คนท้องเป็นไวรัสตับอักเสบบี
แม่จ๋ารู้ไหม คนท้องเป็นไวรัสตับอักเสบบี อันตรายส่งต่อจากแม่ท้องสู่ทารกในครรภ์ ลูกเสี่ยงโรคไวรัสตับอักเสบ บี เรื้อรัง พัฒนาเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับในอนาคต ท้อง เป็นไวรัสตับอักเสบบี ลูกเสี่ยงมะเร็งตับ อย่าทำร้ายลูกเลยนะแม่! ท้อง เป็นไวรัสตับอักเสบบี อันตรายส่งต่อ จากแม่ท้องสู่ทารกในครรภ์
ท้อง เป็นไวรัสตับอักเสบบี
จากการสำรวจความชุกของโรคไวรัสตับอักเสบ บี ในคนไทย พบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จากมารดาประมาณ 3,800 คนต่อปี ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงเดินหน้ากำจัดการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก เริ่มให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ ปีแรกนี้จะดำเนินการในพื้นที่ 12 จังหวัดนำร่องกระจายทุกภูมิภาค ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ดำเนินการ พร้อมตั้งเป้าลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้น้อยกว่าร้อยละ 0.1 ภายในปี 2568
ไวรัสตับอักเสบบีในหญิงตั้งครรภ์
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม เชิงปฎิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการป้องกันและดูแลรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ และการกำจัดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ว่า โรคไวรัสตับอักเสบ บี คือสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ เป็นปัญหาสาธารณสุขทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี สามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก และจะมีโอกาสเสี่ยงมากขึ้นเมื่อมารดาที่ติดเชื้อมีปริมาณไวรัสตับอักเสบ บี ในเลือดสูง
หากทารกติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจากมารดา จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ บี เรื้อรังมากถึงร้อยละ 90 และสามารถพัฒนาเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับในอนาคต
คนท้องเป็นไวรัสตับอักเสบบีถ่ายทอดจากแม่ท้องสู่ทารก
กำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขอความร่วมมือให้ทุกประเทศร่วมกันกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี โดยมีเป้าหมายให้ความชุกของการป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต่ำกว่าร้อยละ 0.1 ภายในปี 2573 คาดว่าประเทศไทยจะเป็นผู้นำด้านการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงตั้งเป้าไว้ว่าจะกำจัดการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ให้บรรลุได้ภายในปี 2568
วิธีกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก
ภายใต้การดำเนินงานตามแผนการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก และกำหนดมาตรการที่สำคัญ ได้แก่
- เร่งรัดการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี ในหญิงตั้งครรภ์ทุกราย
- ส่งเสริมให้ทารกแรกเกิดจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ได้รับ Hepatitis B Immunoglobulin (HBIG) อย่างน้อยร้อยละ 95
- ส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อและมีปริมาณไวรัสตับอักเสบ บี สูง ได้รับยาต้านไวรัส อย่างน้อยร้อยละ 95
- คงระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี ให้ได้มากกว่าร้อยละ 90
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กแรกเกิด
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีการป้องกันการเจ็บป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบ บี โดยใช้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กแรกเกิด จนมีความครอบคลุมการได้รับวัคซีนสูงกว่าร้อยละ 99 แต่ยังพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี มากกว่าร้อยละ 0.1 ชี้ว่าการป้องกันการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ยังจำเป็นต้องมีมาตรการเสริม นอกเหนือจากการใช้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี ได้แก่ การใช้ยาต้านไวรัส Tenofovir disproxil fumarate (TDF) แก่มารดา เป็นวิธีการที่เป็นที่ยอมรับ โดยในประเทศไทยมีการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศฝรั่งเศส (IRD) ซึ่งนักวิจัยทั้งชาวไทย อเมริกัน และยุโรป ร่วมกันศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของการใช้ยาต้านไวรัสดังกล่าว
ผลการวิจัยพบว่าในกลุ่มที่มารดาได้รับยาต้านไวรัสดังกล่าวเพิ่มเติมจากมาตรการอื่น ๆ ไม่มีทารกติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จากมารดาเลย เทียบกับกลุ่มที่มารดาได้รับยาหลอกที่พบการติดเชื้อจากมารดาร้อยละ 2 ในขณะที่การศึกษาวิจัยก่อนหน้านี้ได้รายงานอัตราการถ่ายทอดเชื้อที่สูงกว่านี้
คนท้องเป็นไวรัสตับอักเสบบี
ปี 2561 นี้ กรมควบคุมโรค ได้จัดทำ โครงการกำจัดการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานในลักษณะดังกล่าว โดยเริ่มให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ และในปีแรกนี้จะดำเนินการในพื้นที่ 12 จังหวัดนำร่อง เพื่อนำร่องระบบการดำเนินงานกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ได้แก่
- เชียงใหม่
- พิษณุโลก
- นครสวรรค์
- นนทบุรี
- ราชบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- ขอนแก่น
- อุดรธานี
- สุรินทร์
- อุบลราชธานี
- นครศรีธรรมราช
- สงขลา
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานกำจัดการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก ครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของมารดา และทารก อันเป็นกำลังหลักที่สำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ประสานงานโรคตับอักเสบจากไวรัส โทร. 0-2590-3196 หรือที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ที่มา : thaihealth.or.th/
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แจกตารางอาหาร สำหรับทารกแรกเกิดถึง 5 ขวบ ลูกน้อยควรกินเท่าไหร่ใน 1 วัน
คนท้องต้องตรวจอะไรบ้าง การตรวจโรคของ คนท้องแต่ละไตรมาส ฝากครรภ์ หมอตรวจอะไรบ้าง
ลูกดิ้นเพราะอะไร แม่ท้องแยกออกไหม บิดขี้เกียจ รำคาญ ชอบใจ หรือใกล้คลอด
สาเหตุ คนท้องเสียชีวิต ภาวะน้ำคร่ำอุดตันเส้นเลือดที่ปอด Amniotic Fluid Embolism
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!