TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด คีลอยด์ รักษายังไง? วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว ไม่เป็นแผลนูน

บทความ 8 นาที
แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด คีลอยด์ รักษายังไง? วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว ไม่เป็นแผลนูน

หลังผ่าคลอดคุณแม่อาจมี แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด อ่านวิธีป้องกันและรักษาที่ถูกต้อง ให้ผิวหน้าท้องสวยเนียนไม่คัน แดง เป็นคีลอยด์

แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด แผลคีลอยด์ คืออีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลายคนกังวลใจ และอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจในรูปร่างได้ อย่างไรก็ตาม รอยแผลเป็นเหล่านี้สามารถรักษาให้หายได้ค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูวิธีดูแลที่จะช่วยให้แผลเป็นหลังผ่าคลอดยุบหายไป และช่วยให้คุณแม่กลับมามีผิวเนียนสวยเหมือนเดิม

 

ความเชื่อผิดๆ กินไข่ทำให้ แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด

ความเชื่อหนึ่งที่มีมาทุกยุคทุกสมัยเกี่ยวกับ แผลเป็นหลังผ่าคลอด ซึ่งคุณแม่หลายท่านคงเคยได้ยินเช่นกันว่า การรับประทานไข่ไก่จะยิ่งทำให้แผลเป็นนูนหายช้า เกิดเป็น คีลอยด์ ความจริงก็คือ “ไข่” เป็นสารอาหารจำพวกโปรตีน เช่นเดียวกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นม รวมถึงถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดแห้ง ซึ่งจะช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น เพราะช่วยสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้เซลล์แต่ละเซลล์สามารถประสานยึดติดเป็นเนื้อเดียวกันได้ ดังนั้น ที่เชื่อกันว่า กินไข่ทำให้แผลหายช้า ทำให้แผลเป็นนูน เป็นคีลอยด์ จึงไม่เป็นความจริงค่ะ

 

แผลเป็นนูน vs คีลอยด์ ต่างกันอย่างไร

การผ่าคลอดนอกจากทำให้แม่ ๆ ต้องใช้เวลาพักฟื้นร่างกายแล้ว สิ่งที่หลายคนกังวลก็คือ “แผลเป็น” ที่ทิ้งร่องรอยไว้บนหน้าท้อง ซึ่งแม่ ๆ เล่าว่าแม้จะหายดีแล้ว แต่แผลกลับนูนขึ้น บางครั้งยังมีอาการคันหรือแดงร่วมด้วย ทำให้ไม่มั่นใจเวลาแต่งตัว วันนี้เรามาคุยกันให้ชัด ๆ ว่า แผลเป็นนูน (Hypertrophic) และ คีลอยด์ (Keloid) ต่างกันยังไง เกิดจากอะไร และดูแลยังไงได้บ้างนะคะ

โดยทั่วไป แผลเป็นนูนไม่ลามเกินแผลเดิม ส่วนคีลอยด์จะลามออกไปและมักคัน เพื่อให้แม่ ๆ เข้าใจง่าย มาดูตารางเปรียบเทียบกันค่ะ

ตารางเปรียบเทียบ แผลเป็นนูน vs คีลอยด์

ลักษณะ แผลเป็นนูน (Hypertrophic) คีลอยด์ (Keloid)
การนูน แผลนูนขึ้น สีแดงหรือคล้ำ แต่ไม่มาก
แผลนูนแข็ง นูนเด่นชัด
ขอบเขตแผล อยู่ภายในรอยแผลเดิม
ลามออกเกินรอยแผลผ่าตัดเดิม
อาการร่วม อาจมีตึง ๆ แต่ไม่ค่อยคัน
มักมีคัน เจ็บ หรือระคายเคือง
โอกาสพบ พบได้บ่อยในแผลผ่าตัดทั่วไป
พบมากในคนที่มีพันธุกรรมเอื้อ โดยเฉพาะผิวคล้ำ
ผลกระทบต่อรูปลักษณ์ รอยดูนูนแต่ไม่ลุกลาม
รอยใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เห็นชัดเจน

ข้อมูลจาก Cleveland Clinic ระบุว่า คีลอยด์เกิดได้ถึง 10–15% ของประชากรทั่วไป และมีโอกาสมากขึ้นในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเคยเป็น

สาเหตุที่ทำให้แผลผ่าคลอด กลายเป็นแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์

แผลผ่าคลอดของแต่ละคนอาจสมานไม่เหมือนกัน ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:

  • พันธุกรรม: ข้อมูลจาก Healthline และงานวิจัยใน Journal of Wound Care ปี 2018 ชี้ว่า หากครอบครัวมีประวัติเป็นคีลอยด์ มีโอกาสเกิดมากขึ้น
  • การดูแลแผล: หากแผลติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบ จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมากเกินไป จนแผลนูน
  • ความตึงของผิวหนัง: แผลผ่าคลอดอยู่ตรงท้อง ซึ่งผิวหนังมักตึง อาจเพิ่มโอกาสแผลเป็นนูน
  • อายุและสีผิว: งานวิจัยจาก Dermatologic Surgery พบว่า คนอายุน้อยและผู้ที่มีผิวคล้ำมีโอกาสเกิดคีลอยด์มากกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง : แผลผ่าคลอด กี่วันหาย วิธีดูแลแผลผ่าคลอด แผลนูนคัน แผลปริ แผลอักเสบ

 

แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด

 

วิธีดูแล แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด และคีลอยด์

การดูแลด้วยตัวเองที่บ้าน

  • ยาทาลดรอยแผลเป็น เช่น เจลที่มี Onion Extract หรือ Allium Cepa มีรายงานว่าสามารถช่วยให้รอยแผลนุ่มและจางลง
  • แผ่นแปะซิลิโคนเจล ลดการสร้างคอลลาเจนเกิน และป้องกันแผลนูน
  • การนวดแผลเบา ๆ ตามคำแนะนำแพทย์ จะช่วยทำให้เนื้อเยื่อไม่แข็งเกินไป และเลือดไหลเวียนดี
  • ควรใช้ผ้ารัดหน้าท้องในเวลากลางวัน จนกว่าแผลผ่าตัดจะหายสนิท เพื่อจะได้เคลื่อนไหวได้คล่องตัวขึ้น โดยไม่เจ็บแผล เพราะกล้ามเนื้อหน้าท้องยังหย่อนอยู่มาก
  • ออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณบาดแผลให้มากขึ้น ช่วยสมานให้แผลติดกันได้เร็วขึ้น

การรักษาโดยแพทย์ (Medical Treatments)

  • การฉีดสเตียรอยด์ที่แผล: ช่วยลดการอักเสบและการสร้างคอลลาเจนเกิน งานวิจัยจาก American Academy of Dermatology (AAD) ระบุว่าช่วยลดขนาดคีลอยด์ได้ชัดเจน
  • การทำเลเซอร์ (Laser Therapy): เช่น Pulsed Dye Laser (PDL) ใช้ลดรอยแดงและความนูน
  • การผ่าตัดแก้ไขแผลเป็น: มักใช้ร่วมกับการฉีดสเตียรอยด์หรือการฉายรังสี เพื่อป้องกันไม่ให้คีลอยด์กลับมาอีก
วิธีรักษา ผลลัพธ์
ซิลิโคนเจลชีท รีวิวระบุว่าช่วยลดการเกิดคีลอยด์ใหม่ และทำให้คีลอยด์เดิมแบนลง
สเตียรอยด์ฉีดเข้ารอยแผล ลดอาการคัน แดง นูน แต่ใช้ต่อเนื่องอาจทำให้ผิวหนังบางลง
เลเซอร์ทางการแพทย์ ลดการอักเสบของคีลอยด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายเคส
ผ่าตัดคีลอยด์ ต้องเสริมด้วยสเตียรอยด์หรือรังสีหลังผ่าเพื่อป้องกันกลับเป็นซ้ำ
วิตามินอี / หัวหอม ช่วยลดรอยคันและทำให้รอยแผลนุ่มลง แต่ไม่ช่วยให้ยุบในทันที
โภชนาการและการดูแลทั่วไป โปรตีน วิตามินซี และน้ำช่วยสมานแผลดีขึ้น ลดการอักเสบและคีลอยด์

การผ่าตัดช่วยรักษาแผลนูนได้จริงไหม

การผ่าตัดจะช่วยจัดตำแหน่งรอยแผลเป็นนูนให้ดีขึ้นได้จริงหรือ เพราะทุกครั้งที่มีการผ่าตัดย่อมมีแผลใหม่เกิดขึ้น อีกทั้งการผ่าตัดให้ประสบผลสำเร็จ ยังขึ้นอยู่กับขนาดของแผลอีกด้วย ทั้งนี้แผลเป็นอาจจะหดและจางลงเอง แต่ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ทิ้งไว้เฉย ๆ สัก 1 ปี จนแผลจางลงเต็มที่ก่อนจึงจะทำการรักษา

สำหรับการฉีดยาสเตอรอยด์ การใช้ซิลิโคนเจลชีทและวิธีอื่น ๆ เช่น การฉายแสงเลเซอร์ การจี้ความเย็น วิธีการเหล่านี้สามารถใช้รักษาแผลเป็นนูนได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ซิลิโคนเจลหรือสเตียรอยด์ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการแพ้หรือการติดเชื้อ และผลการรักษาไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเมื่อรักษาไปแล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก

บทความที่เกี่ยวข้อง : แผลผ่าคลอด ดูแลแผลอย่างไร ให้ไม่เป็นแผลนูนแดง หมดห่วงเรื่องคีลอยด์

 

วิธีดูแลแผลผ่าคลอดอย่างถูกวิธี

วิธีป้องกัน แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด ตั้งแต่เนิ่น ๆ

การดูแลตั้งแต่หลังผ่าคลอดใหม่ๆ มีผลมากค่ะ เพราะสามารถลดความเสี่ยงของแผลเป็นนูนได้ นี่คือ คำแนะนำในการดูแลแผลหลังผ่าคลอด ป้องกันแผลเป็นนูน

  • ดูแลแผลตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (0–3 วัน)

    • หลีกเลี่ยงการแช่น้ำในอ่าง ใช้สบู่อ่อน เช็ดแผลให้แห้ง

    • ใช้ผ้ารัดหน้าท้องและหลีกเลี่ยงการงอหรือยืดตัวแรง เพื่อช่วยให้แผลเรียงตัวดีขึ้น

  • ช่วง 1–3 สัปดาห์ 

    • รักษาความชุ่มชื้นของแผลด้วยซิลิโคนเจลหรือวิตามินอีหลังแผลปิด

    • เคลื่อนไหวเบา ๆ เช่น แพทย์มักแนะนำให้เดินภายในวันแรกหลังผ่าเพื่อกระตุ้นเลือดไหลเวียน

  • 3 สัปดาห์–1 ปี (Maturation)

    • เริ่มใช้ซิลิโคนชีทหรือยาทาสเตียรอยด์ตามแพทย์กำหนด งานวิจัยจาก Cochrane Review 2020 พบว่าแผ่นซิลิโคนช่วยลดโอกาสเกิดแผลนูนได้จริง

    • หากไม่ดีขึ้น ให้พิจารณาเลเซอร์หรือฉีดสเตรียรอยด์ร่วมกัน

    • หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นการอักเสบ เช่น แอลกอฮอล์ คาเฟอีน ของหมักดอง

  • เฝ้าระวังอาการผิดปกติ

    • หากแผลบวม แดง หนอง หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์ทันที

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 แผ่นแปะลดรอยแผลเป็น ไอเท็มเด็ดที่ แม่ผ่าคลอด ต้องมี!

 

แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด

บทความจากพันธมิตร
เจาะลึก “โภชนาการส่งผ่านสายสะดือ” ที่แม่ไม่เคยรู้
เจาะลึก “โภชนาการส่งผ่านสายสะดือ” ที่แม่ไม่เคยรู้
Ask The Expert เจาะลึก “โภชนาการส่งผ่านสายสะดือ” ที่แม่ไม่เคยรู้
Ask The Expert เจาะลึก “โภชนาการส่งผ่านสายสะดือ” ที่แม่ไม่เคยรู้
S-26 GOLD PRO-C 3 ได้รับรางวัลนมผงที่เป็นที่นิยมของแม่ผ่าคลอด และแม่ส่วนใหญ่
S-26 GOLD PRO-C 3 ได้รับรางวัลนมผงที่เป็นที่นิยมของแม่ผ่าคลอด และแม่ส่วนใหญ่
S-26 GOLD PRO HA 3 นมผงที่แม่ภูมิแพ้เลือก ได้รับรางวัล TAP Award 2025
S-26 GOLD PRO HA 3 นมผงที่แม่ภูมิแพ้เลือก ได้รับรางวัล TAP Award 2025

ทำอย่างไรเมื่อแผลผ่าคลอด “คัน” และ “แดง”?

แม่ ๆ หลายคนกังวลว่าทำไมแผลยังคันหรือแดงอยู่ จริง ๆ แล้วนี่เป็น ส่วนหนึ่งของกระบวนการสมานแผลตามธรรมชาติ ค่ะ

  • อาการคัน เกิดจากเส้นประสาทกำลังฟื้นตัว และผิวหนังใหม่ยังบอบบาง
  • อาการแดง มาจากการไหลเวียนเลือดที่เข้ามาซ่อมแซมเนื้อเยื่อ 

วิธีบรรเทาอาการคันแผลผ่าคลอด

  • ทามอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน หรือเจลซิลิโคน
  • หลีกเลี่ยงการเกา เพราะอาจทำให้ผิวหนังถลอกและติดเชื้อ
  • ใช้ประคบเย็น เพื่อลดการคันชั่วคราว
  • หากคันหรือแดงมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

งานวิจัยจาก Mayo Clinic ชี้ว่าอาการคันแผลพบได้บ่อยในช่วง 6–8 สัปดาห์แรก หลังผ่าตัด และส่วนใหญ่จะดีขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไป

โภชนาการสำคัญกับการรักษาแผลคีลอยด์ แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด

ระยะการสมานตัวของแผล สามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะการอักเสบ ระยะการเพิ่มจำนวน และระยะการปรับเปลี่ยนใหม่ ในแต่ละขั้นตอน ร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารที่จะมาช่วยในการผลัดเปลี่ยนเนื้อเยื่อและเซลล์ที่ถูกทำลายให้สมานกันเช่นเดิม ความใส่ใจในโภชนาการ รับประทานที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยรักษาให้แผลหายเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยถนอมไม่ให้แผลเกิดการอักเสบ หรือเกิดเป็นแผลเป็นนูนอีกด้วย โดยกระบวนการหายของแผล แบ่งเป็น 3 ระยะคือ

  • ระยะการอักเสบ (Inflammatory)

ในระยะ 0 – 3 วันแรก หรือระยะการอักเสบ เซลล์ที่ถูกทำลาย เนื้อตายและแบคทีเรียจะถูกกำจัดออกจากแผล ในกระบวนการเริ่มต้นของการสมานแผล ร่างกายของเราก็ต้องการสารอาหารที่จะช่วยในการห้ามเลือด ป้องกันการติดเชื้อ และซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ในระยะนี้อาการบวม แดง เจ็บแผล อาจจะเกิดขึ้นเป็นปกติ

  • ระยะการเพิ่มจำนวน (Proliferative)

ในระยะนี้ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและหลอดเลือดที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ จะทำหน้าที่ในการจัดเรียงตัวเองบนพื้นผิวบริเวณที่เป็นแผล และเกิดการหดตัวของเซลล์ เพื่อทำให้ปากแผลติดชิดกัน ในขั้นตอนนี้ร่างกายก็ยังคงต้องการสารอาหารและออกซิเจนที่เพียงพอ เพื่อที่จะหล่อเลี้ยงหลอดเลือดและเนื้อเยื่อนั่นเอง

  • ระยะการปรับเปลี่ยนใหม่ (Maturation)

ในระยะนี้ คอลลาเจนจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเซลล์และเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านล่างได้รับการซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้ว เซลล์ที่ถูกนำมาใช้ในระยะของการซ่อมแซม ก็จะถูกกำจัดออกไปจากร่างกาย คอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นชั่วคราว ก็จะถูกทดแทนด้วยการสร้างที่ประณีตกว่าเดิม เพื่อปกปิดรอยแผลและลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น โดยระยะการปรับเปลี่ยนใหม่นี้ จะเริ่มต้นขึ้นประมาณ 3 สัปดาห์ – 1 ปี หลังจากการผ่าตัด

บทความที่เกี่ยวข้อง : เมื่อไรที่แผลผ่าคลอดจะหายสนิท ผ่าคลอดเจ็บกี่วัน ดูแลแผลอย่างไรให้ถูกวิธี

 

แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด

 

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการผ่าตัด

อาหารที่ควรรับประทานหลังการผ่าตัด

  • น้ำตาล
  • ไนเตรต มักพบในอาหารแปรรูป
  • แอลกอฮอล์
  • คาเฟอีน
  • โปรตีน
  • วิตามินบี เช่น ไข่ เนื้อไก่ ปลา ผักใบเขียว อัลมอนด์ อะโวคาโด เป็นต้น
  • วิตามินซี เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
  • วิตามินเอ เช่น ผักใบเขียว ปลา และไข่
  • ซิงค์ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้ โอ๊ต เป็นต้น

 

วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว

7 วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว ทิ้งรอยแผลเป็นน้อยที่สุด

นอกจากโภชนาการที่สำคัญต่อการรักษาแผลผ่าตัดหลังคลอดแล้ว เรายังมี 7 วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หลายเร็ว และทิ้งรอยแผลเป็นไว้น้อยที่สุด มาฝาก คุณแม่ผ่าคลอด กันด้วยค่ะ

  1. อย่าให้แผลโดนน้ำ

ในช่วง 7 วันแรกหลังการผ่าคลอด คุณแม่ต้องระวังอย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อักเสบ ซึ่งจะยิ่งทำให้แผลหายช้าไปอีกค่ะ แนะนำว่าให้ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดตัวแทนการอาบน้ำไปก่อน หรือหากแผลจะถูกปิดโดยพลาสเตอร์แบบกันน้ำ ก็ให้อาบแบบน้ำไหลผ่าน แล้วรีบซับตัวให้แห้ง ห้ามแช่อ่างอาบน้ำเด็ดขาด และหมั่นเปลี่ยนพลาสเตอร์เสมอ

  1. แผลต้องสะอาด และแห้งเสมอ

หากแผลสมานติดเรียบร้อยดีแล้ว คุณหมอตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติอะไร คุณแม่ก็สามารถอาบน้ำได้โดยไม่ต้องปิดพลาสเตอร์ค่ะ ทั้งนี้ หลังตัดไหมเรียบร้อยแล้ว ควรทำความสะอาดแผลวันละ 2-3 ครั้งหลังอาบน้ำ โดยใช้น้ำเกลือเช็ดและซับให้แห้งอย่างเบามือเสมอ อย่าแกะหรือเกาแผล เพราะอาจทำให้รอยแผลมีสีเข้มขึ้น หายช้า และมีโอกาสติดเชื้อได้

  1. เลี่ยงการยกของหนัก ออกแรงเยอะ

คุณแม่ต้องห้ามยกของหนัก หรือออกแรงเยอะ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนหลังผ่าคลอด เนื่องจากแรงยืดขณะยกของซึ่งจะทำให้แผลตึง ร่างกายจะปรับตัวโดยการสร้างคอลลาเจนให้หนามากขึ้นเพื่อป้องกันการฉีกขาดของแผล ทำให้แผลผ่าคลอดเป็นคีลอยด์ หรือเกิดแผลเป็นนูนได้

  1. ใส่ผ้ารัดพยุงท้อง

การใส่ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยพยุงกล้ามเนื้อเมื่อคุณแม่ขยับตัว หรือเดิน ช่วยให้แผลผ่าคลอดไม่ถูกดึงรั้ง หรือกดทับจากผิวหนังที่หย่อนคล้อย รวมถึงลดอาการเจ็บปวดจากแผลได้ด้วยค่ะ

  1. ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ

หลังจากแผลแห้งสนิท ออยล์บำรุงผิว มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือยาทาลดรอยแผลเป็น สามารถช่วยคุณแม่ได้ค่ะ เพราะจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และยืดหยุ่นดี รอยแผลเป็นจางและอ่อนนุ่มลง

  1. อย่าอยู่นิ่ง ให้ขยับตัวบ้าง ป้องกันการเกิดพังผืด

คุณแม่ควรเริ่มขยับตัวบ้างตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัดเลยค่ะ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น ไม่ให้แผลผ่าคลอดด้านในเกิดพังผืดยึดเกาะกับอวัยวะในช่องท้อง และช่วยลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังคลอด

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นหนึ่งในวิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายไวได้ขึ้น หรือจะลองหากิจกรรมเพื่อความผ่อนคลายทำบ้าง ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ฟังเพลง เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายฟื้นตัวได้เต็มที่มากยิ่งขึ้นค่ะ

 

การมีแผลผ่าคลอดไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยค่ะ มันคือ สัญลักษณ์ของความเป็นแม่ แต่หากคุณแม่อยากรักษาแผลเป็นนูนหลังคลอด ก็ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยไว้ก่อน ยิ่งถ้าหากคุณแม่เคยมีปัญหาเรื่องแผลมาก่อนแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และเพื่อความปลอดภัยของร่างกายตัวเองค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ผ่าคลอดแนวยาว ผ่าคลอดแนวขวาง ข้อดีข้อเสีย และวิธีดูแลแผลผ่าคลอด

ปวดแผลผ่าคลอด เจ็บ ๆ เสียว ๆ เมื่อไหร่จะหายสักที เรื่องที่คุณแม่ผ่าคลอดควรรู้

10 เมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง อะไรควรหลีกเลี่ยง

 

ที่มา : mgronline , www.vimut.com , โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน , Cleveland Clinic , Healthline , NIH , American Academy of Dermatology (AAD) , Mayo Clinic

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

มิ่งขวัญ เหล่าบุศณ์อนันต์

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด คีลอยด์ รักษายังไง? วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว ไม่เป็นแผลนูน
แชร์ :
  • นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

    นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

  • ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

    ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

  • อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

    อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

  • นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

    นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

  • ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

    ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

  • อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

    อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว