X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก

บทความ 5 นาที
แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก

คงต้องกล่าวยินดีสำหรับคุณแม่ที่ได้ผ่านพ้นการคลอดมาอย่างปลอดภัย และได้ลูกน้อยที่แสนจะน่ารักมาเชยชมสมใจ เพราะเมื่อลูกน้อยเกิดขึ้นมา คุณแม่ต้องทุ่มเทเอาใจใส่เลี้ยงดู แต่กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว ทำงานบ้านหรือแม้กระทั่งเลี้ยงลูกเพราะร่างกายที่รบหนักตอนคลอด จะต้องอาศัยการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อกลับคืนสุขภาพปกติได้เร็วที่สุด มาดูกันดีกว่าค่ะว่า สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก ทำไมถึงให้มีการลาคลอดได้ 90 วัน คุณแม่รู้ไหมว่าทำไมถึงให้มีการลาคลอดเพื่อพักฟื้นร่างกายถึง 90 วัน ประโยชน์ของการลาคลอดช่วงนี้ที่คุณแม่ต้องเก็บเกี่ยวให้มากที่สุด เป็นเพราะอะไรกันน่ะ เรามาดูเหตุผลกันค่ะ

สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

ปรับตัวให้เข้ากับลูก

ในช่วง 3 เดือนแรกที่ลูกเกิด คุณแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่และลูก เพราะว่าในช่วง 3 เดือนแรกนั้น ลูกน้อยจะตื่นทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง คนเป็นแม่จึงต้องมีเวลาที่จะดูแลลูกมาก ๆ และต้องปรับตัวให้เข้ากับลูก เพื่อที่จะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวลูกน้อย และวางแผนการเลี้ยงดูลูกได้หลังจากนี้ ซึ่งกว่าคุณแม่จะได้นอนหลับพักผ่อนก็หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว เนื่องจากว่าทารกเริ่มนอนยาวขึ้นนั่นเองค่ะ

เพื่อพักฟื้นร่างกายหลังคลอด

สำหรับกรณีคุณแม่คลอดธรรมชาติ จำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนคุณแม่ที่ผ่าคลอด ต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 6-8 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าจะคลอดลูกแล้วแต่ว่าฮอร์โมนยังมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ในช่วงนี้คุณแม่ยังมีความแปรปรวนทางอารมณ์ ซึ่งกว่าที่ร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือคืนสู่สภาวะเดิมต้องใช้เวลามากกว่า 3 เดือน และในช่วง 3 เดือนแรกนี้ แนะนำให้คุณแม่ไม่ควรทำกิจกรรมที่หนักมากเกินไป เช่น ขึ้นลงบันไดหลายครั้งต่อวัน ยกของหนัก หรือแม้แต่ขับรถ เป็นต้น

คุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอะไรบ้าง

หลังจากที่ร่างกายคุณแม่ต้องรับบทหลังกับการคลอดลูกแล้วร่างกายของคุณแม่จะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์ อวัยวะส่วนต่าง ๆ จะเริ่มปรับเปลี่ยนโดยอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5 – 6 สัปดาห์ช่วงหลังคลอดนี้ ควรทำความเข้าใจและสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณแม่ รวมทั้งช่วยให้คุณแม่กลับมามีรูปร่างสวยงามดังเดิมได้เร็วขึ้นด้วย

สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

ให้นมลูกได้อย่างเต็มที่

ทารกควรได้รับนมแม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเกิด – 6 เดือน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและได้รับสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับทารก หากคุณแม่ลาคลอดในช่วง 3 เดือนแรก จะทำให้คุณแม่ให้นมลูกน้อยได้อย่างสะดวกและการได้รับนมจากเต้านั้น เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูกด้วยค่ะ

สำหรับคุณแม่ที่ต้องไปทำงานอาจจะปั๊มนมไม่สะดวก เพราะต้องใช้เวลาในการปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้าประมาณ 30 นาที ต่อการปั๊ม 1 ครั้ง และต้องปั๊มทุกๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งอาจไม่สะดวกและทำให้ปริมาณน้ำนมของคุณแม่ลดน้อยลงหลังจากกลับมาทำงานค่ะ

 

ให้นมจากเต้าดีอย่างไร

นมจากเต้าจะมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก เพราะสามารถป้องกันทารกจากหวัด โรคทางเดินอาหาร โรคติดเชื้ออื่นๆ และโรคภูมิแพ้ แถมยังทำให้ทารกรู้สึกปลอดภัย มั่นคง ได้รับรู้ความรู้สึกและความอบอุ่นจากแม่ ซึ่งจะมีผลดีในการช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองด้วย ทั้งยังลดโอกาสในการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคใหลตายในทารกด้วย

ในส่วนของคุณแม่จะช่วยลดความเสี่ยงของ ภาวะการตกเลือด หลังคลอดบุตร และยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจางด้วย ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ โรคกระดูกพรุน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ช่วยลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ด้วย จึงช่วยให้รูปร่างของคุณแม่เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วขึ้น

อาการที่แสดงว่าลูกต้องการกินนม

  1. กลอกตาไปมาเร็วๆ
  2. ดิ้นไปดิ้นมาขณะนอน เอามือถูหน้าไปมา
  3. ส่งเสียงร้องอ้อแอ้
  4. พลิกศีรษะไปมา
  5. เลียริมฝีปาก แลบลิ้นไปมา หรือเริ่มที่จะดูดมือ
  6. ร้องไห้ งอแง

วิธีบีบน้ำนมแม่ด้วยมือ

  1. ล้างมือคุณแม่ให้สะอาด
  2. ประคบอุ่นบริเวณเต้านมประมาณ 3-5 นาที จากนั้นนวดเต้าเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้น้ำนมได้ไหลเวียน
  3. วางนิ้วโป้ง และนิ้วอื่นๆ ห่างจากหัวนมประมาณ 2-3 เซนติเมตร แต่ให้อยู่ในแนวเดียวกันกับหัวนม ให้วางนิ้วที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และ 6 นาฬิกา
  4. ออกแรงกดนิ้วลงไปยังหน้าอก หากเต้านมของคุณแม่ใหญ่ให้ดึงเต้านมขึ้นออกก่อนแล้วค่อยกดลงไปยังหน้าอก
  5. หมุนนิ้วโป้งและนิ้วอื่นๆ ไปในทิศทางเดียวกัน พยายามดันให้นมออกมาแทนที่จะบีบออก ทำต่อเนื่องเป็นจังหวะ
  6. หมุนมือของคุณไปยังรอบๆ เต้านม เพื่อทำให้ตำแหน่งอื่นๆ นิ่มลงด้วย วางไว้ที่ 12 นาฬิกา และ 6 นาฬิกา หลังจากนั้นเปลี่ยนไปเป็น 2 นาฬิกา และ 8 นาฬิกา ตามด้วย 10 นาฬิกา และ 4 นาฬิกา

ซึ่งคุณแม่ควรบีบน้ำนมหรือปั๊มนมออกอย่างน้อย 8-10 ครั้งใน 1 วัน หากลูกน้อยไม่ได้กินนมจากเต้าแล้ว

สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

 

สิ่งที่คุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษหลังคลอด

  1. อาการตกเลือด
  2. การเคลื่อนไหวร่างกายหลังคลอด
  3. การรักษาความสะอาดของร่างกาย
  4. ถ่ายปัสสาวะไม่ออก
  5. ริดสีดวงทวาร
  6. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
  7. การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง
  8. ดูแลแผลฝีเย็บ
  9. ร่วมเพศหลังคลอดบุตรได้เมื่อไรและจะอันตรายหรือไม่
  10. เป็นไข้
  11. เจ็บฝีเย็บหรือแผลผ่าตัดทางหน้าท้องมาก
  12. การพักผ่อนร่างกายหลังคลอด
  13. อาหารประเภทไหนที่ต้องให้ภายหลังคลอด

อาการผิดปกติแบบไหนเตือนให้คุณแม่ระวัง

นอกจากความเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่เป็นปกติแล้ว คุณแม่ควรจะหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เพราะหากปล่อยไปโดยคิดว่า “ไม่เป็นอะไรหรอกเดี๋ยวก็หาย” อาจทำให้อาการดังกล่าวร้ายแรงขึ้นและแก้ไขไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของคุณแม่เองได้ ดังนั้นจึงควรรู้จักและทำควรเข้าใจกับอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เพื่อป้องกันและแก้ไขได้ทันท่วงที

เมื่อไรประจำเดือนจะมา

ถ้าไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ประจำเดือน จะเริ่มมีภายใน 6 – 8 สัปดาห์ หลังคลอดประจำเดือนครั้งแรกอาจจะมาไม่มากนัก แต่ถ้าให้นมบุตรประจำเดือนมักจะมาช้ากว่า บางรายไม่มีประจำเดือนเลยขึ้นกับว่าให้นมบุตรมากน้อยแค่ไหน คุณแม่ที่ให้นมบุตร บางรายมีประจำเดือนในเดือนที่ 2 บางรายช้าถึงเดือนที่ 18 หลังคลอด

คุณแม่หลังคลอดสามารถคุมกำเนิดได้โดยไม่ต้องรอให้มีประจำเดือนมาก่อน ควรเริ่มคุมกำเนิดหลังการตรวจร่างกายเมื่อครบ 6 สัปดาห์หลังคลอด เนื่องจากพบว่าประมาณร้อยละ 10-15 ของคุณแม่ที่ไม่ให้นมบุตรจะมีไข่ตกภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด และร้อยละ 30 จะมีตกไข่ภายใน 90 วันหลังคลอด ส่วนคุณแม่ที่ให้นมบุตร การตกไข่เกิดขึ้นได้เร็วถึง 49 วันหลังคลอด

 

การใช้ยาในระยะหลังคลอด

สิ่งที่คุณแม่จะต้องหลีกเลี่ยงในระยะหลังคลอดให้มากที่สุด คือการใช้ยาที่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยวัยแรกเกิด โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่กำลังให้นมลูก เนื่องจากมียาบางชนิดที่รับประทานแล้วอาจถูกขับออกมาทางน้ำนมแม่ เช่นยาถ่าย ยาระบาย ซึ่งคุณไม่ควรซื้อมารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะทำให้ลูกที่รับประทานนมแม่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอาการท้องเสียได้ ดังนั้นการรับประทานยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยทั่วไปคุณแม่ที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ แพทย์จะให้รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ รวมไปถึงวิตามินแคลเซียมและธาตุเหล็ก ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และสร้างเม็ดเลือดที่สูญเสียไปในการคลอด ส่วนแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ทำให้คุณแม่ไม่เป็นตะคริวหรือฟันผุได้ง่าย ทั้งยังช่วยชดเชยแคมเซียมที่คุณแม่ต้องเสียไป ในระหว่างการให้นมลูกและวิตามินบางส่วนยังสามารถหลั่งออกทางน้ำนม ทำให้ลูกน้อยได้รับประโยชน์จากวิตามินได้ด้วย

 

บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย

น้ำคาวปลา

น้ำคาวปลา คือ เลือดและเนื้อเยื่อที่ออกมาจากมดลูก หลังคลอดจะออกมามาก และมีสีแดงสดในระยะแรก หลังจากนั้นสีจะจางลงคล้ายสีของน้ำล้างเนื้อและมีปริมาณน้อยลงจนกลายเป็นมูกสีเหลืองๆ และมักหมดไปภายใน 2-3 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านี้เล็กน้อย ในช่วงที่น้ำคาวปลา ออกมากใน 2 – 3 วันแรกนี้ คุณแม่ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยที่ดี

 

น้ำหนักตัว

จากที่เคยมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากในขณะตั้งครรภ์ เมื่อหลังคลอดน้ำหนักของคุณแม่จะลดลงไปประมาณ 6 กิโลกรัม น้ำหนักที่ลดลงมาจากตัวลูกน้อยที่คลอดออกมารวมกับน้ำคร่ำและน้ำที่คั่งอยู่ในร่างกายคุณแม่ จากนั้นน้ำหนักก็จะลดลงเรื่อยๆ จนครบกำหนดตรวจหลังคลอด น้ำหนักของคุณแม่ควรจะเท่ากับตอนก่อนตั้งครรภ์หรืออาจเกินได้สัก 2-3 กิโลกรัม แต่ถ้าน้ำหนักเกินกว่านี้ให้รีบหันมาดูแลควบคุมอาหารและออกกำลังกายให้เหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อรูปร่างที่สวยงามดังเดิม

 

ท้องผูก

คุณแม่หลายท่านอาจมีอาการท้องผูกอยู่อีกหลายวัน เนื่องจากฮอร์โมนที่ทำให้ลำไส้ของคุณแม่เคลี่อนตัวช้ายังมีอยู่บ้าง และยิ่งหลังคลอดคุณแม่ยังไม่กล้าแบ่งเวลาขับถ่าย เพราะกลัวเจ็บแผลฝีเย็บหรือแผลหน้าท้อง วิธีการแก้ไขหรือช่วยทำให้อาการทุเลานั้นเพียงแค่หมั่นรับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ ทั้งผักและผลไม้ ดื่มน้ำให้มากอาการท้องผูกของคุณแม่ก็จะค่อยๆ หายได้เอง

 

ผนังหน้าท้อง

หลังคลอดผนังหน้าท้องที่ยืดออกมาในขณะตั้งครรภ์ยังไม่กระชับเข้าที่ คุณแม่บางท่านใช้การอยู่ไฟ การนาบหน้าท้องโดยหม้อเกลือหรือกระเป๋าน้ำร้อน และการรัดหน้าท้อง โดยคิดว่าวิธีการเหล่านี้ จะทำให้ผนังหน้าท้องหดเข้าที่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนัก การบริหารร่างกายเท่านั้นที่จะช่วยให้ผนังหน้าท้องของคุณแม่หลังคลอดกระชับเข้าที่ ซึ่งจะได้กล่าวถึงในบทต่อไป

 

ขนาดมดลูก

ในวันแรกหลังคลอดมดลูกจะอยู่สูงราวระดับสะดือของคุณแม่ แต่จะค่อยๆ ลดลงประมาณวันละ 1 นิ้วมือเพียง 14 วัน หลังคลอดคุณแม่ก็จะคลำมดลูกทางหน้าท้องไม่พบแล้ว โดยที่ขนาดของมดลูกจะเล็กลงเรื่อยๆเ นื่องจากมีการหดรัดตัวของมดลูก บางครั้งทำให้คุณแม่มีอาการปวดท้องน้อยคล้ายๆ กับปวดประจำเดือนและปวดมากขึ้นขณะที่ให้ลูกดูดนมแม่เนื่องจากมีการหลั่งของฮอร์โมนที่กระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวมากขึ้น ดังนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยให้นดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น

 

ที่มา : bnhhospital , thairath

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีแบ่งเวลา เป็นแม่ที่ดี ทำงานก็เลิศ คุณทำได้ถ้าทำตามนี้

ประกันสุขภาพแม่และเด็ก 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 81

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

ammy

  • หน้าแรก
  • /
  • การคลอด
  • /
  • แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก
แชร์ :
  • สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

    สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

  • สุขภาวะกายและใจ ของแม่หลังคลอด 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 65

    สุขภาวะกายและใจ ของแม่หลังคลอด 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 65

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

    สิ่งที่ต้องทำหลังคลอดใน 90 วันแรก แม่หลังคลอดควรทำอะไรบ้าง

  • สุขภาวะกายและใจ ของแม่หลังคลอด 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 65

    สุขภาวะกายและใจ ของแม่หลังคลอด 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 65

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ