คุณแม่กังวลใจ ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย
ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย เป็นอาการที่มีเลือดออกทางจมูก เกิดจากเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูก โดยอาจจะไหลออกข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
สาเหตุที่ทำให้ลูกเลือดกำเดาไหล
ลูกเลือดกำเดาไหล เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก มักจะเกิดในช่วงฤดุหนาวหรือช่วงอากาศแห้ง แต่ส่วนมากมักจะมีอาการเลือดออกที่ไม่รุนแรง และเลือดมักจะหยุดเองได้ภายใน 10-15 นาที ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก
- เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก เนื่องจากอากาศแห้ง โดยเฉพาะวันที่ร้อนจัด หรือหนาวจัด
- ร่างกายขาดวิตามินซี
- เกิดจากการกระทบกระเทือน หรืออุบัติเหตุ
- ความผิดปกติของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่พบว่าลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะการที่ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย ก็อาจเป็นอาการของโรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย
อาการแบบไหน ต้องรีบไปพบแพทย์
รศ. พญ. ดารินทร์ ซอโสตถิกุล ฝ่ายเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ปกครองควรทราบในกรณีที่ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อยว่า หากลูกมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ให้รีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์
- เลือดกำเดาไหลนาน ร่วมกับที่ผิวหนังมีรอยเลือดออก เช่น มีจ้ำเขียว มีจุดแดง หรือจุดเลือดออกตามตัวร่วมด้วย
- มีเลือดออกตามไรฟัน หรือลิ้นร่วมด้วย
- มีปัสสาวะสีน้ำล้างเนื้อ หรืออุจจาระสีดำคล้ายยางมะตอย หรืออุจจาระของลูกมีเลือดปนมาด้วย
- ลูกมีไข้สูง
- ลูกมีอาการอาการเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง หรือผิวหนังมีสีซีดลง
การที่ลููกเลือกกำเดาไหลบ่อย อาจเป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งโรคที่อาจเกิดขึ้นหากลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย ได้แก่
- โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งทำให้เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ เช่น โรควอนวิลล์แบรนด์ (von Willebrand disease – VWD) ซึ่งอาจมีประวัติเลือดออกง่ายหยุดยากในครอบครัวร่วมด้วย
- โรคที่เกิดขึ้นภายหลัง ทำให้เกล็ดเลือดมีปริมาณต่ำลง เช่น โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิต้านทานตนเอง (immune thrombocytopenia – ITP) ซึ่งเป็นภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่พบบ่อยในเด็ก, โรคไขกระดูกฝ่อทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดทุกชนิดได้อย่างพอเพียง ทำให้มีโลหิตจาง ติดเชื้อง่ายเนื่องจากมีเม็ดเล็ดขาวต่ำลง และเกล็ดเลือดต่ำทำให้เลือดออกง่าย หรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่มีเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวแทรกซึมอยู่ในไขกระดูก ทำให้สร้างเม็ดเลือดที่ปกติได้ลดลง
นอกจากนี้ หากลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย และเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เด็กเกิดภาวะซีด จากการสูญเสียเลือดเรื้อรัง จนเกิดภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกอยู่เสมอ หากเด็กมีอาการเวียนศีรษะ เป็นลมง่าย เหนื่อยง่าย หรือมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์โดยเร็ว
ไม่อยากให้ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย ทำอย่างไรดี
วิธีป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเลือดกำเดาไหลง่ายนั้น เบื้องต้นมีวิธีการดังนี้
- พยายามไม่ให้จมูกของลูกแห้ง โดยอาจจะใช้น้ำเกลือหยอดจมูก หรือทาวาสลินเคลือบในรูจมูกก่อนนอน
- ปรับอุณภูมิในห้องนอนของลูก ไม่ให้อากาศแห้งเกินไป
- ให้ลูกกินผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยให้หลอดเลือดฝอยในจมูกแข็งแรง
ลูกเลือดกำเดาไหล ปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไร
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากลูกน้อยมีเลือดกำเดาไหล คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ดังนี้
- ให้เด็กนั่งตัวเอียงไปด้านหน้า ก้มศีรษะลงเล็กน้อย เพื่อให้เลือดไหลออกทางจมูกแทนที่จะไหลลงคอ ซึ่งอาจทำให้เด็กอาเจียนออกมาเป็นเลือดจากที่กลืนเข้าไป
- ใช้มือบีบบริเวณปีกจมูกข้างที่มีเลือดกำเดาไหลเบา ๆ ประมาณ 10 นาที และหากเลือดยังไม่หยุดไหลนานเกิน 30 นาที ให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์
ที่มา สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง
16 วิธีพัฒนา EF ช่วยให้ลูกเก่ง ฉลาด เสริมสร้างทักษะการคิด
ล้างมือก่อนจับลูก คำเตือนจากพ่อผู้เกือบสูญเสียลูกสาว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!