X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

7 ปัจจัยที่สำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาของทารก

บทความ 3 นาที
7 ปัจจัยที่สำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาของทารก

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนอยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาที่ดี แต่ทำอย่างไรจึงจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านภาษาของลูกได้ ก่อนอื่นต้องทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กทั้ง 7 ข้อนี้ก่อนค่ะ

7 ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก

  1. สุขภาพร่างกายทั่วไป

สุขภาพร่างกายและพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวมีอิทธิพลต่อการพัฒนาด้านภาษาของเด็ก การเจ็บป่วยรุนแรง และสุขภาพที่ไม่แข็งแรง เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการด้านการพูดของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองปีแรกของชีวิต เนื่องจากเมื่อเจ็บป่วย เด็กจะถูกแยกจากคนอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถเรียนรู้ที่จะพูดได้ นอกจากนี้ยังทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง และจากการที่ป่วยบ่อยทำให้ไม่เกิดความกระตือรือร้นที่จะพูด หรือสื่อสารกับคนอื่น รวมทั้งเด็กที่มีปัญหาทางการได้ยิน ก็จะทำให้มีพัฒนาการด้านการพูดที่ช้าไปด้วย

เด็กที่สุขภาพอ่อนแอจะมีพัฒนาการช้าในทุกๆ ด้าน ต่างจากเด็กที่สุขภาพแข็งแรง จะมีความสุข มีชีวิตชีวา มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ดังนั้น หากอยากให้ลูกมีพัฒนาการทางภาษาที่ดี ต้องเริ่มจากการส่งเสริมให้ลูกมีสุขภาพที่ดีก่อนค่ะ

  1. พัฒนาการด้านสติปัญญา

ภาษาและการพัฒนาด้านสติปัญญามีความสัมพันธ์กันอย่างมาก ดังคำกล่าวที่ว่า “คำพูดของเด็กเป็นตัวบ่งชี้เดียวที่ดีที่สุดที่บอกถึงไอคิวของเด็กคนนั้น” เด็กที่พูดเร็วจะมีไอคิวสูงกว่าปกติ ในทางตรงกันข้าม หากลูกพูดช้า ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ฉลาด  เพราะความล่าช้านี้อาจจะเกิดจากการเจ็บป่วยหรือ ปัจจัยอื่น ๆ ได้เช่นกัน

ด้วยไอคิวที่ต่างกันนี้ ทำให้ความสามารถในการเข้าใจความหมายของคำแตกต่างกัน เด็กที่พูดเร็วจะสามารถเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่สื่อสารกับเขาได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถจดจำสิ่งของ ผู้คน และสามารถพูดทวนคำพูดของพ่อแม่เป็นประโยคง่ายๆ ได้อย่างถูกต้องเร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ

นอกจากนี้ การที่เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์มากขึ้นก็จะเกิดการพัฒนาทางสติปัญญา จากการศึกษาพบว่าเด็กที่มีสติปัญญาดีจะเรียนรู้คำศัพท์และการสร้างประโยคได้ดีกว่า ทั้งยังสามารถใช้คำในการสร้างประโยคยาวๆ ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

สิ่งสำคัญในการกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาของลูก คือ การเสริมแรงด้วยการกอด หอม และชื่นชมลูก เมื่อเขาแสดงถึงพัฒนาการด้านภาษาที่ดี

  1. การเรียนรู้และการเจริญเติบโต

Advertisement

พัฒนาการด้านภาษาของเด็กขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และการเจริญเติบโต ถึงแม้ว่าจะฝึกให้เด็กทารกพูดตั้งแต่อายุได้ 3-4 เดือน เขาก็ยังไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ เด็กส่วนใหญ่จึงเริ่มพูดได้ในช่วงอายุ 18-28 เดือน ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อการพูดมีการพัฒนามากพอที่จะเริ่มพูด

นอกจากนี้ เมื่อเด็กมีการเจริญเติบโตที่เหมาะสมแล้ว เขาต้องได้รับการสอน การจูงใจ การเสริมแรงให้อยากจะพูดด้วย เพราะไม่มีใครสามารถเรียนรู้ที่จะสื่อสารได้หากเขาถูกทิ้งไว้ตามลำพัง ดังนั้นการเจริญเติบโตและการเรียนรู้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มาควบคู่กันในการพัฒนาด้านภาษาของเด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

  1. สภาพแวดล้อม

งานวิจัยเปิดเผยว่า เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเหมาะสมและได้รับการกระตุ้นให้พูดจะมีพัฒนาการด้านการพูดที่เร็ว โดยนักวิจัยได้ทำการสังเกตเด็กกำพร้า พบว่า เด็กที่ได้รับการอุปถัมภ์จะมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีกว่าเด็กกำพร้าที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือเด็กกำพร้าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้รับการกระตุ้นให้พูด

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ดูแลในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามักจะพูดน้อยและไม่ค่อยกระตุ้นให้เด็กพูดหรือสื่อสาร สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ ทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาและสติปัญญาล่าช้า

อีกหนึ่งตัวอย่างที่เชื่อมโยงให้เห็นว่า สภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการด้านภาษา คือการศึกษาของ เออร์วินศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยไอโอวาสหรัฐอเมริกา ได้พบว่า เมื่อเพิ่มการกระตุ้นในเด็กที่มีภูมิหลังมาจากชนชั้นล่าง ทำให้เด็กมีความสนใจด้านภาษามากขึ้น ก็สามารถทำให้เด็กมีการพัฒนาด้านการพูดที่ดีขึ้นได้

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ไม่ว่าเด็กจะมีภูมิหลังอย่างไร หากได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีการกระตุ้นก้านการพูด มีโอกาสพูดคุยกับผู้ใหญ่มากขึ้น จะสามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็กให้ดีขึ้นได้

  1. เพศ

ในช่วงขวบปีแรก เราอาจจะยังไม่เห็นความแตกต่างของพัฒนาการด้านภาษาในเด็กชายและเด็กหญิง แต่เมื่อเข้าขวบปีที่สอง พบว่า เด็กหญิงมีพัฒนาการด้านการพูดดีกว่าเด็กผู้ชาย โดยเด็กหญิงจะเรียนรู้เสียงพูด และพูดคุยได้คล่องแคล่วกว่าเด็กชาย

ความแตกต่างนี้จะเด่นชัดมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงความแตกต่างในเรื่องของ สถานะทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของแม่และลูกสาว อาจจะทำให้ลูกสาวมีการพัฒนาที่ดีกว่าลูกชาย นอกจากนี้ยังพบว่า ความถูกต้องทางไวยากรณ์และการออกเสียงในเด็กชายมีความแม่นยำน้อยกว่าเด็กหญิงอีกด้วย

บทความแนะนำ ทำความเข้าใจ พัฒนาการ ลูกสาว vs ลูกชาย ต่างกันอย่างไร

  1. ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว

ความสัมพันธ์ของเด็กกับสมาชิกในครอบครัวมีผลอย่างยิ่งกับพัฒนาการด้านการพูดของเด็ก เด็กที่ได้รับความรักและการปกป้องมากเกินไป จะถูกปิดกั้นทางภาษา ทำให้เด็กพูดช้า ในทางตรงกันข้าม เด็กที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่ ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม จะเกิดความเครียด ความวิตกกังวล และเกิดปัญหาทางด้านอารมณ์ตามมา

ดังนั้น คุณแม่ควรมีความยืดหยุ่น ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนเกินไป จึงจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้ลูกพูดเก่งขึ้นได้

  1. จำนวนสมาชิกในครอบครัว

จำนวนสมาชิกในครอบครัวมีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เพราะ เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก เด็กจะมีโอกาสที่จะพูดคุยกับผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก

 

ทั้ง 7 ปัจจัยนี้มีผลต่อพัฒนการด้านภาษาของเด็กอย่างไร คุณแม่ได้ทราบแล้วนะคะ อยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาที่ดี ครอบครัวมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นพัฒนาการให้กับลูกน้อยค่ะ

ที่มา www.psychologydiscussion.net

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

baby signs กระตุ้นพัฒนาการด้านการสื่อสารของทารก

7 กิจกรรมกระตุ้นทักษะด้านภาษาสำหรับลูกน้อย

8.TAP_th-ios-Footer670x196

บทความจากพันธมิตร
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 7 ปัจจัยที่สำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาของทารก
แชร์ :
  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

    เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

    เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว