TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

7วิธีแก้ นอนไม่พอ นอนไม่หลับ ไม่ต้องนับแกะอีกต่อไปให้เช้าวันใหม่สดใสกว่าเดิม

บทความ 5 นาที
7วิธีแก้ นอนไม่พอ นอนไม่หลับ ไม่ต้องนับแกะอีกต่อไปให้เช้าวันใหม่สดใสกว่าเดิม

มาตรวจสอบกันดูค่ะ ตามช่วงอายุข้างล่างนี้ เรานอนหลับ พักผ่อนอย่างเพียงพอหรือไม่

การนอนหลับ หรือ นอนไม่พอ ถือเป็นการพักผ่อนหลักๆของร่างกายเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องได้รับการซ่อมแซมและฟื้นฟู แต่ดึกแล้ว ข่มตาหลับ นับแกะหมดฝูงก็แล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลับ ถ้าเจออาการแบบนี้ก็คงเป็นปัญหากวนใจอยู่ไม่น้อย รู้หรือไม่ว่า แค่อาการนอนไม่หลับก็ส่งผลร้ายให้ร่างกายมากกว่าที่คิด  ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นปัจจัยหลักๆและส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าความต้องการในการนอนหลับของคนเรานั้นย่อมมีไม่เท่ากัน มาตรวจสอบกันดูค่ะ ตามช่วงอายุข้างล่างนี้ เรานอนหลับ พักผ่อนอย่างเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจช่วงเวลาการนอนหลับในแต่ละช่วงวัยก่อนจะทราบถึงอันตรายจากอาการนอนไม่หลับกันค่ะ

ช่วงเวลานอนสามารถแบ่งตามช่วงวัย นอนไม่หลับทําไง ดังนี้

  • โดยปกติแล้ว การนอนที่ถูกต้องตามหลักสากล ควรนอนให้ครบ 6 – 8 ชม.ต่อวัน
  • ช่วงวัยทารก ทารกมีพัฒนาการที่รวดเร็วมาก ต้องการเวลานอน 17 ชั่วโมงในแต่ละวัน
  • ช่วงวัยเด็กหัดเดิน ใช้พลังงานเยอะและ ต้องการการพักผ่อนมาก เด็กอายุ1-2ปี  ต้องการนอนหลับระหว่าง 10- 13 ชั่วโมงต่อวัน
  • ช่วงวัยเด็กโต เป็นช่วงเวลาการเรียนรู้ และพัฒนา และเป็นช่วงที่อยู่ไม่ค่อยนิ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการการพักผ่อนมาก ประมาน 9-10 ชั่วโมงต่อวัน
  • ช่วงวัยรุ่น ต้องการนอนประมาณ 9 ชั่วโมงในแต่ละคืน แต่มักเป็นวัยที่นอนไม่เพียงพอ รูปแบบการนอนหลับตามธรรมชาติเปลี่ยนไปในวัยรุ่น เพราะฮอร์โมนเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความง่วง จะถูกสร้างขึ้นมาช้ากว่าที่เคยในตอนช่วงเย็น
  • ช่วงวัยผู้ใหญ่ โดยทั่วไปแล้วผู้ใหญ่ต้องการการนอนหลับ 7 – 8 ชั่วโมง
  • ช่วงวัยผู้สูงอายุ ช่วงอายุที่มากขึ้นไม่ทำให้ความต้องการนอนหลับลดลง และผู้สูงอายุยังคงต้องการนอนหลับอย่างเพียงพอไม่ต่างอะไรจากเด็ก โดยเวลาที่ต้องการคือ 8ชั่วโมงต่อวัน  แต่ยิ่งช่วงอายุมากขึ้น การหลับสนิทก็จะมีประสิทธิภาพลดลง และทำให้ตื่นง่ายขึ้น หลังจากนอนไปแล้ว 3 ถึง 4 ชั่วโมง

แล้วอาการนอนไม่หลับ มีสัญญาณบอกอย่างไรบ้าง ?

Sleepless

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเรามีอาการผิดปกติที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพโดยมีสาเหตุมาจากโรคนอนไม่หลับหรือไม่ ให้เช็กจากอาการเบื้องต้น เช่น รู้สึกไม่สดชื่นสดใส รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา ยิ่งในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลานอน แต่เมื่อถึงเวลานอนกลับหลับยาก อ่อนเพลียง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจสร้างความกังวลใจว่าเป็นอาการของโรคร้ายแรงอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่  ดังนั้นเรารวบรวมอาการที่ร่างกายอาจส่งสัญญาณบ่งบอก ได้ดังนี้ค่ะ

  1.  โกรธง่าย มีอารมณ์หงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล  เหวี่ยงวีนง่ายๆ
  2. รู้สึกเหนื่อยล้าและ เหวี่ยงวีน โดยไม่ทราบสาเหตุ
  3.  ง่วงนอนตลอดเวลาต้องแอบไปงีบหลับระหว่างวันบ่อยๆ
  4.  หน้าตาอิดโรย ไม่สดใสไม่สดชื่น ผิวหน้ามองคล้ำ ผิวพรรณไม่สดใส
  5.   มีความมึนงง ไม่มีสมาธิในการทำงาน สมองไม่ปลอดโปร่ง

       ต้องยอมรับว่า วิถีการใช้ชีวิตในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากถ้าเทียบกับการใช้ชีวิตของคนยุคก่อน แน่นอนว่าเรื่องของเทคโนโลยีมีผลโดยตรงกับคนยุคสมัยใหม่ ผู้คนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากอดีต จนนำมาสู่การเกิด “โรคนอนไม่หลับ” หรือ เรียกในภาษาอังกฤษว่า โรค “Insomnia” ซึ่งโรคนี้ มีรูปแบบของอาการที่หลากหลาย เช่น การนอนหลับไม่สนิท การนอนไม่หลับกระสับกระส่าย การหลับๆ ตื่นๆตลอดทั้งคืน การตื่นขึ้นมากลางดึกและนอนหลับต่อได้ยาก  รวมถึงการตื่นเช้าผิดปกติจากในชีวิตประจำวันเนื่องจากนอนไม่หลับ และอาการตื่นมาแล้วไม่สดใสไม่สดชื่น ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อการทำงานไปทั้งวัน  เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเรื่องอาการการนอนไม่หลับไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยใช่ไหมคะ

ที่มา : 1

บทความที่เกี่ยวข้อง : แค่เศร้า หรือเข้าข่ายเป็น “โรคซึมเศร้า” โรคซึมเศร้าในวัยรุ่น

เรามาดูสาเหตุหลักๆที่ทำให้เรานอนไม่หลับเกิดจากอะไรกันน้า นอนไม่หลับทําไงดี นอนไม่หลับทําไง

อาการ นอนไม่พอ

 1. ถ้าพูดถึงในยุคปัจจุบัน ความเครียด อาจถือว่าเป็นอาการที่พบเห็นได้ง่ายกว่าในยุคก่อนด้วยสิ่งเร้ารอบตัวทำให้เกิดภาวะเครียดได้ง่าย เมื่อเครียดแล้วก็เกิดอาการคิดมาก และอาการวิตกกังวลตามมา  บวกกับแรงกดดันในที่ทำงานหรือสถานการณ์ต่างๆ จนลุกลามและมีอาการอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต อาจจะเป็นสาเหตุหลักของอาการนอนไม่หลับของคนในยุคนี้

 2. ให้ลองนึกภาพตามในบางวันที่เรามีสุขภาพแข็งแรงไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย อาการนอนไม่หลับยังสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย แล้วถ้าเรามีอาการเจ็บป่วย เช่น ปวดท้อง ปวดหัว ปวดตามเนื้อตัว เป็นไข้ไม่สบายร่วมด้วย มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ ยิ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุในการนอนไม่หลับนั่นเองค่ะ

 3. บางครั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม สถานที่สิ่งแวดล้อมในการนอนเป็นเรื่องเล็กๆที่เราไม่ควรมองข้าม สถานที่ที่มีเสียงดังรบกวน ไฟในห้องที่สว่างเกินไป ห้องที่มีขนาดคับแคบ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ล้วนแล้วทำให้นอนหลับยากเช่นกัน

 4. สำหรับใครที่ติดคาเฟอีน ติดกาแฟ สิ่งเสพย์ติดทั้งหลาย แอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิด ยังส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 5. ไม่น่าเชื่อว่าอาการหิว หรือท้องว่าง และเกิดการหิวขึ้นมาในช่วงดึก ต้องทนนอนฟังเสียงท้องร้องตลอดทั้งคืนก็คงไม่ไหว   หรือในอีกแง่หนึ่งกินอิ่มมากเกินไปจนทำให้มีอาการแน่นท้องกลางดึกจนนอนไม่หลับก็เกิดขึ้นได้บ่อยๆเช่นกัน

เมื่อเราทราบสาเหตุจากอาการนอนไม่หลับแล้วนั้น ปัญหาที่ค่อยสะสมวันละเล็กวันละน้อย เมื่อสะสมนานวันเข้าก็จะก่อให้เกิดปัญหานอนไม่หลับเรื้อรัง และอาการนอนไม่หลับนั้นสามารถพ่วงปัญหาสุขภาพด้านอื่นตามมาอีกมากมาย ดังนั้นอย่ารอช้าค่ะ ไปดูวิธีการแก้อาการนี้

วันนี้เรารวบรวมไอเดียมาให้7 แก้อาการนอนไม่พอ นอนไม่หลับทําไงดี

1.สร้างบรรยากาศห้องนอนที่เหมาะสม อุณหภูมิห้องต้องพอดีค่ะไม่ร้อนไปหรือหนาวไป โดยมีความเงียบสงบหรือแต่บางครั้งอาจเปิดเพลงคลอเพื่อสร้างบรรยากาศ ตรงนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวนะคะ เพราะบางคนชอบนอนในบรรยากาศเงียบสนิทหรือบางคนสามารถนอนได้ถ้าเปิดเพลงสร้างบรรยากาศเพิ่มความผ่อนคลาย

อ่านหนังสือก่อนนอน นอนไม่พอ 2

2.กำหนดเวลานอนที่ชัดเจน กำหนดเวลานอนของตัวเองให้เป็นเวลา เมื่อล้มตัวลงนอนแล้วควรปล่อยสมองให้โล่ง และหยุดคิดเรื่องราวต่างๆ เพราะยิ่งคิดมากยิ่งนอนไม่หลับนะคะ มองนาฬิกาอีกทีเราอาจจะนอนคิดเป็นเวลาชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วค่ะ ไม่น่าเลย

3.ใครที่ชอบออกกำลังกายแนะนำว่าควรออกกำลังกายช่วงตอนเย็น อย่าออกกำลังกายก่อนที่เราจะนอนค่ะ เพราะช่วงออกกำลังกายร่างกายเราจะตื่นตัว หัวใจเต้นแรง เมื่อออกเสร็จควรเว้นช่วงเวลาหลายชั่วโมงค่ะ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย และเมื่อเราขับเหงื่อจากการออกกำลังกายแล้วร่างกายหลั่งสาร เอนโดรฟินทำให้ร่างกายผ่อนคลายมีความสุข หลับง่าย ทำให้สมองปลอดโปร่ง โดยการออกกำลังกายเบาๆก่อนนอนสามารถออกกำลังกายโยคะบางท่าได้ จะช่วยในการนอนหลับได้ดีค่ะ

 4. ใครที่เป็นสายคาเฟอีน ติดชากาแฟ แนะนำว่าควรงดดื่มชา  กาแฟ และอาหารต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของสารคาเฟอีน ที่สามารถกระตุ้นสมองก่อนนอน และควรทานอาหารให้ครบ5หมู่ ทานอาหารให้ตรงเวลา และการได้สารอาหารครบถ้วน ควรรับประทานผักและผลไม้ ก่อนนอนไม่ควรทานอาหารหนักมื้อหนักๆ บุฟเฟ่  หรือเนื้อสัตว์เยอะในช่วงก่อนนอน เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายใช้เวลาในการย่อย ย่อยช้า อึดอัดท้อง จนก็ให้เกิดอาการนอนไม่หลับโดยง่ายค่ะ

5.ในยุคนี้เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา ทำให้เราคุ้นเคยและหยิบจับเครื่องมื่อสื่อสารได้ง่าย เราควรหักห้ามใจและตั้งช่วงเวลาการเล่นสื่อโซเชียลในแต่ละวัน โดยช่วงก่อนนอนสำคัญมาก ควรงดเล่นการสื่อสารทุกชนิดก่อนนอน ปิดไฟทำห้องนอนให้เงียบ สร้างบรรยากาศในการนอนดูน่านอนยิ่งขึ้นค่ะ

นอนไม่พอทำยังไง 1

 6.ข้อนี้เป็นข้อเล็กๆทื่คนส่วนมากมองข้าม นอกจากการสร้างบรรยากาศรอบข้างแล้ว เรื่องของที่นอนหมอนและสิ่งอำนวยความสะดวกในการนอนสำคัญมากค่ะ ควรเลือกเตียงที่มาตรฐานเพราะถ้าเตียงไม่ได้มาตรฐานนอกจากจะนอนไม่หลับแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพบุคลิกภาพในระยะยาวด้วยค่ะ ที่นอนสบายไม่แข็งและนุ่มจนเกินไปควรเลือกให้เหมาะสม พร้อมทั้งหาหมอนที่รองรับศีรษะให้ได้ระดับพอดีกับสรีระของเราค่ะ

7.ช่วงเวลาก่อนนอนควรหากิจกรรมเบาๆ กิจกรรมก่อนนอนง่าย ๆ สำคัญที่สามารถทำได้ทุกคืนเป็นกิจวัตรประจำ บางคนอาจเลือกการนั่งสมาธิ หรืออ่านหนังสือที่ชอบ ทำให้คุณทำได้ทุกคืนโดยที่ทำกิจกรรมบางอย่างนี้จะเป็นสัญญานให้ร่างกายรู้ว่าได้เวลานอนได้เวลาพักผ่อน และสามารถทำให้ประสิทธิภาพการนอนดีขึ้นแน่นอนค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ปักหมุด! 11 ชุดนอน สำหรับผู้หญิง ลายน่ารัก เนื้อผ้านิ่มลื่น สวมใส่บาย!

มาถึงตรงนี้แล้วเรื่องการนอนไม่หลับ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยใช่ไหมคะ และไม่ควรเป็นเรื่องที่เราจะมองข้ามได้เลย การนอนไม่ใช่แค่ล้มตัวลงนอนแล้วก็หลับไป แต่เป็นเรื่องของการฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกาย และทำให้สมองของเราได้พักผ่อนจริงๆ ถ้าเรานอนอย่างมีประสิทธิภาพ เช้าวันใหม่ที่ตื่นมาย่อมเป็นวันที่มีประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ

บทความจากพันธมิตร
ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
ไขความลับ เปลี่ยนเมนูทอดของลูก ให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ
ไขความลับ เปลี่ยนเมนูทอดของลูก ให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ
โรคไข้กาฬหลังแอ่น  แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง
โรคไข้กาฬหลังแอ่น แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง
Probiotic และ Prebiotic คู่หูมหัศจรรย์เพื่อลำไส้แข็งแรงและภูมิคุ้มกันที่ดีของลูกน้อย
Probiotic และ Prebiotic คู่หูมหัศจรรย์เพื่อลำไส้แข็งแรงและภูมิคุ้มกันที่ดีของลูกน้อย

ที่มา : rama.mahidol.ac.th ,  thonburibamrungmuang.com 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Thippaya Trangtulakan

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 7วิธีแก้ นอนไม่พอ นอนไม่หลับ ไม่ต้องนับแกะอีกต่อไปให้เช้าวันใหม่สดใสกว่าเดิม
แชร์ :
  • ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
    บทความจากพันธมิตร

    ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด

  • ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

    ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

  • รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

    รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

  • ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
    บทความจากพันธมิตร

    ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด

  • ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

    ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

  • รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

    รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว