การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่ว่าที่คุณแม่อยากรู้สงสัย เมื่อตั้งครรภ์แล้ว ไม่ใช่แค่ท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่มีการเปลี่ยนแปลงของสรีระร่างกายคนท้องนั้นหลาย ๆ ส่วนภายในร่างกายตลอดการตั้งครรภ์ ดังนั้น บทความวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันค่ะ ว่าจะมีร่างกายส่วนไหนเปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อที่คุณแม่จะได้รับมือได้ดีขึ้น มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์ สรีระภายนอกจะเป็นอย่างไรบ้าง
![การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2020/11/Body-Changes-1.jpg?width=700&quality=10)
ปัสสาวะบ่อย
ในช่วงปลายไตรมาสแรกคุณจะรู้สึกอยากปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากมดลูกที่โตขึ้นดันไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ คุณอาจปัสสาวะรั่วเล็กน้อยเมื่อไอ หรือจาม
เส้นเลือดขอด
การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์ ที่คุณแม่หลายคนเจอ คือ มีเส้นเลือดขอดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าอาจเกิดจากการที่คุณแม่มีเส้นเลือดขอดที่ยังไม่แสดงอาการอยู่เดิม แต่ด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดดำบางลงจนมีอาการอย่างชัดเจน อีกประการหนึ่งก็เชื่อว่ามดลูกที่มีขนาดและน้ำหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจกดทับบนหลอดเลือดดำใหญ่ซึ่งอยู่ในช่องท้อง ทำให้เลือดดำไม่สามารถกลับสู่หัวใจได้เต็มที่จึงเกิดการคั่งของเลือดอยู่บริเวณขาและเท้า และแสดงอาการออกมาชัดเจนระหว่างการตั้งครรภ์
ผิวหนัง
สีผิวคล้ำขึ้นกว่าปกติ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนที่กระตุ้นเมลานิน (serum melanin stimulating hormone) ฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) พบได้ประมาณ ร้อยละ 90 ของหญิงตั้งครรภ์ โดยผิวหนังบริเวณลานนม อวัยวะเพศ ดำคล้ำขึ้น และเส้นขาวกลางหน้าท้องก็กลายเป็นเส้นสีดำ (linea nigra) แต่รอยดำจะจางลงหลังคลอด
![การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2020/11/changes-during-pregnancy-1.jpg?width=700&quality=10)
หน้าท้องแตกลาย
รอยแตกของผิวหนัง พบได้บ่อยมากกว่าครึ่งหนึ่งของสตรีตั้งครรภ์ มักเกิดบริเวณท้อง เต้านม ก้นและต้นขา ลักษณะเป็นแนวเส้นสีแดง และจะเปลี่ยนเป็นสีเงินจาง ๆ ตอนหลังคลอด เป็นลักษณะที่เรียกว่า ท้องลาย (stretch mark)
เส้นผม
เส้นผม หรือขนขึ้นมากผิดปกติ หรือขึ้นผิดตำแหน่ง มักพบบริเวณหน้า และอาจพบได้ที่แขน ขา และหลัง อาการจะหายไป 6 เดือนหลังคลอด นอกจากนี้บางราย อาจผมร่วงจากความผิดปกติของฮอร์โมน มักพบลักษณะการร่วงที่บริเวณเหนือขมับ โดยหลังคลอดแล้ว อาการมักจะหายเป็นปกติ หรืออาจไม่หายก็ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องผมร่วง แก้ไขยังไง วิธีรับมือกับผมร่วงในช่วงตั้งครรภ์ อย่างถูกวิธี
เล็บ
พบการเปลี่ยนแปลงของเล็บได้หลายแบบ เช่น เกิดร่องตามขวางของเล็บ ส่วนปลายของเล็บยก เนื้อใต้เล็บหนาขึ้น และเล็บยาวเร็วขึ้น
เต้านม
เมื่อทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์ ของเต้านม คือ จะเริ่มเจ็บ ๆ คัด ๆ ตึง ๆ หน้าอก เพราะหน้าอกกำลังเริ่มขยายซึ่งสามารถเปลี่ยนขนาดขยายขึ้น
- เดือนแรก ส่วนของท่อน้ำนมจะแตกตัวขึ้น รวดเร็วอย่างมาก ท่อน้ำนมจะเจริญไปจนถึงส่วนปลาย และกลีบต่อมน้ำนมที่เป็นตุ่มเล็ก ๆ ก็จะเริ่มขยายตัวตามมากขึ้น
- เดือนที่สอง เต้านมจะใหญ่ขึ้นชัดเจน สีของวงปานนมจะเริ่มเข้ม คล้ำขึ้น
- เมื่อเลย 4 เดือนไปแล้ว กลีบต่อมน้ำนมจะเริ่มขยายและมีเซลล์ต่อมน้ำนมเกิดขึ้นชัดเจน ต่อมน้ำนมจะสร้างน้ำคัดคลั่งที่เป็นสีใสขุ่น แต่ยังไม่เป็นสีน้ำนม ซึ่งน้ำคัดหลั่งนี้อุดมด้วยสารภูมิต้านทานและเซลล์เม็ดเลือด และไขมัน ซึ่งเราเรียกว่า โคลอสตรัม (colostrum)
- เมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6 เดือน ต่อมน้ำนมจะขยายเพิ่มขึ้น มีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นจนเห็น เส้นเลือดดำใต้ผิวหนังขยาย รวมทั้งมีเซลล์กล้ามเนื้อรอบ ๆ ท่อน้ำนมหนาตัวขึ้น เพื่อพร้อมให้นมลูกต่อไป น้ำคัดหลั่งโคลอสตรัมก็จะเพิ่มจำนวน ถ้าบีบหัวนมก็จะมีน้ำขุ่น ๆ ไหลออกมาได้
ช่องคลอด
เยื่อบุช่องคลอดของคุณจะหนาขึ้น ช่องคลอดมีการยืดขยายของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำให้ผนังช่องคลอดหนาขึ้น ยาวขึ้น นุ่มลง มีเส้นเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น ทำให้มีสีคล้ำเรียกว่า Chadwick’s sign อาจมีตกขาวมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นปกติระหว่างตั้งครรภ์ เพราะฮอร์โมนจะเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงจะสูงขึ้นกว่าปกติ แต่หากตกขาวแล้วมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น คันบริเวณช่องคลอด ปัสสาวะแสบขัด ควรรีบไปพบแพทย์ อาจมีการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ช่องคลอดแห้งปัญหาใหญ่ สาเหตุของอาการช่องคลอดแห้งคืออะไร?
น้ำหนักเพิ่มขึ้น
ค่าเฉลี่ยของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ของคนไทยควรเพิ่มประมาณ 12-15 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นกับน้ำหนักและรูปร่างก่อนการตั้งครรภ์ โดยในไตรมาสที่ 1 การเจริญเติบโตของทารกยังน้อย ประกอบกับยังเป็นช่วงที่มีอาการแพ้ท้อง การเปลี่ยนแปลงของร่างกายยังไม่มากนัก น้ำหนักอาจจะคงที่หรือเพิ่มเพียง 1-2 กิโลกรัม ส่วนในไตรมาสที่ 2 และ 3 นั้น การตั้งครรภ์ที่มีความคืบหน้าไปมากขึ้น น้ำหนักควรจะเพิ่มขึ้นได้ ประมาณไตรมาสละ 5 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นจากตัวทารกประมาณ 3 กิโลกรัม รก และ น้ำคร่ำประมาณ 3-5 กิโลกรัม ส่วนที่เหลือจะเป็นน้ำหนักจากการขยายตัวของมดลูก เต้านม และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย
![การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2020/11/changes-during-pregnancy1-1.jpg?width=700&quality=10)
หน้าท้องใหญ่ขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์ อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว ที่หน้าท้องจะต้องโตขึ้น ขยายขึ้น เมื่อทารก และมดลูกขยายใหญ่ขึ้น แต่หน้าท้องจะขยายขึ้นมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสรีระ รูปร่างก่อนตั้งครรภ์ด้วย บางคนอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นมาก จนกว่าจะถึงไตรมาสที่สอง
ระบบทางเดินหายใจ
มดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามอายุครรภ์ จะเบียดดันให้ลำไส้ในช่องท้องเคลื่อนหลบมาทางด้านบน บริเวณใต้กะบังลม กะบังลมที่ถูกเบียดจะทำให้รู้สึกหายใจอึดอัด โดยเฉพาะเวลานอน แต่ปอดยังคงความสามารถในการแลกเปลี่ยนก๊าซได้เหมือนเดิม โดยปรับปริมาณอากาศขณะหายใจเข้าและออกและอัตราการหายใจอย่างเหมาะสม
กระดูกและโครงร่าง
มดลูกที่ขยายขนาดขึ้นพร้อมกับทารกและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น มีผลต่อน้ำหนักตัวหญิงตั้งครรภ์ที่มากขึ้น การเพิ่มของน้ำหนักที่ท้อง คือ ส่วนด้านหน้าของร่างกาย ทำให้สมดุลของร่างกายในแนวหน้า-หลังเสียไป ลำตัวจะถูกโน้มมาทางด้านหน้ามากขึ้นตามน้ำหนักที่ถ่วงทางด้านหน้า ร่างกายจะมีการปรับแนวแกนกระดูกสันหลังเพื่อรักษาสมดุลใหม่ไปทางด้านหลังเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาแนวรวมของร่างกายไม่ให้ล้มไปทางด้านหน้า เมื่อมองจากทางด้านข้างจะเป็นเหมือนการเอนส่วนบนของร่างกายไปทางด้านหลังเพิ่มขึ้นใน ลักษณะการยืนแอ่น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อได้
แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ร่างกายก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น ยิ่งเมื่อมีอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นร่างกายบางส่วนก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น หน้าท้องที่นูนขึ้นมาชัดเจน น้ำหนักตัวของคุณแม่ที่เริ่มมีการเพิ่มขึ้น อาจมีอาการผมร่วงเกิดขึ้น รวมถึงบางคนก็อาจจะมีหน้าท้องแตกลาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะต้องพบเจอ ซึ่งแต่ละคนก็จะพบเจอความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกันค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
8 เคล็ดลับ คนท้องผิวใส ปลอดภัยต่อเบบี๋ ท้องอยู่ก็สวยได้
8 พฤติกรรมของคนท้องขี้หงุดหงิด ก็คงได้แต่บ่นว่า “ท้องอยู่นี่ทำไงได้!”
11 สิ่งที่แม่ท้องต้องรู้ น้ำหนักตอนท้อง แท้งคุกคาม วิธีเร่งคลอด โดยคุณหมอสูติ
ที่มา : familydoctor, happymom.life
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!