ประโยชน์ของโยคะ 13 ประการ โยคะ วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยโยคะไม่ได้ช่วยแค่เรื่องร่างกายแต่ยังเน้นในเรื่องของจิตใจ ซึ่งความหมายที่แท้จริงนั้น มาจากคำภาษาสันสกฤต "ยูจิ" หมายถึงแอกหรือการรวมตัว โยคะเป็นการปฏิบัติแบบโบราณที่รวบรวมจิตใจและร่างกาย ประกอบด้วยการฝึกหายใจ ประโยชน์ของโยคะ มีมากกว่าการทำสมาธิ และท่าที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการผ่อนคลายและลดความเครียด กล่าวกันว่าการฝึกโยคะมีประโยชน์มากมายทั้งต่อสุขภาพกายและใจ แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะไม่ได้สนับสนุนผลประโยชน์เหล่านี้ทั้งหมด
ประโยชน์ 13 ประการของโยคะ
บทความนี้กล่าวถึง ประโยชน์ของโยคะ 13 ประการ วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้ค่ะ
1. สามารถลดความเครียดได้
ประโยชน์ของโยคะ ลดน้ำหนักโยคะเป็นที่รู้จักสำหรับความสามารถในการบรรเทาความเครียดและส่งเสริมการผ่อนคลาย อันที่จริงการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าสามารถลดการหลั่งคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหลัก หลักการออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ งานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบอันทรงพลังของโยคะต่อความเครียด โดยการติดตามผู้หญิง 24 คนที่รับรู้ว่าตนเองมีความทุกข์ทางอารมณ์
หลังจากโปรแกรมโยคะสามเดือน ผู้หญิงมีระดับคอร์ติซอลต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ พวกเขายังมีความเครียด ความวิตกกังวล ความเหนื่อยล้า และภาวะซึมเศร้าในระดับที่ต่ำกว่า การศึกษาอื่นจาก 131 คนมีผลเช่นเดียวกัน โดยแสดงให้เห็นว่าโยคะ 10 สัปดาห์ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิต เมื่อใช้คนเดียวหรือร่วมกับวิธีอื่นๆ ในการบรรเทาความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมความเครียด
2. บรรเทาความวิตกกังวล
หลายคนเริ่มฝึกโยคะเพื่อรับมือกับความรู้สึกวิตกกังวล ที่น่าสนใจคือมีงานวิจัยค่อนข้างน้อยที่แสดงให้เห็นว่าโยคะสามารถช่วยลดความวิตกกังวลได้ ในการศึกษาหนึ่ง ผู้หญิง 34 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรควิตกกังวลได้เข้าร่วมชั้นเรียนโยคะสัปดาห์ละสองครั้งเป็นเวลาสองเดือน เมื่อสิ้นสุดการศึกษา ผู้ที่ฝึกโยคะมีระดับความวิตกกังวลต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ หลักการออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ การศึกษาอื่นติดตามผู้หญิง 64 คนที่เป็นโรคเครียดหลังถูกทารุณกรรม (PTSD) ซึ่งมีลักษณะเป็นความวิตกกังวลและความกลัวอย่างรุนแรงหลังจากสัมผัสกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ
หลังจาก 10 สัปดาห์ ผู้หญิงที่ฝึกโยคะสัปดาห์ละครั้งมีอาการของ PTSD น้อยลง ในความเป็นจริง 52% ของผู้เข้าร่วมไม่ตรงตามเกณฑ์สำหรับ PTSD อีกต่อไป ยังไม่ชัดเจนว่าโยคะสามารถลดอาการวิตกกังวลได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม มันเน้นถึงความสำคัญของการอยู่ในช่วงเวลานั้นและค้นหาความสงบซึ่งสามารถช่วยรักษาความวิตกกังวลได้
3. อาจลดการอักเสบ
นอกเหนือจากการปรับปรุงสุขภาพจิตแล้ว การศึกษาบางชิ้นยังแนะนำว่าการฝึกโยคะอาจช่วยลดการอักเสบได้เช่นกัน การอักเสบเป็นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันตามปกติ แต่การอักเสบเรื้อรังสามารถนำไปสู่การพัฒนาของโรคที่มีการอักเสบ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง การศึกษาในปี 2558 แบ่งผู้เข้าร่วม 218 คนออกเป็นสองกลุ่ม: ผู้ที่ฝึกโยคะเป็นประจำและผู้ที่ไม่ทำ ทั้งสองกลุ่มทำแบบฝึกหัดระดับปานกลางและหนักหน่วงเพื่อกระตุ้นความเครียด ในตอนท้ายของการศึกษา ผู้ที่ฝึกโยคะมีระดับการอักเสบต่ำกว่าผู้ที่ไม่ทำ ในทำนองเดียวกัน การศึกษาในปี 2014 เล็กๆ แสดงให้เห็นว่าโยคะ 12 สัปดาห์ช่วยลดการอักเสบในผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมที่มีความเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลดีของโยคะต่อการอักเสบ แต่ผลการวิจัยเหล่านี้บ่งชี้ว่าอาจช่วยป้องกันโรคบางชนิดที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังได้
บทความประกอบ :อาหารต้านการอักเสบ วิธีลดการอักเสบตามธรรมชาติ ที่ควรรู้
4. สามารถปรับปรุงสุขภาพหัวใจได้
ตั้งแต่การสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายไปจนถึงการจัดหาเนื้อเยื่อที่มีสารอาหารที่สำคัญ สุขภาพของหัวใจเป็นองค์ประกอบสำคัญของสุขภาพโดยรวม การศึกษาแสดงให้เห็นว่าโยคะอาจช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจและลดปัจจัยเสี่ยงหลายประการสำหรับโรคหัวใจ การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าผู้เข้าร่วมที่มีอายุมากกว่า 40 ปีที่ฝึกโยคะเป็นเวลาห้าปีมีความดันโลหิตและอัตราชีพจรต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่น ความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของปัญหาหัวใจ เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง การลดความดันโลหิตของคุณสามารถช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาเหล่านี้ได้ งานวิจัยบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าการผสมผสานโยคะเข้ากับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีสามารถช่วยชะลอการลุกลามของโรคหัวใจได้
การศึกษาติดตามผู้ป่วยโรคหัวใจ 113 ราย โดยพิจารณาจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตซึ่งรวมถึงการฝึกโยคะเป็นเวลา 1 ปี ร่วมกับการปรับเปลี่ยนอาหารการกินและการจัดการความเครียด ผู้เข้าร่วมเห็นว่าคอเลสเตอรอลรวมลดลง 23% และลดคอเลสเตอรอล LDL ที่ "ไม่ดี" ลง 26% นอกจากนี้ ความก้าวหน้าของโรคหัวใจหยุดลงใน 47% ของผู้ป่วย ไม่ชัดเจนว่าโยคะมีบทบาทมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การรับประทานอาหาร แต่ก็สามารถลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจได้
5. ปรับปรุงคุณภาพชีวิต
โยคะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในฐานะการบำบัดแบบเสริมเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของบุคคลจำนวนมาก ในการศึกษาหนึ่งครั้ง ผู้อาวุโส 135 คนได้รับมอบหมายให้เล่นโยคะ เดิน หรือกลุ่มควบคุมเป็นเวลาหกเดือน การฝึกโยคะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับอารมณ์และความเหนื่อยล้า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ การศึกษาอื่น ๆ ได้ศึกษาว่าโยคะสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตและลดอาการในผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างไร
การศึกษาหนึ่งติดตามผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด โยคะลดอาการของเคมีบำบัดเช่นคลื่นไส้และอาเจียนในขณะเดียวกันก็ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวม วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การศึกษาที่คล้ายกันได้ศึกษาว่าโยคะแปดสัปดาห์ส่งผลต่อผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมอย่างไร เมื่อสิ้นสุดการศึกษา สตรีมีอาการปวดและเมื่อยล้าน้อยลง โดยมีการปรับปรุงระดับความมีชีวิตชีวา การยอมรับ และการผ่อนคลาย การศึกษาอื่น ๆ พบว่าโยคะอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ เพิ่มความผาสุกทางจิตวิญญาณ ปรับปรุงการทำงานทางสังคม และลดอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยมะเร็ง
6. อาจต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า
การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าโยคะอาจมีฤทธิ์ต้านอาการซึมเศร้าและอาจช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ อาจเป็นเพราะโยคะสามารถลดระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดที่ส่งผลต่อระดับเซโรโทนิน หลักการออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ แสดงให้เห็นว่า สารสื่อประสาทมักเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า ในการศึกษาชิ้นหนึ่ง ผู้เข้าร่วมโปรแกรมการติดสุราได้ฝึก Sudarshan Kriya ซึ่งเป็นโยคะประเภทหนึ่งที่เน้นการหายใจเป็นจังหวะ
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมจะมีอาการซึมเศร้าน้อยลงและระดับคอร์ติซอลลดลง พวกเขายังมีระดับ ACTH ที่ต่ำกว่าซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการหลั่งคอร์ติซอล การศึกษาอื่น ๆ ก็มีผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างการฝึกโยคะกับอาการซึมเศร้าที่ลดลง จากผลลัพธ์เหล่านี้ วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ด้วยโยคะ โยคะอาจช่วยต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม
7. สามารถลดอาการปวดเรื้อรังได้
อาการปวดเรื้อรังเป็นปัญหาถาวรที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านและมีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายประการ ตั้งแต่การบาดเจ็บไปจนถึงโรคข้ออักเสบ มีงานวิจัยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่แสดงให้เห็นว่าการฝึกโยคะสามารถช่วยลดอาการปวดเรื้อรังได้หลายประเภท ในการศึกษาหนึ่ง 42 คนที่เป็นโรค carpal tunnel syndrome ได้รับเฝือกที่ข้อมือหรือเล่นโยคะเป็นเวลาแปดสัปดาห์ ในตอนท้ายของการศึกษา พบว่าโยคะมีประสิทธิภาพในการลดความเจ็บปวดและเพิ่มความแข็งแรงในการยึดเกาะมากกว่าการใช้ดามข้อมือ
การศึกษาอื่นในปี 2548 แสดงให้เห็นว่าโยคะสามารถช่วยลดความเจ็บปวดและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายในผู้เข้าร่วมที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ แม้ว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม แต่การผสมผสานโยคะเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง
8. สามารถส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับ
คุณภาพการนอนหลับไม่ดีมีความเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และภาวะซึมเศร้า ท่ามกลางความผิดปกติอื่นๆ จากการศึกษาพบว่าการใช้โยคะเป็นกิจวัตรสามารถช่วยส่งเสริมการนอนหลับให้ดีขึ้นได้ ในการศึกษาปี 2548 ผู้ป่วยสูงอายุ 69 คนได้รับมอบหมายให้ฝึกโยคะ เตรียมสมุนไพร หรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มควบคุม
กลุ่มโยคะหลับเร็วขึ้น นอนหลับนานขึ้น และรู้สึกผ่อนคลายในตอนเช้ามากกว่ากลุ่มอื่นๆ การศึกษาอื่นศึกษาผลของโยคะต่อการนอนหลับในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง พวกเขาพบว่าช่วยลดปัญหาการนอนหลับ ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับและระยะเวลา และลดความจำเป็นในการใช้ยานอนหลับ แม้ว่าวิธีการทำงานจะไม่ชัดเจน แต่โยคะได้รับการแสดงเพื่อเพิ่มการหลั่งของเมลาโทนิน วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ วิธีนี้ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับและความตื่นตัว โยคะมีผลอย่างมากต่อความวิตกกังวล ความซึมเศร้า ความเจ็บปวดเรื้อรัง และความเครียด ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุของปัญหาการนอนหลับ
บทความประกอบ : 7วิธีแก้ นอนไม่พอ นอนไม่หลับ ไม่ต้องนับแกะอีกต่อไปให้เช้าวันใหม่สดใสกว่าเดิม
9. ปรับปรุงความยืดหยุ่นและความสมดุล
หลายคนเพิ่มโยคะในกิจวัตรการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุล มีงานวิจัยจำนวนมากที่สนับสนุนผลประโยชน์นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านการใช้ท่าทางเฉพาะที่กำหนดเป้าหมายความยืดหยุ่นและความสมดุล การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ศึกษาผลกระทบของโยคะ 10 สัปดาห์ต่อนักกีฬาวิทยาลัยชาย 26 คน การทำโยคะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุลได้อย่างมากเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม การศึกษาอื่นได้มอบหมายผู้เข้าร่วมผู้สูงอายุ 66 คนให้ฝึกโยคะหรือการออกกำลังกายแบบออกกำลังกายน้ำหนักตัว
หลังจากหนึ่งปี ความยืดหยุ่นโดยรวมของกลุ่มโยคะเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าของกลุ่มเพาะกาย การศึกษาในปี 2013 ยังพบว่าการฝึกโยคะสามารถช่วยปรับปรุงความสมดุลและความคล่องตัวในผู้สูงอายุ การฝึกโยคะเพียง 15-30 นาทีในแต่ละวันสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพโดยการเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุล
10. สามารถช่วยปรับปรุงการหายใจได้
ปราณยามะหรือการหายใจแบบโยคะเป็นการฝึกโยคะที่เน้นการควบคุมลมหายใจผ่านแบบฝึกหัดและเทคนิคการหายใจ โยคะส่วนใหญ่รวมการฝึกหายใจเหล่านี้ไว้ และการศึกษาหลายชิ้นพบว่าการฝึกโยคะสามารถช่วยปรับปรุงการหายใจได้ ในการศึกษาหนึ่ง นักศึกษา 287 คนเข้าชั้นเรียน 15 สัปดาห์ซึ่งพวกเขาได้รับการสอนท่าโยคะและการฝึกหายใจต่างๆ
ในตอนท้ายของการศึกษา พวกเขามีศักยภาพที่สำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความจุที่สำคัญคือการวัดปริมาณอากาศสูงสุดที่สามารถขับออกจากปอดได้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นโรคปอด ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และโรคหอบหืด การศึกษาอื่นในปี 2552 พบว่าการฝึกการหายใจแบบโยคะช่วยให้อาการและการทำงานของปอดดีขึ้นในผู้ป่วยโรคหอบหืดระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง การหายใจที่ดีขึ้นสามารถช่วยสร้างความอดทน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรงค่ะ
11. อาจบรรเทาไมเกรน
ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่เกิดซ้ำอย่างรุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันประมาณ 1 ใน 7 คนในแต่ละปี ตามเนื้อผ้า ไมเกรนจะรักษาด้วยยาเพื่อบรรเทาและจัดการอาการ อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าโยคะอาจเป็นยาเสริมที่มีประโยชน์เพื่อช่วยลดความถี่ในการเป็นไมเกรน การศึกษาในปี 2550 แบ่งผู้ป่วยโรคไมเกรน 72 รายออกเป็นโยคะบำบัดหรือกลุ่มดูแลตนเองเป็นเวลาสามเดือน
วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ด้วยโยคะ การฝึกโยคะนำไปสู่การลดความรุนแรงของอาการปวดหัว ความถี่และความเจ็บปวดเมื่อเทียบกับกลุ่มการดูแลตนเอง การศึกษาอื่นรักษาผู้ป่วยไมเกรน 60 รายโดยใช้การดูแลแบบเดิมโดยมีหรือไม่มีโยคะ หลักการออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ การทำโยคะส่งผลให้ความถี่และความรุนแรงของอาการปวดศีรษะลดลงมากกว่าการดูแลแบบเดิมเพียงอย่างเดียว นักวิจัยแนะนำว่าการเล่นโยคะอาจช่วยกระตุ้นเส้นประสาทวากัส ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการไมเกรน
บทความประกอบ : ไมเกรน ปวดไมเกรนตอนท้องทำไงดี อันตรายไหม เป็นสัญญาณร้ายหรือเปล่า
12. ส่งเสริมนิสัยการกินเพื่อสุขภาพ
การรับประทานอาหารอย่างมีสติ หรือที่เรียกว่าการรับประทานอาหารโดยสัญชาตญาณเป็นแนวคิดที่ส่งเสริมให้อยู่ในช่วงเวลาขณะรับประทานอาหาร มันเกี่ยวกับการใส่ใจกับรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของอาหารของคุณ และสังเกตความคิด ความรู้สึก หรือความรู้สึกใดๆ ที่คุณประสบขณะรับประทานอาหาร การปฏิบัตินี้แสดงให้เห็นเพื่อส่งเสริมนิสัยการกินเพื่อสุขภาพที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มการลดน้ำหนัก และรักษาพฤติกรรมการกินที่ไม่เป็นระเบียบ เนื่องจากโยคะให้ความสำคัญกับการมีสติเช่นเดียวกัน การศึกษาบางชิ้นจึงแสดงให้เห็นว่าสามารถใช้เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพได้
การศึกษาชิ้นหนึ่งได้รวมโยคะเข้ากับโปรแกรมการรักษาผู้ป่วยนอกที่มีความผิดปกติในการรับประทานอาหารกับผู้ป่วย 54 ราย โดยพบว่าโยคะช่วยลดทั้งอาการผิดปกติทางการกินและการหมกมุ่นอยู่กับอาหาร วิธีออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การศึกษาเล็ก ๆ อีกชิ้นหนึ่งศึกษาว่าโยคะส่งผลต่ออาการของโรคการกินมากเกินไปอย่างไร ความผิดปกติที่มีลักษณะเฉพาะจากการกินมากเกินไปโดยบีบบังคับ และความรู้สึกสูญเสียการควบคุม พบว่าโยคะทำให้อาการเมาสุราลดลง การออกกำลังกายเพิ่มขึ้น และน้ำหนักลดลงเล็กน้อย สำหรับผู้ที่มีและไม่มีพฤติกรรมการกินที่ไม่เป็นระเบียบ การฝึกสติผ่านโยคะสามารถช่วยในการพัฒนานิสัยการกินเพื่อสุขภาพ
13. สามารถเพิ่มความแข็งแกร่ง
นอกจากการปรับปรุงความยืดหยุ่นแล้ว โยคะยังเป็นส่วนเสริมที่ดีในการออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อประโยชน์ในการสร้างความแข็งแกร่ง อันที่จริงมีท่าโยคะบางท่าที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและสร้างกล้ามเนื้อ ในการศึกษาหนึ่ง ผู้ใหญ่ 79 คนแสดงท่าไหว้พระอาทิตย์ 24 รอบ ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานที่มักใช้เป็นท่าวอร์มอัพ หกวันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 24 สัปดาห์
พวกเขามีประสบการณ์การเพิ่มขึ้นอย่างมากในความแข็งแรงของร่างกายส่วนบน ความอดทนและการลดน้ำหนัก ผู้หญิงก็มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายลดลงเช่นกัน การศึกษาในปี 2015 มีข้อค้นพบที่คล้ายคลึงกัน แสดงให้เห็นว่าการฝึก 12 สัปดาห์นำไปสู่การปรับปรุงความอดทน ความแข็งแกร่ง และความยืดหยุ่นในผู้เข้าร่วม 173 คน จากการค้นพบนี้ การฝึกโยคะอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแข็งแรงและความอดทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับกิจวัตรการออกกำลังกายเป็นประจำนะคะ
จากการศึกษาหลายชิ้นได้ยืนยันถึงประโยชน์ทางร่างกายและจิตใจมากมายของโยคะ การรวมเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพของคุณ เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น และลดอาการของความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล การหาเวลาฝึกโยคะเพียงไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์อาจเพียงพอแล้วที่จะสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพของคุณค่ะ
ที่มา :healthline
บทความประกอบ :
คุณแม่หลังคลอด ปวดหลัง ปวดเอว ต้องลองใช้ท่าบริหารนี้ ท่าโยคะแม่หลังคลอด
8 โยคะท่าเหมือนในชีวิตประจำวันของแม่บ้าน
5 สถานที่เรียนโยคะคนท้อง ในกรุงเทพฯ