เมื่อเด็กอายุยังน้อย และยังพูดไม่เป็นถ้อยเป็นคำ เสียงร้องไห้ของเด็ก ถือว่าเป็นสัญญาณหนึ่งเดียว ที่เด็กสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการจะบอกกับเราได้ แม้ว่าเราอาจจะไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ลูกน้อยต้องการจะสื่อ แต่ว่าเราสามารถสังเกตเสียงร้องไห้ของลูกได้ เพื่อเดาว่าลูกต้องการอะไร เด็กบางคนร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ ซึ่งบางที ก็อาจเป็นสัญญาณร้ายได้เหมือนกัน วันนี้ เรามาดูกันว่า ลูกร้องไห้แบบไหนไม่ปกติ เสียงร้องไห้เด็กแบบไหน ที่เป็นสัญญาณอันตรายได้บ้าง
เสียงร้องไห้บอกอะไรกับพ่อแม่ ทำไมเด็กทารกจึงร้องไห้
เด็กบางคนชอบส่งเสียงร้องบ่อย ๆ ซึ่งเสียงร้องหรือลักษณะการร้องแต่ละแบบ บอกกับเราได้ดังนี้
1. หิวนม
ส่วนใหญ่ เด็กมักจะส่งเสียงร้องไห้เพราะหิวนม เนื่องจากเด็กมีกระเพาะอาหารที่เล็กมาก ๆ เด็กจึงอิ่มไวและหิวไว แม้เราจะเพิ่งให้นมไปไม่นาน แต่อีก 2 ชั่วโมงถัดมา ลูกก็อาจจะหิวอีกรอบ
2. เพลียและเหนื่อย
เด็กทารกอาจร้องไห้ เพียงเพราะแค่ต้องการนอน เหนื่อย และเพลีย ให้คุณแม่ลองสังเกตดูว่า ลูกร้องไห้ พร้อมกับมีท่าทีไม่สนใจของเล่นหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่าถึงเวลาเข้านอนแล้วล่ะค่ะ
3. ไม่สบายตัว
หากเด็กต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อากาศร้อน อากาศหนาว หรือผ้าอ้อมเปียกชื้น เป็นต้น อาจทำให้ทารกเกิดความไม่สบายตัว ดังนั้น จึงพยายามส่งเสียงร้องเพื่อบอกคุณแม่ เบื้องต้น คุณแม่ควรลองเช็คอุณหภูมิห้องดูก่อน ว่าเปิดแอร์เย็นเกินไปหรือห้องอากาศร้อนอบอ้าวเกินไปหรือไม่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ทำไมทารกร้องไห้หลังกินนม ลูกดูดนมแล้วร้องไห้เป็นเพราะอะไร??
เสียงร้องไห้ เด็ก แบบไหน ไม่ปกติ อันตราย ลูกร้องไห้ไม่หยุด ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ
4. ถูกกระตุ้นมากเกินไป
เด็ก ๆ อาจอยู่ในสภาวะที่มีสิ่งรบกวน หรือสิ่งมากระตุ้นมากเกินไป เช่น อยู่ในห้องที่เสียงดัง มีคนรุมล้อมจะเล่นด้วยเยอะ หรือได้ยินเสียงดนตรีดัง เป็นต้น ทำให้เด็กรำคาญใจ และเริ่มร้องโยเย ซึ่งการพาเด็กออกจากสถานที่ที่มีเสียงอึกทึกโครมครามจะช่วยให้เด็กรู้สึกดีขึ้นได้
5. อยากให้อุ้ม
เด็กบางคนชอบให้กอด ชอบให้อุ้ม และชอบอ้อนตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเมื่อโดนอุ้ม เด็กจะรู้สึกปลอดภัย อบอุ่นและสบายใจนั่นเอง
6. รู้สึกกลัว
เด็กทารก อาจร้องไห้เพราะรู้สึกกลัว หรือเมื่อต้องเจอสิ่งที่ไม่คุ้นเคย เช่น โดนคนแปลกหน้าอุ้ม หรือเจอเสียงอะไรแปลก ๆ ดัง ๆ อยู่ใกล้ตัว เป็นต้น
7. สภาพแวดล้อมใหม่
ทารกแรกเกิด ยังไม่คุ้นชินกับสภาวะหลังคลอด เพราะสิ่งแวดล้อมรอบนอก ค่อนข้างแตกต่างจากท้องของแม่ จึงต้องใช้เวลาสักระยะ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับโลกภายนอก และบุคคลในครอบครัว ทั้งด้านร่างกาย และอารมณ์
8. เจ็บป่วย
อีกสาเหตุหนึ่งที่มักทำให้เด็กร้องงอแง คือ อาการเจ็บป่วยของเด็ก ๆ เด็กทารกอาจร้องไห้เพราะเจ็บ มีบาดแผล หรือมีอาการป่วย เช่น ท้องอืด เป็นไข้ ตัวร้อน เป็นต้น จึงแผดเสียงร้องไห้ไม่ยอมหยุด ซึ่งคุณแม่อาจจะลองตรวจดูตามร่างกายเด็ก ๆ ดูก่อน ว่าเกิดแผล มีสิ่งผิดปกติติดอยู่ตามร่างกายเด็กหรือไม่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ลูกงอแง ร้องไห้โยเย อาจเป็นเพราะผื่นผ้าอ้อมทำให้ลูกรักไม่สบายตัว
เด็กร้องไห้แบบไหนถึงเป็นโคลิค ? เสียงร้องไห้ เด็ก แบบไหน ไม่ปกติ อันตราย ลูกร้องไห้ไม่หยุด ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ
เด็กร้องไห้แบบไหน ถือว่าอันตราย
การร้องไห้ของทารกแต่ละคน มีความแตกต่างกัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการเด็ก ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลใจ เด็กบางคนอาจร้องไห้เป็นเวลานาน แต่เด็กบางคนก็ร้องไห้น้อย อย่างไรก็ตาม เสียงร้องไห้ หรืออาการขณะร้องไห้ของเด็กบางอย่าง ก็บอกได้ว่าลูกเป็นโรคร้ายที่เรียกว่า โคลิค
โรคโคลิค เป็นโรคที่มักเกิดขึ้นได้กับเด็กแรกเกิดที่อายุได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ รวมไปถึงเด็กที่มีอายุราว ๆ 3 เดือน อาการของโรคนี้ สังเกตได้ง่าย ๆ คือ เด็กจะร้องไห้หนัก และร้องนานกว่า 3 ชั่วโมงโดยไม่มีสาเหตุ หรือบางครั้ง เด็กอาจร้องไห้ติดต่อกันหลายวันเป็นสัปดาห์ และจู่ ๆ ก็มักจะหยุดร้องในทันที ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอาการน้อง ๆ ให้ดีด้วยว่า การร้องไห้ของลูกน้อยนั้น ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเรื่องอื่น ๆ เช่น หิวนม ไม่สบายตัว เป็นหวัด เป็นต้น โดยในปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ที่ทำให้เด็ก ๆ เป็นโรคนี้
ลูกร้องไห้แบบไหน ต้องพาไปหาหมอ
หากลูก ๆ ร้องไห้ และมีอาการต่อไปนี้ ต้องพาไปหาหมอโดยด่วน
- ร้องไห้ติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมทั้งมีไข้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ผิวคล้ำหรือซีด
- ไม่ยอมกินนมตามปกติ หรือกินได้น้อยลงเกินครึ่งหนึ่งของปริมาณปกติ
- เด็กร้องไห้ไม่ยอมหยุด ไม่ว่าจะปลอบยังไงก็ตาม
- เด็กไม่ตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
นอกจากนี้ หากคุณแม่คนไหน เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับอาการโคลิคและความผิดปกติของลูกน้อย รวมทั้งลูกร้องไห้บ่อย จนไม่สามารถปลอบให้เด็กสงบลงได้ ควรรีบพาเด็กเข้าพบหมอในทันทีค่ะ
ข้อแนะนำในการดูแลเด็กเมื่อเด็กร้องไห้
เมื่อลูก ๆ ร้องไห้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การร้องไห้เป็นเรื่องปกติของทารกแรกเกิด ทารกแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนอาจร้องไห้นานกว่าเด็กอีกคน ซึ่งเราเองควรพยายามตอบสนองอย่างอ่อนโยน ไม่โมโหรุนแรงหรือตีลูก หากเหนื่อยเกินไป ก็ให้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือคนในครอบครัว ให้ช่วยดูแลลูกน้อยเป็นครั้งคราวได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กจะร้องไห้น้อยลงเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เทศกาล เด็กร้องไห้ Naki Sumo เด็กคนไหนร้องไห้ก่อน คนนั้นชนะ
เสียงร้องไห้ เด็ก แบบไหน ไม่ปกติ อันตราย เสียงร้องไห้ แบบไหน บอกว่าเด็กเป็นโคลิค ปรับตัวอย่างไรไม่ให้หัวเสียเมื่อลูกร้องไห้ ลูกร้องไห้ไม่หยุด ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ลูกร้องไห้ไม่ยอมนอน
นอกจากนี้ การดูแลตนเองให้อยู่ในสภาพพร้อม ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ตนเองหิว หรือนอนหลับไม่เพียงพอ จนอาจโมโหลูกได้ง่าย ในปัจจุบัน มีศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงลูกมากมายที่คอยให้คำแนะนำเมื่อเกิดปัญหากับลูกน้อย ทั้งโรงพยาบาลของรัฐบาลและเอกชน รวมไปถึงสายด่วนขององค์กร โรงพยาบาล หรือมูลนิธิ เช่น สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือสายด่วนโรงพยาบาลเด็ก โทร. 1415 เป็นต้น หากคุณแม่ไม่สบายใจและต้องการปรึกษาใครจริง ๆ ก็สามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเหล่านี้ได้ทุกเมื่อนะคะ
ที่มา : pobpad , thairath
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกร้องไห้ขณะนอนหลับ มีสาเหตุมาจากอะไร? ฝันร้ายหรือเปล่า
ลูกนอนละเมอ ร้องไห้ ฝันร้าย เดินละเมอ อันตรายไหม ดูแลและป้องกันอย่างไร
เผยเทคนิค หยุดน้ำตาเจ้าตัวเล็ก จบปัญหา ลูกร้องไห้ไม่หยุด พาพ่อแม่แฮปปี้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!