โรคตับในเด็ก จากใจของแม่ที่ลูกป่วยเป็นตับแข็งระยะสุดท้าย
คุณแม่โพสต์ โรคตับในเด็ก สาระความรู้ที่จะเป็นวิทยาทาน ให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะมีลูก โดยได้ถ่ายทอดประสบการณ์ ที่คนเป็นแม่อ่านแล้วน้ำตาซึม ว่า
#สาระ ตับในเด็ก
#หากสาระนี้มีประโยชน์แชร์ได้คะมิ้มอนุญาต
จากใจของแม่คนหนึ่งที่มีลูกอายุ 9 เดือน ป่วยเป็นตับแข็งระยะสุดท้าย ไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องมาเป็น
ปัจจุบันเด็ก ๆ ที่เกิดมาล้วนมีโรคร้ายติดตัวมาแทบจะ 90% ก็ว่าได้ ส่วนมากล้วนเกิดจากพฤติกรรมการกิน
การใช้ของพ่อแม่ และพันธุกรรม
น้องเจ้นใสคือ 1 ใน 10,000 คนที่เป็น #โรคตับแข็ง ในเด็ก และ
#เป็นคนเดียวในประเทศ ที่เป็นตับแข็งแบบไม่มีสาเหตุ
ส่วนมากเด็กที่เป็นโรคนี้ต้องมีภาวะท่อน้ำดีตีบหรือตัน หรือ
#การกินยาพาราแก้ไข้จำนวนมากแบบสะสม
หากลูกหลานคุณป่วยจงจำไว้ เช็ดตัวเอาเถอะ อย่าปลูกฝังการกินยาพารา ยาแก้ไข้ มันล้วนแต่มีโทษ
ส่วนเจ้นใสเป็นได้อย่างไร ทำไมถึงเป็น ???
คำถามนี้ยังเป็นคำถามคาใจของมิ้ม และทางหมอจาก รพ.รามา เองก็ยังหาสาเหตุของน้องไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าตรวจพบเจอค่าเหลืองที่ตับในอายุ 2 เดือน ส่วนมากเด็กที่มีค่าเหลืองจากตับจะเป็น ท่อน้ำดีตีบตัน 99% มีตัวตาเหลืองถ่ายซีดสีขาว และต้องรีบผ่าตัดก่อนอายุ 2 เดือน และจะต้องผ่าตัดปลูกถ่ายตับอีกครั้งในตอนโต แต่สำหรับน้องเจ้นใส ตรวจทุกอย่างแล้วกลับไม่เจอสาเหตุ พบแต่ว่ามีการอักเสบที่ตับ มิ้มพาน้องเข้ารักษารับยาตามนัดทุกเดือนเป็นเวลา 6 เดือนเต็มจากวันที่รู้ว่าน้องเป็น
เจ้นใสเป็นเด็กที่อดทนมาก ๆ และเข้มแข็งมากคนนึง เขาสู้กับโรคและอาการของเขามาตลอด 6 เดือนจากวันที่เป็น มีครั้งนึงที่ป่วยติดเชื้อ Rsv ทางเดินหายใจ แต่น้องก็หายปกติไม่มีอะไร และจะมีบ้างที่ไข้สูง หาหมอกินยาฆ่าเชื้อก็หายไป จนเข้าอายุน้อง 9 เดือนเต็ม อยู่ ๆ น้องก็มีอาเจียนและถ่ายถี่มาก มิ้มกลัวน้องขาดน้ำ เลยรีบพาไปหาหมอเอกชนแห่งหนึ่ง ก็พบว่า น้องเกลือแร่ในร่างกายต่ำมาก ถ้าไม่พามาหาหมอ น้องอาจชักหมดสติสมองบวม เลยต้องรีบส่งน้องมารักษาต่อที่ รพ.พุทธชินราช
นอนอยู่ได้ 7 วัน น้องมีอาการบวมน้ำเกลือเพราะโดยปกติ คนเป็นตับจะต้องเลี่ยงพวกเกลือ และโซเดียม แต่ด้วยน้องมาด้วยเคสเกลือแร่ต่ำจึงต้องให้น้ำเกลือ ตอนนั้นมิ้มตกใจมาก น้องบวมมากทั้งตัวบวมแบบอึ่งอ่างจะแตก หมอรีบแก้ผลกระทบตรงนี้นอนรักษาต่ออีก 13 วัน จนอาการดีขึ้น จนคิดว่าน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่อยู่ ๆ น้องก็มีอาการเดิมขึ้นมาอีก อาเจียนและถ่ายทั้งวัน ตกเย็นวันนั้น น้องซึมมากเพลียมาก เสียงร้องงอแงไม่มี มีแต่ความกระวยกระวาย ให้กินนมก็ทำท่าเหมือนจะกินแต่ผลัก ๆ ถีบ ๆ มิ้มเอะใจเลยบอกพยาบาลให้มาดู จนต้องส่งเข้า ICU วันนั้นมิ้มไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะตกใจกับสิ่งที่น้องเป็น
น้องนอนแบบคนไร้สติ ตาค้าง ทั้งคืน น้ำตาความเป็นแม่กลั้นไม่อยู่นั่งกระวนกระวายทั้งคืน จนตี 2 น้องเริ่มรู้สึกตัวมีเสียงอือ ๆ ออกมา พร้อมกระทุ้งขา มิ้มรีบเข้าไปอุ้ม น้องรู้สึกได้ว่ามิ้มอยุ่ตรงนั้น เขาเอาหน้ามาซบ แล้วค่อย ๆ หลับตาลงไป หลังจากตาค้างมาทั้งคืน จนแจ้งน้องตื่นมาพร้อมสายตาปกติ วันนั้นหมอได้เจาะท้องเอาน้ำระบายออก พุงน้องเริ่มยุบและรอส่งตัวมาต่อที่ รพ.มนเรศวร มานอนได้ 2 คืนอาการดีขึ้น
แต่อาการต้องดูวันต่อวัน เพราะตอนนี้ตับน้องถูกทำลายไปเยอะมากแทบไม่มีพื้นตับดีในร่างกาย น้องเป็นตับระยะสุดท้าย ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก เม็ดเลือดแดงแตก มีอาการซีดหนักมาก ต้องให้เลือด ยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน มีไข้ขึ้น ๆ ลง ๆ มากไปกว่านั้น ยังมีธาลัสซีเมียแฝงตัวอยู่ด้วย ต้องรักษาประคับประคอง หมอพยายามช่วยเต็มที่เพื่อให้น้องมีชีวิตถึงวันที่จะต้องปลูกถ่ายตับกับมิ้ม (ก็คือเลาะตับเดิมน้องออกและแบ่งตับส่วนนึงของมิ้มไปใส่แทนของน้อง)
อาการน้องตอนนี้มิ้มบอกโดยรวมไม่ได้ แต่ละวันไม่เหมือนกัน รู้แต่ว่า รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกมิ้มแทบไม่เห็นเลยช่วงนี้ น้ำหนักน้องลดลงมาก จากเด็กอ้วนจ้ำหม่ำ ผิวขาว ก็หายไปทันตา ผอมและดำมากจนเป็นคนละคน
ตอนนี้น้องออกจากห้อง ICU มาอยู่ห้องรวมปกติแต่เป็นห้องแยกโรค เพราะภูมิน้องต่ำไม่สามารถไปรวมกับใครได้ เพราะกลัวน้องจะติดเชื้อขึ้นมาอีก น้องนั่งได้กินนมได้แล้วปกติ แต่ยังอาการงอแงและซึมบ้างนิดหน่อย
มิ้มบอกน้องให้แล้วนะคะ สำหรับกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้ ก่อนนอนมิ้มกระซิบบอกน้องทุกคืนว่า ทุกคนรอให้เจ้นใสกลับมายิ้มหัวเราะและเล่นได้แบบเดิม เจ้นใสต้องสู้ต้องเข้มแข็งและเจ้นใสต้องทำได้
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณหลาย ๆ คนที่ส่งข้อความเข้ามาแนะนำหมอแพทย์ทางเลือก หมอบ้าน หมอกะลา และยากินยาต้มนะคะ แต่น้องไม่สามารถกินอะไรได้เพราะตับจะเสียไปมากกว่านี้ และน้องไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลโดยพลการ ที่จะไปรักษาตามที่หลาย ๆ คนชี้แนะได้ค่ะ
ขอบคุณความรักหวังดีห่วงใย และกำลังใจจากใจอีกครั้งนะคะ ❤️❤️
ทางทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวนี้นะคะ ขอให้น้องกลับมาสดใส แข็งแรงได้ในเร็ววันนี้ค่ะ
อ่านโรคตับเกิดได้ในเด็ก ต่อหน้าถัดไป
โรคตับเกิดได้ในเด็ก ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่ชอบดื่มเหล้า
รศ.พญ.วรนุช จงศรีสวัสดิ์ กุมารแพทย์ระบบทางเดินอาหารในเด็ก โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายถึงหน้าที่ของตับว่า ตับเป็นอวัยวะอยู่ในช่องท้องด้านบนขวา มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง เช่น รับเลือดจากลำไส้ซึ่งมีสารอาหารจำนวนมากและส่งผ่านสารอาหารเหล่านี้ไปยังร่างกายส่วนอื่น ทำลายสารพิษในเลือดที่มาจากลำไส้ ผลิตน้ำดีแล้วส่งน้ำดีผ่านมาตามท่อน้ำดีมาเก็บที่ถุงน้ำดี เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีไขมันถุงน้ำดีจะหดรัดตัว ทำให้น้ำดีไหลผ่านท่อน้ำดีลงมายังลำไส้เล็กเพื่อช่วยในการย่อยและดูดซึมไขมัน ผลิตสารที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว
เด็กเล็กที่ป่วยเป็นโรคตับอาจมีอาการดีซ่าน คือตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง ถ้าเป็นโรคตับเรื้อรัง เด็กอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- ท้องโต เกิดจากภาวะท้องมานคือ มีน้ำในช่องท้อง หรือเกิดจากตับและม้ามมีขนาดใหญ่ขึ้น
- ขาหรือหน้าบวม เกิดจากการที่ตับไม่สามารถสร้างโปรตีนได้
- ผอม แขนขาลีบ เกิดจากการที่รับประทานอาหารได้น้อยลงร่วมกับร่างกายเผาผลาญสารอาหารมากกว่าปกติ
- อาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำเกิดจากเส้นเลือดในหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารที่โป่งพองขึ้นแล้วแตกทำให้มีเลือดออก
- เลือดออกเองหรือออกแล้วหยุดยาก เกิดจากตับไม่สามารถผลิตสารที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว
โรคตับอาจเป็นชนิดเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
เด็กที่เป็นโรคตับเฉียบพลันส่วนใหญ่จะหายได้เอง ถ้าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส และแพทย์จะให้การรักษาประคับประคองตามอาการเท่านั้น ถ้ามีสาเหตุจากยาแพทย์จะแนะนำให้หยุดทานยา ถ้าเกิดจากการรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้สังเกตอาการในโรงพยาบาลและให้ยาแก้พิษ
อย่างไรก็ตาม หากร่างกายลูกมีความผิดปกติ มีอาการดังที่กล่าวมา อย่าเอาทารกไปตากแดด หรือดื่มน้ำมาก ๆ หลังกินนมแม่ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกอาการแย่แล้ว การให้ทารกในวัยต่ำกว่า 6 เดือน ดื่มน้ำหรืออาหาร ก็ยังเป็นการทำร้ายลูกอีกด้วย ดังนั้น ต้องรีบพามาพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดนะคะ
ที่มา : https://www.vejthani.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
จริงแค่ไหน ลูกตัวเหลืองเพราะกินนมแม่
ทารกตัวเหลือง มีอุจจาระสีซีด ผิดปกตินะแม่! ต้องรีบพาลูกไปพบหมอแล้วล่ะ
ลูกฉี่แบบไหนผิดปกติ ลูกฉี่สีไหนอันตราย เสี่ยงโรคร้ายที่พ่อแม่ไม่เคยรู้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!