X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ด้วยพลังแห่งรัก มะเร็งตับก็มิอาจคร่าเด็ก 3 ขวบได้!

บทความ 5 นาที
ด้วยพลังแห่งรัก มะเร็งตับก็มิอาจคร่าเด็ก 3 ขวบได้!

ทั้งที่หมอบอกว่าน้องจะอยู่ได้ไม่อีกแค่ 5 ปี แต่ด้วยความรักของครอบครัว ทำให้น้องท็อฟฟี่มีชีวิตรอดจากโรคร้าย

คุณแม่อ้อ Panadda Veerada สมาชิกเฟสบุ๊คท่านหนึ่งได้แชร์เรื่องราวของลูกสาวคือ น้องท็อฟฟี่ วัย 3 ขวบ 11 เดือน เป็นโรคมะเร็งตับ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 คุณแม่อ้อ ต้องรีบนำตัวน้องท็อฟฟี่ส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ภายหลังมีไข้สูง ซึ่งคุณหมอที่รับตรวจในตอนแรกบอกว่าน้องป่วยเป็นปวดบวม แต่ในวันรุ่งขึ้น คุณหมอประจำก็ได้มาตรวจน้องอีกครั้ง ผลปรากฎว่า น้องมีก้อนที่ท้องประมาณ 10 เซนติเมตร จึงรีบทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 หมอมาแจ้งว่า ก้อนที่เจอนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นมะเร็ง หมอบอกว่ามันโตไวมาก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว น้องได้เข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการหลอดลมอักเสบ และในตอนนั้นยังไม่มีก้อนเนื้อใด ๆ เลย

มะเร็งตับ

คุณแม่จึงถามหมอว่าสามารถที่จะรักษาให้หายได้หรือไม่ แต่เหมือนฟ้าผ่ากลางใจเมื่อคุณหมอส่ายหน้า แล้วตอบว่าหากทำการรักษาก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกเพียง 5 ปี และหมอก็เดินจากไป ใจของแม่ตอนนั้นปวดร้าว เหมือนมีคนเอามีดมากรีดกลางใจ ออกมากรีดร้องอยู่คนเดียวหน้าห้อง จนน้องท็อฟฟี่เดินตามออกมา และถามแม่ด้วยความไร้เดียงสาว่า “หม่าม๊าตาแดงเหรอ”

คุณแม่จึงตั้งสติแล้วรีบโทรหาคุณพ่อทันที และต่างกอดกันร้องไห้ในขณะที่ลูกนอนหลับ ต่างฝ่ายต่างมีคำถามที่ไม่มีคำตอบว่า “ทำไมจึงต้องเกิดขึ้นกับลูกสาวของเราด้วย”

Advertisement

8 กุมภาพันธ์ 2559 คุณหมอได้ส่งเรื่องต่อมายังโรงพยาบาลเด็ก โดยคุณแม่ได้เตรียมผลเอกซเรย์และเอกสารทุกอย่างมาด้วย จนมาพบกับคุณหมอวรรณนิสา ภู่เจริญ และคำถามที่คุณหมอถามก็คือ “มีใครที่บ้านสูบบุหรี่หรือไม่ บ้านใกล้สารเคมีหรือเปล่า ลักษณะของบ้านที่อยู่เป็นอย่างไร พ่อแม่มีลูกทั้งหมดกี่คน” แม่อ้อจึงค่อย ๆ ตอบคำถามของหมอด้วยความกลัวและวิตกกังวลว่า “ที่บ้านไม่มีใครสูบบุหรี่ บ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับสารเคมี และบ้านที่อาศัยอยู่ตอนนี้เป็นบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมีลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น”

คลิกเพื่ออ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

มะเร็งตับ

คุณหมอตัดสินใจให้ท็อฟฟี่นอนโรงพยาบาลในคืนนั้นเลย เพราะต้องการที่จะเอกซ์เรย์กระดูกและปอด และทันทีที่คุณหมอทราบผลก็มาแจ้งว่า น้องมีเลือดกรุ๊ป B Rh Negative ซึ่งเป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากมาก สิ่งที่แม่อ้อคิดได้ตอนนั้นคือ การโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านเฟสบุ๊ค มีคนมากมายติดต่อเข้ามาเพื่อขอบริจาคเลือดที่น้องจะต้องผ่าตัวในอีก 3 เดือนข้างหน้า

12 กุมภาพันธ์ 2559 ท็อฟฟี่เข้ารับการผ่าตัดก้อนเนื้อด่วน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นอะไร และเข้าพักฟื้นในห้อง ICU เพียงสองวัน โดยคุณหมอนัดฟังผลอีกครั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และผลตรวจของคุณหมอก็ต้องทำให้หัวอกคนเป็นแม่แทบแตกสลายอีกครั้ง

“ชิ้นเนื้อที่ตัดไปนั้น ไม่สามารถทราบได้ว่าผลชิ้นเนื้อนั้นเป็นชนิดไหน อยากที่ขอนัดผ่าตัดอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ คุณหมอบอกว่า ก้อนเนื้ออยู่ที่ตับข้างซ้ายใกล้หัวใจและใกล้เส้นเลือดมาก การผ่าตัดที่จะเกิดขึ้นอีกครั้นั้นจะให้คุณหมอที่ชำนาญในการผ่าตัดเส้นเลือดเข้าร่วมด้วย เพื่อตัดสินใจว่า จะตัดได้หรือไม่ เพราะถ้าหากเสี่ยงเกินไป คุณหมอก็จะแค่ตัดชิ้นเนื้อมาตรวจอีกครั้งเท่านั้น”

4 มีนาคม 2559 เวลา 09.00 น. ท็อฟฟี่เข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง ตอนนั้นคุณแม่อ้อเฝ้าภาวนาและสวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยปกป้องคุ้มครองให้ลูกปลอดภัย ประมาณเวลา 18.00 น. คุณหมอได้แจ้งว่า การผ่าตัดนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และได้ตัดก้อนเนื้อออกไปหมดแล้ว และยังให้ดูรูปก้อนเนื้อที่ตัดออกมานั้นมีขนาด 11×7 เซนติเมตร

คลิกเพื่ออ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

มะเร็งตับ

ตอนนั้นสิ่งที่แม่อยากทำมากที่สุดก็คือ ก้มกราบหมอที่สามารถผ่าตัดเอาก้อนเนื้อนั้นออกไปได้ ท็อฟฟี่อยู่ห้อง ICU ถึง 5 วันถึงจะสามารถย้ายออกมาอยู่ห้องพักธรรมดาได้ แต่ดูเหมือนเรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น น้องมีอาการตัวเหลืองภายหลังจากการผ่าตัด คุณหมอจึงได้ทำการเอกซเรย์อีกครั้ง แต่ตับนั้นปกติดี แต่อาจเป็นอาการหลังผ่าตัด เพราะการผ่าตัดที่ผ่านมามีการตัดตับข้างซ้ายประมาณครึ่งหนึ่งไป คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 10 วัน

ท็อฟฟี่สามารถกลับบ้านได้ในวันที่ 29 มีนาคม แต่ยังคงต้องมาทานยาจนครบอีก 2 สัปดาห์ และหลังจากที่ทานยาครบแล้ว จะต้องนัดตรวจและเจาะเลือดเพื่อดูผลอีกครั้ง โดยน้องจะต้องทำครีโมถึงสามครั้งหลังจากที่ร่างกายแข็งแรงดีแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีเชื้อดังกล่าวอยู่หลงเหลือภายในร่างกายอีก

และนี่คือสิ่งที่คุณแม่อ้อ อยากฝากถึงคุณแม่ทุก ๆ คน “หากลูกไม่สบาย ควรนำไปพบแพทย์ อย่าปล่อยและคิดว่าลูกไม่เป็นอะไรมาก เพราะเด็ก ๆ ยังไม่มีภูมิต้านทานกับโรคภัยมากนัก และควรหมั่นสังเกตดูแลเรื่องการทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ว่าลูกเราจะป่วยด้วยโรคอะไรก็ตาม เราต้องคิดบวก ให้กำลังใจกันละกัน ดูแลซึ่งกันและกัน และทำทุก ๆ วันให้เหมือนเดิม ทำตามที่คุณแม่แนะนำ อย่าคิดในแง่ลบล่วงหน้า ยิ้มและสู้กับทุกปัญหา เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อลูกของเรา”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบคุณทุก ๆ กำลังใจและขอบคุณผู้บริจาคเลือดให้กับน้องทุกท่าน ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่กับลูกสาวของเรา ขอบคุณโรงพยาบาลเด็ก ขอบคุณคุณหมอวรรณนิสา ที่คอยเตือนสติให้รู้ว่า เราไม่ควรคิดอะไรไปไกล และควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ทุกอย่าง ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”

ที่มา: LookGoodShop

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

ระวัง! 9 ของใช้ในบ้าน ตัวการก่อมะเร็ง

มาตุนอาหารต้านมะเร็งสำหรับเด็ก 15 ชนิดนี้กันเถอะ

 

 

 

 

 

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Muninth

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • ด้วยพลังแห่งรัก มะเร็งตับก็มิอาจคร่าเด็ก 3 ขวบได้!
แชร์ :
  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว