X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

8 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ หากทะเลาะกันต่อหน้าลูก

บทความ 3 นาที
8 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ หากทะเลาะกันต่อหน้าลูก

ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่อยากจะทะเลาะกันต่อหน้าลูก รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรรู้

รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรทะเลาะกันต่อหน้าลูก เข้าใจในหลักของทฤษฎีนะ แต่พอถึงสถานการณ์จริง มันเป็นไปได้ยาก แล้วแบบนี้จะให้พ่อแม่อย่างเรา ๆ ทำอย่างไรกันดี

ทะเลาะกันต่อหน้าลูก, พ่อแม่ทะเลาะกัน, ทะเลาะ

1. พุ่งประเด็นไปที่ปัญหาเป็นหลัก

เวลาที่คุณทะเลาะกัน พยายามอย่าที่จะตะโกน ขึ้นเสียง หรือข่มขู่ใส่กันต่อหน้าลูก คุณควรที่จะมุ่งไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นเป็นหลัก อย่าไปรื้อฟื้นเรื่องที่เก่า ๆ มาเป็นปัญหาอีกถ้าหากสามารถทำได้ เพราะการส่งเสียงดังอาจจะทำให้ลูกของเราคิดได้ว่าพ่อแม่ของเขานั้นไม่รักกันแล้ว

2. หลีกเลี่ยงเรื่องของผู้ใหญ่

เรื่องของผู้ใหญ่ในที่นี่หมายถึง เรื่องที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ ชู้สาว การพนัน การดื่มของมึนเมามากเกินไป หรือว่าบุคคลที่สามที่เป็นบุคคลในครอบครัวของฝ่ายให้ฝ่ายหนึ่งให้ลูกได้ยินเช่น ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นต้น เพราะเด็ก ๆ ยังมีวุฒิภาวะไม่มากพอที่จะเข้าใจหรือรับฟังปัญหานี้ ถ้าอยากที่จะพูดคุยกันถึงปัญหาเรื่องนี้จริง ๆ แล้วละก็ ควรที่จะไปคุยกันในที่ส่วนตัวสองคนมากกว่าค่ะ

3. เรื่องการตัดสินใจของลูก

ในบางครั้งการตัดสินใจของลูก อาจจะเป็นที่ไม่พอใจของพ่อหรือแม่ โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจเห็นด้วยและพร้อมที่จะเคารพการตัดสินใจของลูก แต่อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่เห็นด้วย ทั้ง ๆ ที่บางครั้งเหตุผลของการไม่เห็นด้วยนั้นจะเป็นเหตุผลที่ถูกต้องและสมควรก็ตาม  แต่การที่พ่อแม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้ต่อหน้าลูกนั้น อาจจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยได้นะคะ ยกตัวอย่างเช่น ที่พ่อหรือแม่ไม่เห็นด้วยนั้นต้องเป็นเพราะไม่รักและไม่เข้าใจเขาแน่ ๆ

4. รีบแก้ปัญหาก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย

ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน อย่าลืมที่จะเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย แรกเริ่มลูกรับรู้แล้วถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ณ จุดนั้นความสดใสร่าเริงของลูกอาจจะเริ่มลดลง และถ้าหากปัญหาดังกล่าวนั้นยังไม่สิ้นสุด ลูกยังคงเห็นว่า พ่อกับแม่ยังไม่คุยกันทั้งยังมีท่าทีไม่พอใจใส่กันด้วยแล้วนั้น กิริยาเหล่านี้แหละค่ะที่จะยิ่งทำให้ลูกของเรารู้สึกแย่และกลายเป็นเด็กเก็บตัวมากขึ้น

5. ให้แน่ใจว่าลูกรับรู้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นแก้ไขแล้ว

พ่อแม่บางคนอาจจะคิดว่า ทำไมฉันจะต้องบอกลูกด้วยละ ว่าทุกอย่างระหว่างพ่อกับแม่เคลียร์กันได้แล้ว อย่าลืมนะคะว่า คุณทั้งสองคนทะเลาะและมีปากมีเสียงต่อหน้าพวกเขา จริงอยู่ที่ลูกเล็ก ๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อลูกโตขึ้นมาในระดับหนึ่ง แน่นอนว่าในใจลึก ๆ ของพวกเขานั้น ต้องรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่เข้าไม่ชอบใจเท่าไรนักเกิดขึ้น ไม่มีเด็กคนไหนหรอกค่ะที่อยากเห็นพ่อแม่ไม่รักกัน ดังนั้นหากปัญหาของคุณแก้ไขหรือตกลงกันได้แล้วนั้น คุณก็ควรที่จะบอกลูก ๆ ด้วยนะคะว่า พ่อกับแม่เข้าใจกันแล้วนะลูก เราสองคนรักกันเหมือนเดิม และที่สำคัญพวกเรารักลูกมากนะจ้ะ

อ่านคำแนะนำข้อต่อไป คลิกหน้าถัดไปค่ะ

ทะเลาะกันต่อหน้าลูก, พ่อแม่ทะเลาะกัน, ทะเลาะ

6. พูดคุยกับลูก

หลังจากที่คุณทะเลาะกันต่อหน้าลูกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำก็คือ เข้าไปพูดคุยกับเขาค่ะ ไม่จำเป็นที่คุณจะเข้าไปคุยพร้อมกันสองคน เพราะมันจะดูเป็นทางการจนเกินไป ผลัดกันเข้าไปคุยกับเขา โดยอาจจะเริ่มประโยคที่ว่า “พ่อ/แม่ ขอโทษนะลูก ที่ต้องให้หนูมาเห็นเหตุการณ์ที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันเมื่อสักครู่นี้ ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะไม่รักหนูนะจ้ะ พ่อกับแม่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย แต่เดี๋ยวทุกอย่างก็จะเคลียร์และดีขึ้นได้เอง หนูไม่ต้องห่วงนะ” การพูดในลักษณะนี้กับลูก จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองนั้นยังสำคัญอยู่ และเขาก็ไม่ได้สูญเสียใครคนใดคนหนึ่งไป

7. อย่าบังคับให้ลูกต้องเป็นฝ่ายเลือก

ไม่ใช่แค่เฉพาะแต่การหลีกเลียงที่จะทะเลาะกันต่อหน้าลูกเท่านั้นนะคะ อีกสิ่งที่พวกเราทุกคนไม่ควรทำก็คือ บังคับให้ลูกเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การบังคับให้ลูกตัดสินใจเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำมาก ๆ ค่ะ เพราะการที่ลูกต้องเลือกทั้ง ๆ ที่่ใจไม่อยากทำนั้น จะไปส่งผลถึงจิตใจของลูกซึ่งอาจจะทำให้พวกเขารู้สึกลำบากใจ และรู้สึกผิดกับอีกฝ่ายที่พวกเขาไม่ได้เลือกได้

8. หากิจกรรมอะไรให้ลูกทำ

แน่นอนว่า เด็ก ๆ ย่อมรู้สึกเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาไม่รู้ว่าควรที่จะกำจัดความรู้สึกเหล่านั้นได้อย่างไร สิ่งนี้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่แล้วละค่ะ ที่จะต้องเป็นฝ่ายช่วยพวกเขา ดังนั้นหลังจากที่ทะเลาะกันแล้ว ไม่ว่าปัญหาจะจบสิ้นแล้วหรือยัง สิ่งที่พวกเราควรทำก็คือ หากิจกรรมอะไรให้ลูกทำ เพื่อให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและไม่หมกมุ่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากจนเกินไป โดยคุณอาจจะพาลูกไปดูหนัง ทานข้าว เล่นเกมส์ ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ที่มั่นใจว่าลูกจะสามารถลดความเครียดดังกล่าวได้

จะเห็นแล้วว่า การทะเลาะกันต่อหน้าลูกนั้นเปรียบเสมือดาบสองคม คมแรกก็ส่งผลดีให้กับพวกเขาได้เข้มแข็งพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะลูก ๆ รู้แล้วว่า ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะช้าหรือว่าเร็ว และปัญหาก็ไม่ใช่จุดจบของทุกสิ่ง แต่คมดาบสุดท้ายที่อันตรายที่สุดก็คือ ลูก ๆ ของเราอาจจะกลายเป็นเด็กเก็บความรู้สึก ไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนปกติ และอาจจะแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวต่อคนในครอบครัว คนรอบข้าง รวมถึงคุณครูและเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน หรือแย่ที่สุดคือ ลูก ๆ หันไปคบเพื่อนที่ไม่ดี หรืออาจจะหันไปพึ่งยาเสพติดเพื่อเป็นที่พักทางใจก็เป็นได้

ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่พ่อแม่ควรคำนึงถึงหลังจากที่ทะเลาะกันแล้วก็คือ ความรู้สึกของลูก นั่นเอง

ที่มา: WomansDay

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

10 สาเหตุยอดฮิตทำให้สามีภรรยาทะเลาะกัน

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ชอบ “เถียงกัน” เรื่องอะไร

บทความจากพันธมิตร
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
เคล็ดลับเนรมิตห้องครัวให้เรียบหรู ทันสมัย และถูกใจคนใช้งานจริง
เคล็ดลับเนรมิตห้องครัวให้เรียบหรู ทันสมัย และถูกใจคนใช้งานจริง
ชี้เป้า ประกันสุขภาพลูก ลดภาระทางการเงินเมื่อลูกเจ็บป่วย ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
ชี้เป้า ประกันสุขภาพลูก ลดภาระทางการเงินเมื่อลูกเจ็บป่วย ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
ประกันสำหรับเด็ก เลือกแบบไหนดี มีไว้อุ่นใจ คุ้มครองครบ มีทุนสำรองเพื่ออนาคตของลูกรัก
ประกันสำหรับเด็ก เลือกแบบไหนดี มีไว้อุ่นใจ คุ้มครองครบ มีทุนสำรองเพื่ออนาคตของลูกรัก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Muninth

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 8 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ หากทะเลาะกันต่อหน้าลูก
แชร์ :
  • พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก ทำยังไงดีเมื่อห้ามตัวเองไม่ได้

    พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก ทำยังไงดีเมื่อห้ามตัวเองไม่ได้

  • พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต

    พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต

  • สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

    สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก ทำยังไงดีเมื่อห้ามตัวเองไม่ได้

    พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก ทำยังไงดีเมื่อห้ามตัวเองไม่ได้

  • พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต

    พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต

  • สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

    สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ