คุณแม่หลังคลอด สภาพร่างกายนั้นไม่ต่างจากคนป่วย เนื่องจากเพิ่งผ่านการคลอดบุตร สภาพร่างกายและจิตใจค่อนข้างอ่อนแอมาก ไหนจะต้องให้นมลูกซึ่งร่างกายมีการใช้พลังงานอย่างมาก ดังนั้นจึงมีโปรแกรมต่างๆ ที่ออกมานำเสนอฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอดออกมาให้เห็นมากมาย ทั้งวิถีแบบไทยโบราณ แบบแผนปัจจุบัน และวิถีแบบชาวจีน ซึ่งอย่างหลังนี้เราไม่ค่อยได้พบเจอกันมานัก จึงอยากให้คุณแม่มารู้จักไปพร้อมๆ กัน
บทความที่เกี่ยวข้อง: รู้ไว้ซะ!! 6 วิธีดูแลตัวเองหลังคลอด ที่คุณแม่ควรทำ
คุณแม่หลังคลอด มีระยะเวลาพักฟื้นเท่าไร?
ไม่ว่าจะเป็นการคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด ย่อมต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาลช่วงแรก แต่ระยะหลังเราจะเห็นว่า คุณแม่ส่วนใหญ่แข็งแรงมากขึ้น สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เพียงไม่กี่วัน แต่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูทางด้านจิตใจที่เหนื่อยล้ามานาน จึงต้องการการเอาใจใส่และประคับประคองเป็นพิเศษ โดยทั่วไปถือว่า 5-6 สัปดาห์เป็นระยะเวลาที่นานเพียงพอสำหรับร่างกายค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพปกติ ทั้งนี้เราต้องมีวิธีดูแลตัวเองหลังคลอด ซึ่งในปัจจุบันคุณแม่ได้หันมาสนใจวิถีแบบจีนมากขึ้น
วิธีดูแลตัวเองหลังคลอดแบบจีนน่าสนใจอย่างไร?
เราเคยได้ยินการแพทย์แผนจีนอยู่บ้าง ทั้งการนวดกดจุด การฝังเข็ม ซึ่งถ้าพูดถึงวิถีชาวจีนนั้นมีความน่าสนใจ เกี่ยวกับการดูแลคุณแม่หลังคลอดหรือแบบไทยคือการอยู่ไฟ อยู่ตรงที่เชื่อว่า หากผู้หญิงไม่ได้รับการดูแลที่ดี ก็อาจจะทำให้เกิดอาการต่างๆ คือ สภาวะไม่สมดุลของร่างกายที่เห็นได้ชัด
- พลัง “ชี่” และเกิดภาวะเลือดพร่อง เกี่ยวกับความงาม เช่น ผิวพรรณแห้งด้าน หยาบ ท้องผูก ใบหน้าเกิดฝ้าหนา และผมร่วง
- ความ “เย็น” จากภายนอกรุกรานสู่มดลูก ทำให้เกิดอาการหนาวสั่น มือเท้าเย็นทั้งที่สภาพอากาศปกติ
- เลือดติดขัดที่ส่วน “เซี่ยเจียว” คือ การทำงานของกระเพาะปัสสาวะที่จะขับน้ำปัสสาวะ และลำไส้ใหญ่จะขับกากอาหารออกไปนอกร่างกาย จึงเปรียบเหมือนท่อระบายน้ำเสีย
การดูแลหลังคลอดสมัยราชวงศ์ฮั่น
คนไทยโบราณจะใช้วิธีการอยู่ไฟ โดยการนอนบนแคร่ที่มีเตาไฟรมสมุนไพรอยู่ใต้แคร่ เพื่อให้ร่างกายได้ขับของเสียออกมาทางเหงื่อ มีการนวดประคบ ดื่มและอาบน้ำอุ่น ตลอด 7 วัน แต่ตำรับชาวจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นไม่ต้องนอนอังไฟ แต่ใช้สมุนไพรจีนดูแลสุขภาพคุณแม่หลังคลอด โดยใช้ยาจีนขับน้ำคาวปลา ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ บำรุงร่างกายให้คุณแม่ฟื้นฟูเข้าสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด
สมุนไพรปรุงยาเพื่อคุณแม่หลังคลอด
เรื่องสมุนไพรจีนนั้น ได้รับการยอมรับมานับพันปี โดยสมุนไพรที่ชาวจีนนำมาปรุงเป็นยาให้ผู้หญิงหลังคลอดได้แก่ ดอกคำฝอย โกฐเชียง เหง้าขิงแห้ง ล้วนมีฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดท้องหลังคลอด ช่วยขับลม แก้ท้องอืด บรรเทาอาการไข้ รวมทั้งกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนได้ดี ไม่ให้เกิดเลือดลมเป็นพิษ
บทความที่เกี่ยวข้อง: คู่มือดูแลตัวเองหลังคลอด ข้อควรปฎิบัติอะไรบ้างที่คุณแม่ต้องรู้!
อาหารที่ควรงดตามตำรับชาวจีน
ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย และรับประทานยาปรุงสมุนไพร คุณแม่ควรงดรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น และอาหารดิบ เช่น แตงโม ส้ม ฟัก สาลี่ มะระ น้ำเย็น สลัดผัก รวมถึงอาหารที่มีรสเผ็ด เค็ม หวาน เปรี้ยว และอาหารไขมันสูง นอกจากนี้คุณแม่ไม่ควรทำงานหนัก ไม่ของหนัก ไม่ยืนนานเกินไป ไม่อาบน้ำเย็น และไม่ตากลมตากฝน เป็นต้น
อาหารที่ชาวจีนนิยมรับประทานหลังคลอด
1. หลังคลอดสัปดาห์แรก
คุณแม่ควรพักผ่อนให้มาก อาจจะรับประทานยาจีนแซฮ้วยทึง เพื่อช่วยในเรื่องของการขับน้ำคาวปลา และไม่ควรรีบรับประทานอาหารที่ช่วยเร่งน้ำนมเกินไป เพราะในช่วงนี้ท่อน้ำนมของคุณแม่จะขยาย หากรีบเร่งน้ำนม ก็จะทำให้ท่อน้ำนมอุดตัน บวมและตึงคัดได้ง่าย ดังนั้น ควรกินอาหารรสชาติอ่อนๆ และย่อยง่าย เพื่อฟื้นฟูการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่
2. หลังคลอดแล้วเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2
คุณแม่สามารถเริ่มรับประทานอาหารที่ช่วยในการกระตุ้นการสร้างน้ำนมเช่น คากิต้มถั่วลิสง ซุปปลา ซุปกระดูกหมู นมสด ส่วนอาหารที่ช่วยให้มดลูกเข้าอู่และฟื้นฟูร่างกาย เช่น น้ำมันงาผัดตับหรือเซียงจี๊ ไก่แก่ผัดน้ำมันงา ไข่ไก่ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ข้าวเหนียว รากบัว ผัก ผลไม้ และมักใช้ขิง เหล้าหรือเครื่องยาจีนในการประกอบอาหาร เป็นต้น
ระหว่างพักฟื้นร่างกาย คุณแม่ควรทำจิตใจให้แจ่มใส อาบน้ำอุ่น ไม่แช่ตัวในอ่างน้ำ หากสระผมก็ควรรีบเป่าผมให้แห้งอย่าปล่อยทิ้งไว้ ทั้งนี้คอยสังเกตน้ำคาวปลาว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น มีกลิ่นมากไหม มีมากเกิน 3 สัปดาห์หรือเปล่า และมีไข้ขึ้นหรือไม่ หากมีอาการดังที่กล่าวไปแล้วนั้น คุณแม่ควรไปพบแพทย์ทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง: ดูแลตัวเองหลังคลอด ด้วย 7 วิธีนี้ รับรองกลับมาสวยเร็วชัวร์!
กระเพาะปลา
กระเพาะปลา เมนูอร่อยสำหรับคุณแม่
เราคงเคยได้กินกระเพาะปลากันบ่อยเวลาไปเที่ยวเยาวราชหรือรับประทานอาหารจีนตามร้านทั่วไป ซึ่งเมนูกระเพาะปลาแท้ๆ ไม่ใช่หนังหมู แต่เป็นสมุนไพรที่ชาวจีนนิยมใช้บำรุงสำหรับคุณแม่หลังคลอด ควรรับประทานหลัง 10-12 วันขึ้นไป หรือรอจนน้ำคาวปลาหมดก่อน
- ช่วยการบำรุงหยินในไต บำรุงตับ ช่วยห้ามเลือด ทำให้แผลแห้งเร็ว ไม่เป็นพังผืดลดโอกาสการเป็นแผลเป็นจากการผ่าตัดลง
- กระเพาะปลาช่วยบำรุงไตให้แข็งแรง ช่วยสร้างเลือดทดแทนที่สูญเสียไป ทำให้ร่างกายฟื้นตัว ดังนั้นคุณแม่จะกลับมาแข็งแรงเร็วขึ้นกว่าปกติ
- กระเพาะปลาอุดมไปด้วยคอลลาเจน สร้างเนื้อเยื่อและเซลล์จึงเหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก
***สามารถรับประทานติดต่อกันได้นาน 3 นาน โดยกินอาทิตย์ละ 3-2 ครั้งเท่านั้น
บทความที่น่าสนใจ:
แม่หลังคลอดท้องผูก ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุดยังไง!
หนาวใน VS หนาวสั่นหลังคลอด ต่างกันไหม
สุขภาวะกายและใจ ของแม่หลังคลอด 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 65
ที่มา: sanook,trueid , orientalmed
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!