โรคหัวใจพิการแต่กําเนิด อันตราย
แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกผนังกั้นหัวใจรั่ว โรคหัวใจพิการแต่กําเนิด เรื่องอันตราย แม่ต้องเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้ลูกป่วยตลอดชีวิต
ลูกผนังกั้นหัวใจรั่ว ต้องยุติการตั้งครรภ์
#มาแชร์ประสบการณ์
เหตุเนื่องจากความอยากรู้ว่าลูกจะปากแหว่งไหม? จะสมบูรณ์ไหม? ทั้งๆ ที่ก็ไปอัลตราซาวด์กับหมอแล้ว 1 รอบ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2560 คำตอบคือ ได้ลูกสาว สมบูรณ์แขนขาครบถ้วน น้ำหนักตามเกณฑ์ สบายใจไป….
แต่ก่อนจะไปได้ไปแวะถามหมอขออัลตราซาวด์ ตอนนั้นหมอบอกว่าอายุครรภ์ยังน้อยไว้วันที่ 2 มกราคมมาอีกที พอถึงวันนัดตัดสินใจไปอีกรอบด้วยความกังวลใจ ผลที่ได้คือ ลูกสาว แขนขาครบตาจมูกปากสมบูรณ์ แต่พอหมอดูตรงหัวใจเท่านั้นแหละ #โป๊ะแตก ใจอิแม่จะสลาย ทั้งๆ ที่ผลเลือดปกติทุกอย่าง น้องมีหัวใจผิดปกติ
หมอจึงนัดให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ เพื่อให้หมออีกท่านดูและช่วยยืนยันผล ผลคือ น้องหัวใจผิดปกติผนังกั้นหัวใจรั่วและรั่วเยอะ หมอจึงเจาะน้ำคร่ำไปตรวจดูโครโมโซม ถ้าผลออกมาบวกคือต้องทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลอื่น แต่ถ้าผลออกมาลบคือ #ต้องยุติการตั้งครรภ์ทันที
ถามว่าเกี่ยวกับพันธุกรรมไหม หมอบอกไม่เกี่ยว ถามว่าเกิดจากอะไร หมอบอกไม่ทราบสาเหตุ สามารถพบได้ในเด็ก 1 ใน 1 หมื่นคน
เท่านั้น รอผลประมาณ 2 อาทิตย์ผลคือ
#ปกติไม่เกี่ยวกับพันธุกรรม 100% หมอจึงทำเรื่องส่งตัวให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อให้หมอหัวใจเด็กดูว่า ถ้าน้องคลอดแล้วสามารถผ่าตัดหรือรักษาไหวไหม แต่โชคชะตาเล่นตลก ผลยืนยันตรงกันให้ ยุติการตั้งครรภ์ทันที
เพราะหมอที่โรงพยาบาล พบน้องมีกระเพาะและม้ามที่ผิดฝั่ง อีกทั้้งเส้นเลือดของหัวใจ มีความผิดปกติอย่างมาก ถ้าคลอดออกมาน้องอาจจะอยู่ได้ไม่นานหรืออาจจะเสียได้เลย ตอนนั้นอายุครรภ์ได้ 23 สัปดาห์ 3 วัน จึงขอให้หมอทำเรื่องส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม ตอนนั้นเสียใจมากแทบไม่อยากเชื่อว่า จะเกิดขึ้นกับลูกเรา เพราะคนแรกปกติดีทุกอย่าง
ก่อนถึงวันที่หมอนัดให้เข้าไป พยายามไม่เครียดและทำทุกอย่างให้ปกติ เพราะเค้ายังอยู่กับเรา พอถึงวันจริง ๆ แอดมิทตามระเบียบ
- เหน็บยารอบแรกมีอาการปวดท้องแต่ไม่มาก ท้องแข็งเป็นระยะ น้องดิ้นน้อยลง มีไข้ตามมา แต่ไม่สูง
- เหน็บยารอบสอง ปวดมากขึ้น มีไข้สูงหนาวสั่น แต่ก็ยังทนไหว เพราะท้องแรกก็คลอดเอง จึงรู้ระดับความปวด
- เหน็บยารอบสาม ปวดมากขึ้น ไข้สูงทะลุ 40 จนถึงเช้า ยาพาราเซตามอล ช่วยลดไข้พอได้ อาบน้ำเริ่มมีมูกเลือดออกมา
ในใจคิดแล้วว่าคงใกล้ถึงเวลาของหนูแล้วสินะ ตอนนั้นรู้สึกได้ว่า น้องไม่ดิ้นแล้ว อาจเป็นเพราะยา ท้องแข็งมากขึ้น ความปวดก็ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ฝืนกินข้าวเช้าและคิดในใจว่า คงเป็นมื้อสุดท้ายของหนูสินะ แม่จะฝืนกินให้ได้มากที่สุด บอกรักเค้าตลอด หลังกินข้าวเสร็จความปวดก็ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะทุก ๆ 1 นาทีจนสุดท้ายทนไม่ไหว เรียกพยาบาลบอกไม่ไหวแล้ว พยาบาลพาเข้าห้องจะตรวจดูปากมดลูกว่าเปิดกี่เซนติเมตร ด้วยความปวดและฤทธิ์ยา จึงทนสุด ๆ แต่ไม่ไหว
นาทีนั้นน้ำคร่ำแตกกระจายทั่วห้อง หลังจากนั้น เท้าน้องก็โผล่ออกมาและก็ค่อย ๆเ บ่งน้องออกมา หมอและพยาบาลช่วยกันจับน้องและตัดสายสะดือ จับน้องขึ้นมาให้ดู จึงขอหมอดูหน้าน้องชัด ๆ น้องร่างกายภายนอกปกติดีทุกอย่างปากนิดจมูกหน่อย น้ำหนักตัวชั่งได้ 586 กรัม
น้องดิ้นนิดนึงแล้วน้องก็ไป น้องได้ 24 สัปดาห์ค่ะ
ตอนนี้น้องจากไปได้ 10 วันแล้วค่ะ แม่ก็รักษาตัว เพราะเหมือนคลอดปกติทุกอย่าง ยังคิดถึงน้องและร้องไห้บ่อย ๆ แต่ก็พยายามทำใจ ไม่อยากให้เป็นบ่วงที่จะทำให้น้องไปไหนไม่ได้เพราะแม่ยังโหยหาเค้าอยู่ ได้แต่ภาวนาว่า สักวันเราพร้อมอีกครั้ง และน้องแข็งแรงดี เชื่อว่าน้องจะกลับมาอีกครั้งค่ะ
โรคหัวใจผิดปกติแต่กําเนิด
ศ.นพ.กฤตย์วิกรม ดุรงค์พิศิษฏ์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ อธิบายถึงโรคหัวใจผิดปกติแต่กําเนิดว่า โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิดเป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
เกิดจากพฤติกรรมของแม่ตอนตั้งท้องและความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น
- สูบบุหรี่
- ดื่มสุรา
- แม่ได้รับยาสารเสพติดหรือสารเคมีขณะตั้งครรภ์
- แม่ที่อายุเกิน 35 ปีในระหว่างตั้งครรภ์
- การติดเชื้อไวรัสในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน
เกิดจากตัวเด็กเองที่มีโครโมโซมผิดปกติ เช่น ดาวน์ซินโดรม และเกิดจากการผิดปกติของการแบ่งตัวของช่องหัวใจเด็กเอง
โรคหัวใจผิดปกติหรือพิการแต่กำเนิดแบ่งได้เป็น 2 ชนิด
- ชนิดเขียว หรือ มีออกซิเจนในเลือดต่ำ เกิดจากความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดหรืออย่างใดอย่างหนึ่งที่ทำให้เลือดดำปนกับเลือดแดงที่ไปเลี้ยงร่างกาย ส่งผลให้เด็กเกิดภาวะขาดออกซิเจน ผิวหนังจึงมีสีเขียว ๆ ม่วง ๆ จะมีความผิดปกติได้หลายแบบและอาการค่อนข้างรุนแรง การเจริญเติบโตของเด็กกลุ่มนี้จะน้อยกว่าปกติมาก
- ชนิดไม่เขียว เกิดจากความผิดปกติในโครงสร้างของระบบหลอดเลือดและหัวใจหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ความผิดปกติที่พบ อาจเกิดที่ผนังกั้นหัวใจมีรูลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท มีอาการรั่วเกิดขึ้น หรือไม่กว้างเท่าปกติเกิดอาการตีบขึ้น หรือหลอดเลือดตีบเกินปกติ
วิธีคัดกรองการเกิดโรคหัวใจผิดปกติในเด็ก
ศ.นพ.กฤตย์วิกรม ย้ำว่า ควรวางแผนก่อนมีลูก พ่อแม่ต้องตรวจร่างกาย เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรค รักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจของแม่ ถ้าลูกคนแรกมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการที่จะมีลูกคนที่ 2 ว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ลูกคนที่ 2 เป็นโรคหัวใจ ด้วยจะต้องทำการตรวจตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ อัลตราซาวด์ เจาะน้ำคร่ำ
ที่มา : https://www.dailynews.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คนท้อง ครรภ์เป็นพิษ ผ่าคลอดด่วน! หมอบอกต้องเลี่ยงอาหารรสเค็ม รสจัด
แม่คลอดธรรมชาติ ใช้เล็บจิกถุงน้ำคร่ำให้แตก แถมคุณพ่อต้องมาช่วยทำคลอด
อาบน้ำทารกแรกเกิด จำเป็นต้องอาบทุกวันไหม ต้องอาบอย่างไรไม่ให้ลูกป่วย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!