเมล็ดเจียจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้ เพราะในเมล็ดเจียนั้นอุดมไปด้วยโปรตีนสูง ซึ่งมากกว่าโปรตีนที่พบในธัญพืช หรือเมล็ดข้าวชนิดต่าง ๆ

 

9. ช่วยบำรุงให้ผิวดูอ่อนวัย

ในเมล็ดเจีย นั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามิน มากกว่าในผลไม้ตระกูลเบอร์รี ดังนั้น การรับประทานเมล็ดเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้ดูอ่อนวัยลง มีเส้นผมที่นุ่มสลวย เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย เป็นต้น

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ ประโยชน์ของเมล็ดเจีย ที่เรานำมาฝากกัน เมล็ดเจียถือเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่หลากหลายมาก ๆ เลยนะคะ ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยลองรับประทานสามารถซื้อมาติดครัวไว้กันได้เลย เพราะถือเป็นอาหารยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ รับรองรับประทานเข้าไปแล้วดีต่อสุขภาพแน่นอน ทั้งมีส่วนช่วยในการรักษาและป้องกันโรค รวมถึงช่วยบำรุงสุขภาพในด้านอื่น ๆ มากมาย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ

 

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ใหม่ ! S-26 Gold 3 เอกสิทธิ์เฉพาะ หนึ่งเดียวของเอส – 26 ที่ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน สูตรเฉพาะที่แม่เลือก
ใหม่ ! S-26 Gold 3 เอกสิทธิ์เฉพาะ หนึ่งเดียวของเอส – 26 ที่ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน สูตรเฉพาะที่แม่เลือก

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เมนูข้าวบาร์เลย์ ธัญพืช อร่อย ไฟเบอร์สูง ดีต่อสุขภาพ ที่สายกินไม่ควรพลาด

ธัญพืช อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารสำหรับคนท้อง ที่ไม่ควรมองข้าม

ไขข้อสงสัย คนท้องกินถั่วลิสงได้ไหม เป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า

ที่มา : pobpad, kapook

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Suttida Butdeewong

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 9 ประโยชน์ของเมล็ดเจีย (Chia Seeds) กินแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
แชร์ :
  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

    ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

  • ทำไมไม่ควรให้เด็กเล็กกินยาลดน้ำมูก ผลข้างเคียงของยาลดน้ำมูกที่แม่ต้องรู้!

    ทำไมไม่ควรให้เด็กเล็กกินยาลดน้ำมูก ผลข้างเคียงของยาลดน้ำมูกที่แม่ต้องรู้!

  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

    ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

  • ทำไมไม่ควรให้เด็กเล็กกินยาลดน้ำมูก ผลข้างเคียงของยาลดน้ำมูกที่แม่ต้องรู้!

    ทำไมไม่ควรให้เด็กเล็กกินยาลดน้ำมูก ผลข้างเคียงของยาลดน้ำมูกที่แม่ต้องรู้!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว