อาจจะมีคุณแม่จำนวนไม่น้อย ที่กำลังสงสัยว่า เมื่อไรจะได้เห็นสีผิวจริง ๆ ของลูกน้อยสักที เด็ก ๆ จะขาวสวยไหม หรือจะผิวคล้ำ ในวันนี้ เราจะพาคุณแม่มาหาคำตอบร่วมกันว่า เราจะสามารถเห็นสีผิวทารกได้ชัดเจนตอนไหน ทำไม ทารกสีผิวเปลี่ยน มาดูกัน!
ทำไม สีผิวของลูกน้อยถึงเปลี่ยนแปลงไป ทารกสีผิวเปลี่ยน ได้อย่างไร
ตามธรรมชาติของผิวของเด็กทารกนั้น เมื่อออกจากครรภ์แม่ ก็จะมีไขสีขาวติดอยู่ทั่วบนผิวของทารก โดยไขสีขาวเหล่านี้ ก็จะติดตัวทารกน้อยไปอย่างน้อย 1-3 สัปดาห์ แล้วจากนั้น คุณแม่จะสามารถที่จะเริ่มสังเกตได้แล้วว่า ผิวของทารกนั้นจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อย คือ ดูมีความใส และเรียบเนียนมากขึ้น และจากนั้นจะเริ่มเห็นสีผิวจริงได้หลังจากช่วง 3-6 เดือนขึ้นไป โดยสีผิวอาจขึ้นอยู่กับพันธุกรรม หรือปัจจัยอื่น ๆ จากสภาพแวดล้อม การทานยา การเลี้ยงดู และปัจจัยอื่น ๆ มากมาย ที่มีผลต่อการสร้างเซลล์ผิวในเด็ก ที่แตกต่างกันออกไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีดูแลผิวทารก ทำอย่างไรให้ลูกผิวดี สดใส ไร้ขุย
เราจะเห็นสีผิวทารกชัดเจนตอนไหน
ตามธรรมชาติของผิวพรรณเด็กแรกเกิด ที่มีไขสีขาวคอยปกป้องผิวหนังของลูก และไขเหล่านั้นจะค่อย ๆ หลุดออกเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 สัปดาห์ และเริ่มเห็นสีผิวลูกน้อยได้ชัดเจนมากขึ้นหลังจากผ่านไป 3-6 เดือน โดยสำหรับสีผิวการทานอาหาร หรือยาบำรุงต่าง ๆ ของคุณแม่ รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการสร้างเซลล์ผิวของเด็กที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วยค่ะ
เราจำเป็นต้องดูแลผิวของทารกไหม สำคัญแค่ไหน
ถ้าคำถามนี้ บอกได้เลยว่า การดูแลผิวสำหรับทารกน้อยนั้น จำเป็นมาก ๆ เพราะผิวของทารกนั้นมีชั้นผิวที่บอบบาง และจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัว เพื่อให้ผิวของลูกสามารถเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ที่ได้พบเจอ โดยผิวของทารกนั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการผิวแพ้ง่ายในช่วง 2-3 เดือนแรก และมีโอกาสที่จะเป็นผื่นได้ง่าย โดยเฉพาะผื่นผ้าอ้อม และยังเกิดการระคายเคืองได้ง่ายจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่สำหรับเด็กโดยเฉพาะอีกด้วยค่ะ ดังนั้น คุณแม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับทารกน้อยโดยเฉพาะ หากจะนำมาใช้กับลูก ๆ นะคะ
เคล็ดลับดูแลผิวของทารก ให้ชุ่มชื้น สวยงาม
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก็คงจะอาบน้ำให้ลูกน้อยทุก ๆ วัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลูกน้อยแบบที่มาจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี ที่ปลอดภัยสำหรับผิวที่บอบบางของเด็ก ๆ ในการเลือกใช้ ควรเลือกแบบที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทารกโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวของลูก และอย่าลืมทำให้น้ำที่อาบอุ่นอยู่เสมอ เพื่อรักษาสภาพผิวของเด็ก ๆ และหลังจากอาบน้ำเช็ดตัวลูกให้แห้งสนิท และไม่เช็ดตัวลูกในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง หรือเปิดแอร์เอาไว้ ในขณะที่กำลังแต่งตัวให้ทารกน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ เป็นหวัดนะคะ
-
การเลือกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับคุณแม่ เพราะว่าสามารถซึมซับการขับถ่ายของเด็ก ๆ ได้ดี และยังเบาแรงในการซักไปได้เยอะมาก แต่อย่างไรก็ตาม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปบางชนิด ก็อาจทำให้ผิวของทารกเกิดการระคายเคือง หรือที่เราเรียกกันว่าผื่นผ้าอ้อมได้ หรือถ้าคุณแม่ปล่อยให้สิ่งสกปรกอยู่ใต้ก้นลูกน้อยนานเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ จนทำให้ผิวสวย ๆ ของลูก กลายเป็นผิวเสีย ๆ ดังนั้น เราควรเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีคุณภาพดี ที่สามารถลดสาเหตุการแพ้และระคายเคืองผิวได้ดี และทำให้ผิวของเด็กแห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการอับชื้นด้วย
-
ดูแลผิวทารกอย่าให้ผิวแห้ง
คุณแม่ควรเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของทารกน้อยอยู่เสมอ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งและหมองคล้ำ โดยการใช้ครีมบำรุงเด็ก หรือโลชั่นต่าง ๆ ที่ผลิตมาเพื่อทารกโดยเฉพาะ จะช่วยให้ผิวของลูกน้อยอ่อนนุ่มและเรียบลื่นได้เป็นอย่างดีค่ะ
-
ดูแลผิวพรรณ ให้มีผิวที่ดี
การดูแลผิวพรรณนอกจากการทาโลชั่น หรือเติมครีมบำรุงให้เด็ก ๆ แล้ว ก็ไม่ควรให้เด็กทารกสัมผัสกับแสงแดดแรง ๆ อย่างน้อยก็จนกว่าจะอายุ 6 เดือน เพราะทารกน้อยมีผิวที่บอบบางมาก ๆ และยังอาจเกิดผดร้อนเล็ก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากเหงื่อได้ด้วย ซึ่งคุณแม่ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มาจากธรรมชาติ หรือสำหรับเด็กโดยเฉพาะเท่านั้น เพื่อป้องกันการระคายเคือง ที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยสรุปแล้ว สีผิวของทารกน้อยนั้น จะสามารถเห็นได้ชัดหลังจากช่วง 3-6 เดือนขึ้นไป เพราะในช่วงแรกนั้นยังมีไขสีขาวมาติดที่ผิวของลูกน้อยอยู่ ในส่วนของการบำรุงผิวลูก ถ้าหากคุณแม่อยากให้ลูกมีผิวพรรณดีตั้งแต่เล็ก ๆ คุณแม่ควรใส่ใจเรื่องการ ทำความสะอาดในเวลาอาบน้ำให้ลูก และบำรุงลูกน้อยด้วยครีมหรือโลชั่นสำหรับเด็กนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
6 วิธีหาก “อยากให้ลูกผิวขาว” ดูสวยใสเป็นธรรมชาติ
“แสงแดดยามเช้า” ดีกับทารกอย่างไร ทารกไม่ควรตากแดดจริงหรือ ?
10 อันดับ ยาทาแก้คัน ยาทาแก้ผื่นคัน แบรนด์ไหนดีกับผิวเด็กทารก
ที่มา : th.mamypoko
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!