มีผลการสำรวจนักเรียนในชั้นประถมและมัธยมประมาณ 3,000 คนทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2549* พบว่า เด็กผู้ชายจะถูกรังแกมากกว่าเด็กผู้หญิง เมื่อ ลูกชายถูกรังแก พ่อแม่จะแก้และรับมืออย่างไร
รูปแบบที่เด็กผู้ชายมักถูกรังแก มักจะเกิดจาก
- การว่าร้ายด้วยคำพูด ทั้งการพูดแซว การล้อชื่อ การเยาะเย้ย หรือการข่มขู่
- การทะเลาะชกต่อย การขัดขา การผลัก หรือการแย่ง ทำลายข้าวของของคนอื่น
- การสร้างความอับอายให้ในที่สาธารณะ
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ถูกรังแกจะไม่กล้าเล่าให้พ่อแม่หรือครูฟัง กลัวจะถูกมองว่าเป็นเด็กขี้ฟ้อง และไม่อยากที่จะไปโรงเรียน
9 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกชายถูกรังแก
- กลับมาบ้านพร้อมกับแผลฟกช้ำหรือบาดเจ็บทางร่างกาย และไม่ยอมบอกพ่อแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
- แกล้งป่วยหรือบ่นว่าปวดหัว หรือปวดท้องบ่อยๆ เพื่อที่จะเลี่ยงไม่ไปโรงเรียน
- หลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรือไม่อยากที่จะไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ
- ฝันร้ายหรือนอนหลับยาก
- รู้สึกซึมเศร้าและความนับถือในตัวเองลดลง
- ถอยห่างจากกิจกรรมที่เคยชอบ
- ไม่มีสมาธิกับการทำการบ้าน
- โกหกเพื่อปกปิดความลับ
- เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เช่น กินข้าวได้น้อยลง หรือไม่ยอมกินร่วมโต๊ะ
เมื่อลูกโดนชายรังแกมา พ่อแม่ควรสอนให้ลูกสู้หรือปกป้องลูกอย่างไร? อ่านหน้าถัดไปนะคะ >>
เมื่อลูกโดนกลั้นแกล้งถูกรังแกมา พ่อแม่ควรสอนให้ลูกสู้หรือปกป้องลูกอย่างไร?
#พุดคุยและรับฟัง
ใช้เวลาฟังลูกเล่าของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มากที่สุดและให้ความมั่นใจกับลูก แสดงความเห็นอกเห็นใจ และบอกลูกว่าการกลั่นแกล้งกันยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี
#หาสาเหตุ
โดยอาจจะสอบถามถึงความสัมพันธ์ของลูกกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนหรือพูดคุยกับครูประจำชั้นเพื่อช่วยสอดส่องดูแลและหาทางแก้ไข
#สอนให้ลูกอย่าใช้กำลังในการโต้ตอบหรือแก้ไขปัญหา
เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกและสอนถึงวิธีการตอบโต้โดยที่รู้จักระงับอารมณ์ เดินหนี และออกไปอยู่ห่าง ๆหรือมองหาผู้ใหญ่ที่น่าไว้ใจ หลายครั้งที่การกลั่นแกล้งนั้นถูกแก้ไขได้เมื่อเด็ก ๆ ลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเอง
#ส่งเสริมกิจกรรมที่ลูกชอบ
มองหากิจกรรมที่ลูกถนัดหรือมีความสามารถเป็นพิเศษ ส่งเสริมเพื่อสร้างให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น สอนให้ลูกของคุณอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ไว้ใจได้ เด็กที่มั่นใจในตัวเองจะมีท่าทางที่ทำให้เด็กคนอื่นไม่กล้ารังแก
หลังจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะซึมเศร้า หรือความนับถือในตัวเองที่ลดลง และถึงแม้ว่าลูกชายจะยังไม่เคยถูกรังแก การได้สอนให้ลูกมีความกล้าและช่วยเหลือคนอื่นดีกว่ายืนอยู่เฉยโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เพราะเหมือนกับว่าเรากำลังกลั่นแกล้งคน ๆ นั้นด้วยเช่นกันนะคะ
*อ้างอิงข้อมูลจากโครงการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองสุขภาพและสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว
credit content : www.thejoysofboys.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
พ่อแม่ไม่ควรพลาด 5 คำถามง่ายๆ เพื่อทำให้รู้จักรู้ใจลูกมากขึ้น
เผย 6 เคล็ดลับจากมหาลัยดังสู่การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีมีที่ยืนในสังคม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!