เลือดกำเดาไหล เป็นภาวะที่พบได้บ่อยทั้งในเด็ก และ ผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่อาการมักจะไม่ร้ายแรง และ หยุดไหลได้เองภายใน 5-10 นาที จึงทำให้ผู้ป่วย รวมถึงคุณพ่อ คุณแม่ นิ่งนอนใจ ไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และ รักษา เราจะมาดูกันนะคะว่า ลูกเลือดกำเดาไหล ทำไง เลือดกำเดาไหลแบบใดที่ควรไปพบแพทย์ โดยเฉพาะแบบใด ที่ต้องรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันอันตรายร้ายแรง
ลูกเลือดกำเดาไหล-01
สาเหตุที่พบบ่อยของเลือดกำเดาไหลคืออะไร?
สาเหตุที่พบบ่อยของเลือดกำเดาไหล มักจะเกิดจากการแคะ แกะ เกา ในโพรงจมูกอย่างแรง จนเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก โดยเฉพาะในเด็ก จึงมักพบเลือดกำเดาไหลบ่อยในเด็กเล็ก อายุตั้งแต่ 2 ขวบจนถึงช่วงวัยประถมต้น ( 2-10 ปี ) เมื่อเด็กโตขึ้นอาการจึงมักจะดีขึ้น จนหายไปได้เอง
ในฤดูกาล ที่อากาศเย็น และ แห้ง เช่นฤดูหนาว หรือ เกิดจากอุบัติเหตุกระทบกระแทกบริเวณจมูก และ ใบหน้า ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหลได้บ่อย นอกจากนี้เลือดกำเดาไหล อาจเกี่ยวข้องกับการสั่งน้ำมูกแรง ๆ เพราะจมูกบวม อักเสบ จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคประจำตัวของผู้ป่วยที่มีเลือดออกง่าย หรือ เลือดหยุดยากผิดปกติ รวมถึงยาบางชนิดที่ทำให้เลือดออกผิดปกติได้
ลูกเลือดกำเดาไหล-02
เลือดกำเดาไหลแบบใดอาจมีสาเหตุร้ายแรงที่ควรปรึกษาแพทย์ ?
หากลูกน้อย หรือ คุณพ่อคุณแม่เอง มีอาการเลือดกำเดาไหล ที่มีลักษณะเข้ากับอาการต่าง ๆ เหล่านี้ อย่าได้นิ่งนอนใจ และ ปล่อยทิ้งไว้นะคะ เพราะอาจมีสาเหตุจากโรคที่ร้ายแรงบางอย่างที่ควรปรึกษาแพทย์
- เลือดกำเดาไหลร่วมกับมีจุดเลือดออก แผลฟกช้ำ หรือจ้ำเขียว ที่บริเวณอื่น ๆ ของร่างกายด้วย
- มีเลือดออกที่อวัยวะอื่น เช่น เลือดออกที่เหงือก เลือดออกตามไรฟัน ร่วมด้วย
- เลือดกำเดาไหลอย่างหนัก และ รุนแรง หลังจากได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย
- มีภาวะซีด เนื่องจากเลือดออกเยอะผิดปกติ เช่น เหนื่อยง่าย เพลียง่าย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะบ่อย ๆ เจาะเลือดพบว่าค่าความเข้มข้นของเลือด ลดต่ำลง
- มีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง หรือ มีไข้เรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ มีก้อนต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
ซึ่งอาการผิดปกติเหล่านี้ อาจเป็นอาการร่วมของโรคที่ทำให้เกิดเลือดกำเดาไหล จากสาเหตุที่พบได้ไม่บ่อย ได้แก่ โรคพันธุกรรมที่มีเลือดออกง่ายผิดปกติ เช่น โรค von Willebrand หรือ โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิต้านทานตนเอง (ITP) โรคมะเร็งเม็ดเลือด ซึ่งต้องทำการตรวจเลือด เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม จึงจะทราบได้ หรือ โรคติดเชื้อที่มีผลต่อเส้นเลือดในโพรงจมูก เช่น วัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อย และ ก็ต้องทำการวินิจฉัยโดยการตรวจชิ้นเนื้อบริเวณโครงจมูก เพื่อหาเชื้อวัณโรค
ลูกเลือดกำเดาไหล-03
เลือดกำเดาไหลแบบใดที่ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินต้องรีบไปพบแพทย์ทันที?
หากมีเลือดกำเดาไหลร่วมกับภาวะต่าง ๆ ที่หมอได้กล่าวมาข้างต้น ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และ รีบรับการรักษา โดยบางครั้งอาจไม่ได้เร่งด่วน ถ้าอาการไม่รุนแรง แต่หากมีเลือดกำเดาไหลร่วมกับอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องรีบไปพบแพทย์ในทันที ถือเป็นภาวะฉุกเฉิน เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ อันได้แก่
- เลือดกำเดาไหล หลังเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกบริเวณศีรษะ และใบหน้า หรือตกจากที่สูง
- เลือดกำเดาไหลออกมาในปริมาณมากผิดปกติ และอาจมีเลือดไหลมาจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย จนผู้ป่วยรู้สึกเวียนศีรษะและอ่อนเพลีย
- เลือดกำเดาไหลนานกว่าปกติ เช่น ไหลนานกว่า 10 ถึง 20 นาที
ทั้งนี้หากมีเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ แม้จะไม่ได้มีปริมาณมาก แต่ผู้ป่วยมีอาการมานานหลายเดือนจนถึงหลายปี ก็อาจทำให้เกิดภาวะซีดจากการเสียเลือดเรื้อรัง (chronic blood loss) เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และเวียนศีรษะ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแก้ไข รวมทั้งตรวจเลือดรู้ว่ามีภาวะขาดธาตุเหล็กหรือไม่ เพื่อจะได้รับยาธาตุเหล็กมารักษาภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็กด้วยค่ะ
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกเลือดกำเดาไหลจนตาย เพราะแม่ปฐมพยาบาลไม่เป็น อุทาหรณ์คนเป็นพ่อเป็นแม่!!
เลือดกําเดาไหล ทําไงให้หาย วิธีปฐมพยาบาลเลือดกําเดาไหล หยุดเลือดกำเดาไหล ให้เลือดหยุดไหลได้เร็ว
ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย อย่าปล่อยผ่าน เช็คสัญญาณก่อนเป็นโรคร้าย
ที่มา : metta.go.th
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!