TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

7 ปัจจัยที่สำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาของทารก

บทความ 3 นาที
7 ปัจจัยที่สำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาของทารก

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนอยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาที่ดี แต่ทำอย่างไรจึงจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านภาษาของลูกได้ ก่อนอื่นต้องทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กทั้ง 7 ข้อนี้ก่อนค่ะ

7 ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก

  1. สุขภาพร่างกายทั่วไป

สุขภาพร่างกายและพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวมีอิทธิพลต่อการพัฒนาด้านภาษาของเด็ก การเจ็บป่วยรุนแรง และสุขภาพที่ไม่แข็งแรง เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการด้านการพูดของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองปีแรกของชีวิต เนื่องจากเมื่อเจ็บป่วย เด็กจะถูกแยกจากคนอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถเรียนรู้ที่จะพูดได้ นอกจากนี้ยังทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง และจากการที่ป่วยบ่อยทำให้ไม่เกิดความกระตือรือร้นที่จะพูด หรือสื่อสารกับคนอื่น รวมทั้งเด็กที่มีปัญหาทางการได้ยิน ก็จะทำให้มีพัฒนาการด้านการพูดที่ช้าไปด้วย

เด็กที่สุขภาพอ่อนแอจะมีพัฒนาการช้าในทุกๆ ด้าน ต่างจากเด็กที่สุขภาพแข็งแรง จะมีความสุข มีชีวิตชีวา มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ดังนั้น หากอยากให้ลูกมีพัฒนาการทางภาษาที่ดี ต้องเริ่มจากการส่งเสริมให้ลูกมีสุขภาพที่ดีก่อนค่ะ

  1. พัฒนาการด้านสติปัญญา

ภาษาและการพัฒนาด้านสติปัญญามีความสัมพันธ์กันอย่างมาก ดังคำกล่าวที่ว่า “คำพูดของเด็กเป็นตัวบ่งชี้เดียวที่ดีที่สุดที่บอกถึงไอคิวของเด็กคนนั้น” เด็กที่พูดเร็วจะมีไอคิวสูงกว่าปกติ ในทางตรงกันข้าม หากลูกพูดช้า ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ฉลาด  เพราะความล่าช้านี้อาจจะเกิดจากการเจ็บป่วยหรือ ปัจจัยอื่น ๆ ได้เช่นกัน

ด้วยไอคิวที่ต่างกันนี้ ทำให้ความสามารถในการเข้าใจความหมายของคำแตกต่างกัน เด็กที่พูดเร็วจะสามารถเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่สื่อสารกับเขาได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถจดจำสิ่งของ ผู้คน และสามารถพูดทวนคำพูดของพ่อแม่เป็นประโยคง่ายๆ ได้อย่างถูกต้องเร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ

นอกจากนี้ การที่เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์มากขึ้นก็จะเกิดการพัฒนาทางสติปัญญา จากการศึกษาพบว่าเด็กที่มีสติปัญญาดีจะเรียนรู้คำศัพท์และการสร้างประโยคได้ดีกว่า ทั้งยังสามารถใช้คำในการสร้างประโยคยาวๆ ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

สิ่งสำคัญในการกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาของลูก คือ การเสริมแรงด้วยการกอด หอม และชื่นชมลูก เมื่อเขาแสดงถึงพัฒนาการด้านภาษาที่ดี

  1. การเรียนรู้และการเจริญเติบโต

พัฒนาการด้านภาษาของเด็กขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และการเจริญเติบโต ถึงแม้ว่าจะฝึกให้เด็กทารกพูดตั้งแต่อายุได้ 3-4 เดือน เขาก็ยังไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ เด็กส่วนใหญ่จึงเริ่มพูดได้ในช่วงอายุ 18-28 เดือน ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อการพูดมีการพัฒนามากพอที่จะเริ่มพูด

นอกจากนี้ เมื่อเด็กมีการเจริญเติบโตที่เหมาะสมแล้ว เขาต้องได้รับการสอน การจูงใจ การเสริมแรงให้อยากจะพูดด้วย เพราะไม่มีใครสามารถเรียนรู้ที่จะสื่อสารได้หากเขาถูกทิ้งไว้ตามลำพัง ดังนั้นการเจริญเติบโตและการเรียนรู้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มาควบคู่กันในการพัฒนาด้านภาษาของเด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

  1. สภาพแวดล้อม

งานวิจัยเปิดเผยว่า เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเหมาะสมและได้รับการกระตุ้นให้พูดจะมีพัฒนาการด้านการพูดที่เร็ว โดยนักวิจัยได้ทำการสังเกตเด็กกำพร้า พบว่า เด็กที่ได้รับการอุปถัมภ์จะมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีกว่าเด็กกำพร้าที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือเด็กกำพร้าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้รับการกระตุ้นให้พูด

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ดูแลในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามักจะพูดน้อยและไม่ค่อยกระตุ้นให้เด็กพูดหรือสื่อสาร สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ ทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาและสติปัญญาล่าช้า

อีกหนึ่งตัวอย่างที่เชื่อมโยงให้เห็นว่า สภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการด้านภาษา คือการศึกษาของ เออร์วินศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยไอโอวาสหรัฐอเมริกา ได้พบว่า เมื่อเพิ่มการกระตุ้นในเด็กที่มีภูมิหลังมาจากชนชั้นล่าง ทำให้เด็กมีความสนใจด้านภาษามากขึ้น ก็สามารถทำให้เด็กมีการพัฒนาด้านการพูดที่ดีขึ้นได้

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ไม่ว่าเด็กจะมีภูมิหลังอย่างไร หากได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีการกระตุ้นก้านการพูด มีโอกาสพูดคุยกับผู้ใหญ่มากขึ้น จะสามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็กให้ดีขึ้นได้

  1. เพศ

ในช่วงขวบปีแรก เราอาจจะยังไม่เห็นความแตกต่างของพัฒนาการด้านภาษาในเด็กชายและเด็กหญิง แต่เมื่อเข้าขวบปีที่สอง พบว่า เด็กหญิงมีพัฒนาการด้านการพูดดีกว่าเด็กผู้ชาย โดยเด็กหญิงจะเรียนรู้เสียงพูด และพูดคุยได้คล่องแคล่วกว่าเด็กชาย

ความแตกต่างนี้จะเด่นชัดมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงความแตกต่างในเรื่องของ สถานะทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของแม่และลูกสาว อาจจะทำให้ลูกสาวมีการพัฒนาที่ดีกว่าลูกชาย นอกจากนี้ยังพบว่า ความถูกต้องทางไวยากรณ์และการออกเสียงในเด็กชายมีความแม่นยำน้อยกว่าเด็กหญิงอีกด้วย

บทความแนะนำ ทำความเข้าใจ พัฒนาการ ลูกสาว vs ลูกชาย ต่างกันอย่างไร

  1. ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว

ความสัมพันธ์ของเด็กกับสมาชิกในครอบครัวมีผลอย่างยิ่งกับพัฒนาการด้านการพูดของเด็ก เด็กที่ได้รับความรักและการปกป้องมากเกินไป จะถูกปิดกั้นทางภาษา ทำให้เด็กพูดช้า ในทางตรงกันข้าม เด็กที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่ ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม จะเกิดความเครียด ความวิตกกังวล และเกิดปัญหาทางด้านอารมณ์ตามมา

ดังนั้น คุณแม่ควรมีความยืดหยุ่น ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนเกินไป จึงจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้ลูกพูดเก่งขึ้นได้

  1. จำนวนสมาชิกในครอบครัว

จำนวนสมาชิกในครอบครัวมีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เพราะ เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก เด็กจะมีโอกาสที่จะพูดคุยกับผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก

 

ทั้ง 7 ปัจจัยนี้มีผลต่อพัฒนการด้านภาษาของเด็กอย่างไร คุณแม่ได้ทราบแล้วนะคะ อยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาที่ดี ครอบครัวมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นพัฒนาการให้กับลูกน้อยค่ะ

ที่มา www.psychologydiscussion.net

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

baby signs กระตุ้นพัฒนาการด้านการสื่อสารของทารก

7 กิจกรรมกระตุ้นทักษะด้านภาษาสำหรับลูกน้อย

8.TAP_th-ios-Footer670x196

บทความจากพันธมิตร
ที่สุดของความนุ่ม แห้งสบาย! DODOLOVE Premium Air Pro Ultra Dry คว้า Best Baby Diapers 2025
ที่สุดของความนุ่ม แห้งสบาย! DODOLOVE Premium Air Pro Ultra Dry คว้า Best Baby Diapers 2025
Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
BabyLove Talking Pants ผ้าอ้อมที่ "พูด" ได้! คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี theAsianparent Awards 2025
BabyLove Talking Pants ผ้าอ้อมที่ "พูด" ได้! คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี theAsianparent Awards 2025
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 7 ปัจจัยที่สำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาของทารก
แชร์ :
  • ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

    ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

    วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

  • ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

    ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

    วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว