เพราะยุคนี้เป็นยุคของดิจิทัลกำลังมาแรง จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทั้งหลายก็มาจาก คุยแชท กันทั้งนั้น แต่ถ้าถามว่าเป็นเรื่องยากหรือเรื่องง่าย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบทสนทนาล้วน ๆ เคยสงสัยไหมคะ ทำไมคู่เดตที่เราเริ่มต้นคุยกันมาโดยตลอด ไหนจะยังมีความสนใจในตัวเราแล้ว แต่พอคุยได้สักพักก็หายเข้ากลีบเมฆ และหยุดคุยก่อนหายจากชีวิตเอาดื้อๆ ซึ่งทั้งหมดก็มาจากพฤติกรรมการแชทคุยที่ไม่เวิร์คนั่นเอง
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าถ้าหากได้อ่านบทความที่ theAsianparent นำเสนอวันนี้ ใครที่กำลังนกอยู่ คู่เดตของเราต้องกลับมาสนใจแน่นอน เพราะวันนี้เราจะมาบอก 7 พฤติกรรมผิดพลาดที่เราอาจจะเผลอทำ และส่งผลให้โดยเขาเทโดยไม่รู้ตัว ส่วนจะมีข้อไหนบ้างไปดูกันเลย
7 พฤติกรรม คุยแชท ที่ทำแล้วอาจโดนเท
1. เรียกร้องความสนใจมาโดยตลอด
เชื่อว่าเมื่อเราเริ่มต้นคุยกับใครสักคนแล้ว ความสนใจในตัวอีกฝ่ายก็จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จนในบางครั้งมันกลายเป็นการเรียกร้องความสนใจไปซะอย่างนั้น ซึ่งข้อนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเบื่อหน่าย และกลายเป็นการสร้างความรำคาญให้เขาได้ และนั่นคือสาเหตุที่อีกฝ่ายเริ่มที่จะตอบแชทน้อยลง และเงียบหายไปในที่สุด
แต่ถ้าเราลองปรับ Mindset ด้วยการเริ่มทักเรื่องอื่นบ้าง ที่ดูเป็นการอัปเดตชีวิตของอีกฝ่าย สร้างความประทับใจในเรื่องของการใส่ใจเขามากขึ้น นั่นก็อาจจะดูเป็นแรงซัพพอร์ตที่ดี ที่ทำให้เขานึกถึงเราเสมอได้เหมือนกัน
2. ฉลาดมากเกินไป รู้มันไปทุกเรื่อง
ในการคุยแชทบางครั้ง เรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องที่เรารู้ก็จริง แต่การรู้ดีมันไปทุกเรื่องก็ดูน่าเบื่อสำหรับคู่เดตไปในตัว อีกทั้งในบางครั้งที่เราทำตัวฉลาด ก็ดูเป็นการข่มอีกฝ่ายไปในตัว และอาจทำให้เขาไม่ชอบพฤติกรรมดังกล่าวไปในตัว โดยเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเพศสภาพนะคะ เพราะไม่ว่าจะเพศชายหรือเพศหญิง หรือเพศไหน ต่างฝ่ายก็อาจจะมีความรู้สึกไม่ชอบในการมีคนมานำไปเสียทุกเรื่องก็ได้
ในบางครั้งการอวดรู้ไปทุกเรื่อง ก็อาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเหมือนเขาเป็นคนโง่ อาจจะมีความรู้สึกว่ารู้ไม่เท่า หรือเก่งไม่เท่าคุณเลย กลับกลายไปทำให้เขาเสียความมั่นใจจนไม่อยากจะแชทต่อด้วย ดังนั้นเรื่องบางเรื่องก็ควรปล่อยให้เขาฉลาดบ้าง ซึ่งคุณอาจแกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างก็น่าจะดีกว่า
บทความน่าสนใจ ความสัมพันธ์ซับซ้อน ทั้ง 7 แบบ ถ้าไม่อยากเสียใจ อย่าหลุดเข้าไป
3. ไม่รู้อะไรสักอย่าง
จากข้อที่แล้วที่บอกว่ารู้มันไปทุกเรื่อง หรือความฉลาดเป็นกรดกันไปแล้ว แต่ในมุมกลับกัน คนเราก็ต้องมีไพ่ตายที่เป็นเสน่ห์ของตัวเองเช่นกัน ไม่ว่าใครก็แล้วแต่มีความถนัดและความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรสักอย่างจนดูเป็นคนไม่ฉลาด ยิ่งเป็นการคุยแชทที่ดูแล้วน่าเบื๊อน่าเบื่อ ได้แต่ตอบว่าไม่รู้ แถมยังออกเสียงหรือความเห็นไม่ได้ นานวันเข้าเขาก็จะยิ่งรู้สึกเบื่อเพราะการขาดอารมณ์ร่วม สิ่งที่จะเกิดขึ้นลำดับต่อไปก็คือ เขาจะออกไปหาคนอื่นที่คุยได้สนุกและถูกคอกว่านั่นเอง
รู้หรือไม่คะ การตอบแชทกับอีกฝ่ายเพียงคำเดียวสั้นๆ ถือเป็นมือปราบแชทที่แท้ เพราะจริงๆแล้วในหัวของเราสามารถเลือกใช้คำได้อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการรักษาบทสนทนาให้มันราบรื่น ลองตั้งใจอ่านสิ่งที่อีกฝ่ายพิมพ์มาให้ดี และเพิ่มเติมอารมณ์รวมกันเขาไปหน่อย แค่นี้ก็เพิ่มความน่าสนใจให้เขาติดหนึบในแชทเราแล้วล่ะ!
4. คุยแบบน่าเบื่อ ไม่มีอารมณ์ขันสักนิด!
ความอารมณ์ดีนี่นับเป็นกุญแจสำคัญจริงๆนะ อย่างที่เขาชอบว่ากันว่า “สวยมักนก ตลกมักได้” คำนี้ไม่เกิดจริง เพราะการมีอารมณ์ขันก็สามารถช่วยให้คนหนึ่งคนที่กำลังเศร้า ลุกขึ้นมายืนยิ้มได้อีกครั้ง แต่ถ้าเราเริ่มการคุยแชทด้วยคำถามเดิม หรือถามแต่เรื่องเก่าตลอดเวลา เช่น ทำอะไรอยู่, กินข้าวหรือยัง, ไปไหน, ไปกับใคร ในช่วงแรกที่ยังใหม่อยู่ก็อาจจะยินดีที่จะตอบนั่นแหละ แต่พอนานวันเข้ามันอาจจะกลายเป็นเหมือนการสอบสวนก็เป็นได้เช่นกัน
ในบางครั้งการแชทด้วยการส่งมีม (Meme) หรือหาหนังเบาสมองมาคุยแชท ก็เป็นเรื่องที่ทำให้อีกฝ่ายสนใจในตัวเราเช่นกัน เพราะลำพังงานก็หนักมากพออยู่แล้ว เรียนก็สร้างความเครียด อย่าให้การคุยแชทเพื่อเริ่มเดต เป็นสิ่งที่หนักหนาและอึดอัดจนหายใจไม่ออกไปด้วยอีกเรื่องเลยเถอะ
บทความน่าสนใจ : ทำไมคุณถึงยังโสด เพราะกลัวการเริ่มต้น หรือแค่ชอบอยู่คนเดียว
5.ไม่เคารพเวลาส่วนตัว
บ่อยครั้งที่คู่สนทนาของเราอาจจะติดพันอยู่กับงาน, อยู่กับครอบครัว หรือแม้กระทั่งออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน สิ่งที่เราไม่ควรทำก็คือการรัวข้อความไปในตอนที่เขาไม่ว่า นั่นก็เพราะว่ามันแสดงถึงความที่เราไม่เคารพในชีวิตส่วนตัวของเขา ส่งผลให้เขารู้สึกรำคาญ และไม่แม้แต่จะอยากคบหาหรือพูดคุยด้วยอีกต่อไป
เชื่อว่าเสน่ห์ของการรอคอยก็เป็นเรื่องที่เราควรคิดถึง แต่ละคนมีภาระในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน การปล่อยโทรศัพท์ทิ้งไว้และออกไปใช้ชีวิต ให้ช่องว่างระหว่างการพูดคุยเป็นความคิดถึง เชื่อว่ามันทำให้เราดูเป็นคนที่น่าสนใจ มากกว่าการตามจิกเป็นไก่อย่างแน่นอน
6.คิดลบไม่หยุด มีแต่ความ Toxic
เชื่อว่าเรื่องของการพูดคุย มันต้องมาควบคู่กับความสบายใจ เพราะการชวนคุยแต่เรื่องลบๆ บ่นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวไปหมด จมอยู่แต่ความหงุดหงิดไม่พอใจ ยิ่งส่งผลว่าเราเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วมีแต่ความ Toxic พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด เป็นทุก และไม่อยากเข้าใจ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมและมองเห็นแต่ด้านแย่ มองโลกแค่ในแง่ร้าย ทำให้อีกฝ่ายขยาดที่จะเข้าใกล้นั่นเอง
ในบางครั้งการบ่นเรื่องราวในชีวิตประจำวันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเค้าอาจจะโอ๋หรือให้กำลังใจซัพพอร์ตเราได้ แต่ถ้าเราเลือกที่จะพูดคุยในหัวข้อที่ดี ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะในบางครั้งอีกฝ่ายเพียงแค่อยากได้ความสุข ให้พอมีรอยยิ้มที่มุมปากบ้าง แถมถ้าเราใส่ใจความชอบของเขา และจำได้ว่าเขาไม่ชอบการนั่งฟังเสียงบ่นอย่างเดียว ยิ่งทำให้บทสนทนาเดินหน้าต่อไปได้
7.เอาแต่พูด และไม่ฟังอะไรเลย
การพูดคุยตลอดเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างก็เป็นเรื่องที่ดี แต่การสนทนาที่มีการโต้ตอบ เปลี่ยนเป็นฝ่ายที่ฟังว่ายิ่งดีกว่าเดิม มันต้องมีบ้างแหละ คนที่เอาแต่พูดเรื่องของตัวเองไม่หยุด และไม่สร้างบทสนทนาด้วยการถามกลับ หรือเป็นฝ่ายรับฟังเรื่องราวของอีกฝ่ายบ้าง เจอแบบนี้บ่อยเข้า คนคุยที่กำลังแชทด้วยอยู่ อาจจะหายไลน์ไม่ตอบโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ เพราะเขามองออกจากดาวอังคารแล้วล่ะว่า มันจะต้องเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดแน่ในอนาคต หากต้องลงเอยกับคุณ
บางครั้งการสนทนาด้วยความลื่นไหล ก็มาพร้อมกับการแชร์และรับไปพร้อมกันนะคะ การสร้างความรู้จักกันด้วยการผลัดกันถามตอบ หรือการทำ TMI (Too Much Infomation) กับคู่สนทนาเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งยังช่วยให้เรารู้ความชอบของกันและกัน แถมยังไม่ดูเข้าถึงยากจนเกินไปอีกด้วย!
พอเราพูดถึงเรื่องของการคุยแชท เพื่อสร้างความรู้จักกันและกันอาจดูเป็นเรื่องยากใช่ไหมละคะ แต่ถ้าก่อนการเริ่มต้นสนทนากับใคร เรารู้จักตัวเองมากพอหรือยังก็เป็นอีกสิ่งที่เราควรย้อนถามตัวเอง เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญในจะเพิ่มการสนมนากับคนอื่น นอกจากจะทำให้เรารู้ตัวเองเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้เรารู้ตัวอีกว่าเราต้องการอะไรจากคนนี้, บทสนทนาไหนที่เราชอบ, คนลักษณะไหนที่เราอยากเลี่ยง แถมยังช่วยให้เราตัดสินใจพูดคุยได้อย่างดีด้วย
จากทั้ง 7 ข้อที่เราลิสต์มาให้ นี่เป็นเพียงหลักจิตวิทยาง่ายๆ ที่เป็นเทคนิคในการแชทให้ได้ผลดี เพื่อให้คู่สนทนาของเรารู้สึกดีที่จะพูดคุย ยิ่งคุยยิ่งชอบ ยิ่งทักยิ่งหลง แถมยังยิ่งเข้าหาเรากลับอีก ไม่ใช่คุยแล้วหาย คุยแล้วหน่ายและหนีไปในที่สุด สำหรับใครที่มักเกิดการนกกลางทางเป็นประจำ ก็ควรปรับเปลี่ยนวิธีการแชทโดยด่วน แต่ทั้งนี้ก็ควรปรับใช้ตามสถานการณ์ให้พอเหมาะดูนะคะ
ไม่ว่าอย่างไรถึงเราจะปรับการคุยแค่ไหน ทุกอย่างก็ต้องมาจากความจริงใจและเป็นตัวเองอย่างเต็มที่เพราะการคุยแชทผ่านทางโลกออนไลน์ เป็นอะไรที่ไม่ต้องเห็นหน้าตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสกิลการพิมพ์ล้วนๆ ดังนั้นเมื่อทบทวนตัวเองเสร็จแล้ว ขอให้มั่นใจตัวเองเข้าไว้ เป็นตัวเอง เป็นผู้ฟังที่ดี ที่พร้อมแชร์เรื่องของตัวเองด้วย เท่านี้ความโสดก็บ๊ายบายเราอย่างแน่นอน!
บทความน่าสนใจ :
วิธีควบคุมอารมณ์ตอนทะเลาะ ฉบับง่ายเพื่อคู่รักทุกคู่
4 วิธี Move on เริ่มอย่างไรให้ดีที่สุด เตรียมพร้อมสำหรับรักครั้งใหม่
“รัก” หรือ “ความผูกพัน” จะรู้ได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์ของเรายังปกติดีอยู่
ที่มา : (trendingus)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!