หยุดเปรียบเทียบลูก ถ้าไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อต่อต้าน-ขี้อิจฉา

หยุดเปรียบเทียบลูก ไม่ว่าจะเป็นการพูดเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง หรือกับเด็กคนอื่น เพราะสิ่งที่พ่อแม่พูดออกไปอาจให้ผลตรงกันข้าม จนทำให้ลูกมีนิสัยแย่ลงกว่าเดิม!
หยุดเปรียบเทียบลูก หยุดสร้างบาดแผลในใจ
หยุดเปรียบเทียบลูก กับเพื่อนลูก กับพี่น้อง หรือกับเด็กอื่นๆ เพราะความต้องการของพ่อแม่ เนื่องจากการพูดเปรียบเทียบบุตรหลานเ
- “เรียนเก่งๆ ให้ได้อย่างพี่เ
ขาสิ” - “ทำแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแ
ต่ละวัน ทำไมไม่ทำตัวน่ารักแบบน้องบ้าง” - “ลูกบ้านโน้นเก่งจัง เก่งกว่าลูกอีก”
- “หัดทำตัวดีๆ เหมือนลูกข้างบ้านได้ไหม”
ซึ่งคำพูดเหล่านี้ ถึงแม้จะเป็นความหวังดีของพ่อแ
พูดเปรียบเทียบส่งผลกระทำต่อลูกอย่างไร
- ลูกจะรู้สึกแย่กับตนเอง เพราะคำพูดของผู้ใหญ่เปรียบ
เสมือนกระจกสะท้อน เมื่อเด็กได้รับฟังอยู่ทุกว ัน เขาก็จะรู้สึกว่าตนเองเป็นเ ด็กไม่ดี ไม่มีความสามารถทำได้เหมือน คนอื่น ทำให้รู้สึกด้อยค่า มองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจในตนเอง นานวันเข้าจะไม่กล้าลงมือทำ อะไรเพราะขาดความมั่นใจว่าต นจะทำได้สำเร็จ - ลูกจะรู้สึกโกรธ อิจฉา หรือแสดงพฤติกรรมต่อต้าน รุนแรง ก้าวร้าวตอบโต้กลับไป มีน้อยมากที่อาจจะฮึดสู้กับ
คำพูดเปรียบเทียบของผู้ใหญ่ และกลายเป็นแรงผลักดันในการ ทำสิ่งที่ดีๆ เพราะส่วนใหญ่เด็กๆ มักจะทำใ นทางตรงกันข้าม คือทำสิ่งที่ไม่ดีตรงกันข้า มกับที่ผู้ใหญ่บอกให้ทำ เพื่อให้เกิดความรู้สึกสะใจ ที่พ่อแม่มักจะเปรียบเทียบต นเองกับผู้อื่น จนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัว
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำเพื่อกระตุ้นลูก
พ่อแม่ต้องรู้จักลูกของตัวเองให้ดีพอ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความเป็นตัวเองแตกต่างกันไป ทั้งหน้าตา ท่าทาง พฤติกรรมการแสดงออก รวมทั้งศักยภาพและความสามาร
- เลิกเปรียบเทียบลูกกับพี่น้
อง หรือ เด็กคนอื่น - ค้นหาศักยภาพในตัวลูกแต่ละค
น และเปิดโอกาสให้ศักยภาพเหล่ านั้นได้แสดงออกอย่างเต็มที ่ เช่น ลูกคนสุดท้องชอบทำอาหาร ลูกคนโตชอบการทดลอง ชอบเรียนวิทยาศาสตร์ - สนับสนุน และช่วยพัฒนาจุดอ่อนที่ยังต้องฝึกฝนไปพร้อมกับลูก โดยที่พ่อแม่ชี้ให้ลูกเห็นว่า จุดนี้เราต้องพยายามเพิ่ม เพราะอะไร ไม่ใช่เพื่อให้เท่าเทียมกับใคร
- สอนให้ลูกมีจุดพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และให้ลูกได้รู้จักสร้างแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อไปด้วยแรงที่มาจากข้างในตัวเอง ไม่ใช่มีคนอื่นเป็นเครื่องวัดตัวเรา
- ให้กำลังใจในสิ่งที่ลูกพยา
ยามทำ อาจจะพูดว่า “แม่ภูมิใจมากเลย ที่ลูกพยายามทำการบ้าน แม้มันจะยากอยู่บ้างนะ แต่ลูกก็ยังไม่ท้อถอย” เพราะจะทำให้ลูกน้อยมีขวัญกำลังใจดีจะเห ็นคุณค่าในตนเองสูง มีความเต็มใจที่จะให้ความร่ วมมือเชื่อฟัง มีความพยายามทำสิ่งใหม่ๆ และมีความรับผิดชอบ - ให้การชื่นชมในสิ่งที่เด็กเ
ป็น ในสิ่งที่เด็กสามารถทำได้ดี แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่พ่อแม่สามารถจับสิ่งเหล่ านั้นมาพูดได้ เช่น “ดีมากเลยลูก ที่ลูกเป็นเพื่อนเล่นกับน้อ ง หนูเป็นพี่สาวที่น่ารักมากเ ลย”
แค่คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของพ่อแม่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงลูกน้อยได้แล้วค่ะ และหากพ่อแม่รักและหวังดีกับลูกจริงๆ ก็ควรรักในสิ่งที่ลูกเป็นไม่ใช่สิ่งที่อยากให้ลูกเป็น เพราะไม่มีใครอยากถูกเปรียบเทียบหรอกจริงไหมค่ะ
ที่มา: thaichildrights
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
ดื้อต่อต้าน โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน หากลูกเกิน 3 ขวบแล้วยังเป็นอย่างนี้ ใช่เลย!
เห็นลูกดื้ออย่าเพิ่งดุอย่าเพิ่งด่า วิจัยบอกว่าเด็กดื้อจะประสบความสำเร็จมากกว่าเมื่อโตขึ้น
วิธีเลี้ยงเด็กยุคใหม่ พ่อแม่ต้องทำไงไม่ให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อด้าน..ไม่รู้จักโต