เป็นเรื่องราวดราม่าร้อนแรง หลังจากตลกชื่อดังในอดีต “อ่าง เถิดเทิง” เปิดบัญชีขอรับบริจาค อ้างว่าตนไม่เหลือทรัพย์สินพอในการดำเนินชีวิต แม้แต่มาม่าก็ยังไม่สามารถหาซื้อกินได้ จนกระทั่งภรรยาเก่าทนพฤติกรรมการเปิดขอรับบริจาคไม่ไหว จึงได้ออกมาแฉพฤติกรรม ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ถึงทำให้ชีวิตตกอับเช่นทุกวันนี้
นักแสดงตลกชื่อดัง “อ่าง เถิดเทิง” เปิดบัญชีขอรับบริจาค เนื่องจากภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพหารายได้เหมือนเช่นปกติ อีกทั้งด้วยสภาพร่างกายที่ป่วยเป็นโรคโปลิโอที่ขาแล้ว ทำให้ตนเองนั้นไม่สามารถเลือกอาชีพที่ทำได้อย่างอิสระ
อ่าง เถิดเทิง ออกมาวิงวอนขอรับบริจาค
โดยก่อนหน้านี้ทางนักแสดงตลกที่เป็นข่าวยังมีการแสดงตลกมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งช่วงไวรัสโควิดระบาดในรอบแรก ทำให้งานต่าง ๆ ถูกยกเลิก จึงผันตัวมาขายน้ำส้ม แต่แล้วด้วยสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ต้นทุนที่มีอยู่ทยอยหมดไป จนกล่าวได้ว่าหมดตัวแล้วก็ว่าได้
จึงได้ตัดสินใจอยากที่จะหวังพึ่งผู้ที่มีจิตเมตตา พอจะช่วยสนับสนุนเงินบางส่วน เพื่อนำมาเป็นต้นทุนในการดำรงชีพต่อไป เป็นเหตุให้ตัดสินใจที่จะเปิดบัญชีขอรับบริจาคเงิน จากผู้ใจดีที่ต้องการช่วยเหลือตนเองในยามทุกข์ยากแบบนี้ ซึ่งตนเองก็ได้กล่าวถึงสภาพความเป็นอยู่ทุกวันนี้ว่า แม้แต่มาม่าสักห่อ ก็ยังไม่มีให้กินเลย
แต่เมื่อเรื่องราวการขอรับบริจาคได้แพร่กระจายออกไป ทั้งชาวเน็ต และนักข่าว หลาย ๆ สำนัก โดยเฉพาะทางสำนักข่าว “อมรินทร์” ได้ตรวจสอบถึงเรื่องราวดังกล่าวว่ามีความจริงเท็จแค่ไหน เพราะเนื่องจากปัจจุบัน มีดราม่ามากมาย โผล่มาไม่เว้นแต่ละวัน
จนกระทั่งนักข่าวอมรินทร์ได้ไปสัมภาษณ์ภรรยาเก่าของคุณอ่าง เถิดเทิง ถึงเรื่องราวที่คุณอ่างได้เคยกล่าวอ้างว่า สมบัติของคุณอ่างนั้นได้ยกให้กับภรรยาเก่าไปหมดแล้ว ทำให้ตัวเองนั้นไม่เหลืออะไร แล้วต้องมาสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ กับภรรยาคนปัจจุบัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : รพ.สนามแตก ! ผู้ป่วยโควิดชาวพม่า กว่า 1 พันคน แห่ออกมาประท้วงเพราะไฟดับ
อดีตภรรยา ออกมาโต้
แต่เรื่องราวก็ต้องพลิกกลับเมื่อ “ปุ๋ม พจมาน” ภรรยาเก่าของคุณ “อ่าง เถิดเทิง” ได้ออกมาโต้แย้งถึงเรื่องราวดังกล่าว และยอมรับว่า ได้คบกับอ่างมา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2545 – 2552 ขณะนั้น อ่าง มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ได้ค่าตัวถึงวันละ 3 หมื่นบาท และอ่างเป็นคนฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักเก็บเงิน ทำให้ตนไม่มีทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในขณะที่คบกับอ่างเลย
คุณปุ๋ม ได้เปิดเผยสาเหตุของการแยกทางกับทางฝ่ายชายว่า ด้วยความที่เขาโด่งดัง มีชื่อเสียง เขามีรายได้เยอะมาก เขามักจะเที่ยวผู้หญิง และติดการพนัน เตือนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง จึงได้ขอแยกทาง ซึ่งเวลานั้น อ่างไม่ได้ให้เงินแม้แต่บาทเดียว และในความเป็นจริงนั้น เขาหมดตัวก่อนที่ปุ๋มจะเลิกกับเขาอีก
คุณปุ๋มยังกล่าวต่อว่า “เวลาอ่างได้เงินมา ก็ไม่เคยให้ตนแม้แต่บาทเดียว เวลาที่อ่างไปงานอีเวนต์ ตัวเองก็รู้มาตลอดว่าอ่างมักจะไปกับพริตตี้ อ่างเป็นคนเจ้าชู้มาก ซึ่งอยากให้อ่างออกมาบอกความจริงกับสังคม ก่อนที่จะมาขอรับบริจาคอย่างทุกวันนี้ เพราะที่ผ่านมาก็เล่นเยอะ เที่ยวเยอะ”
“ส่วนเรื่องรถยนต์ที่อ่างอ้างว่าตนเอาไปตอนเลิกกัน เป็นรถเก่ามาก และเป็นทรัพย์สินเดียวที่มีด้วยกัน แต่ตอนนี้ได้ขายทิ้งไปแล้ว และได้เงินจากการขายไม่กี่หมื่นบาท”
“ยอมรับว่าน้อยใจมาก ทำไมให้สัมภาษณ์ว่าตนเอาเงินไป และถูกใส่ร้ายแบบนี้มา 3 ครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็อยากออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่อย่างนั้น คนอื่นก็จะมองว่าตนเองกวาดสมบัติผัวไปหมด”
ในขณะที่ลูกอ่าง ได้เปิดใจถึงพ่อของตนว่า “น้อยใจพ่อมาก ไม่ได้เจอพ่อเลย ได้เจอครั้งสุดท้ายตอนอยู่ ป.4 เวลาโทรไปหาพ่อ เมียใหม่พ่อก็รับ ไม่เคยได้ยินเสียงพ่อเลย อยากฝากถามพ่อว่า ทำไมพ่อถึงพูดแบบนี้ แต่ยังไงหนูก็ยังรักพ่ออยู่นะ”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ดราม่ารายการ ปัญญาปัญสุข นำเสนอผู้ป่วยโรคคนชราในเด็ก ทำชาวเน็ตรู้สึกแย่
อ่าง เถิดเทิงกลับมาตอบโต้ พร้อมลั่นปิดรับบริจาค
อ่าง เถิดเทิง พร้อมภรรยาใหม่ ออกมาเปิดใจอีกครั้ง พร้อมประกาศยุติการรับบริจาค
หลังจากนั้น อ่างได้โต้ตอบกลับทันทีว่า “ตนนั้นจนจริง ไม่ใช่จนทิพย์ ในสมัยก่อนรายได้เดือนละ 3 แสนก็จริง แต่ตนได้ให้เมียเก่าเป็นคนจัดการเรื่องเงินให้ เพราะตนนั้นไม่รู้หนังสือ เรื่องการพนัน ยอมรับว่าเล่นจริง แต่เล่นแค่นิดเดียว ส่วนมากจะมีคนให้ไปยืนข้าง ๆ เพราะคิดว่าตนเองเป็นคนนำโชค ก็จะได้เงิน 2 พันบาทเป็นค่าตอบแทน เรื่องแอลกอฮอล์ไม่ยุ่ง เพราะสุขภาพตนเองนั้นไม่ดีอยู่แล้ว”
ล่าสุด คุณดา ภรรยาคนปัจจุบันของ อ่าง เถิดเทิง ได้ออกมาประกาศ ขอยุติการขอรับบริจาค เพราะเข้าใจว่า ทุกคนแย่กันหมด ไม่ได้อยากให้มองว่าเราอยากจะไปเอาเงินเขามาใช้ แค่อาจจะมีคนเมตตาให้ทุนเราไปหาน้ำส้มมาขาย ให้เราได้ทำงาน มีช่องทางหารายได้เหมือนเมื่อก่อนมากกว่า เพราะรับบริจาคเงินเข้ามาแบบนี้เราก็ไม่สบายใจ”
“ส่วนตนเอง และสามี จะยังคงสู้ต่อไป เราลำบากมาด้วยกัน จะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ หากมีคนที่เมตตาหยิบยื่นน้ำใจ ก็ยินดีรับ และขอบคุณ แต่ไม่ได้ต้องการเปิดรับบริจาคเพื่อให้ได้เงินมากมาย ตลอดชีวิตที่ใช้ร่วมกับสามีมา ลำบากด้วยกันมามาก เคยถึงขั้นมีไข่ 1 ฟองแล้วต้องแบ่งกันกินก็มี”
ทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมด ไม่มีใครที่รู้ดีไปกว่าใคร นอกจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องจะบริจาคให้กับทางคุณอ่างหรือไม่นั่น ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ต้องใช้วิจารณญาณเป็นสำคัญ เพราะหลายครั้งที่มักจะมีดราม่าออกมาให้เราได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้งตามสื่อโซเชียล “ตั้งสติก่อนเขี่ยโอน” นะคะทุกคน
ที่มา : amarintv
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรคโปลิโอ มีอาการอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร?
อุทาหรณ์ แม่เผลอนอนทับลูก อายุเพียง 25 วัน ดับสลด
คลิปตัดแขน ตัดขาเด็กบราซิล เผยแพร่สู่ออนไลน์แล้ว ฆ่าคนแบบป่าเถื่อน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!