คุณแม่คลอดลูกแล้วแต่ ประจำเดือนยังไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไร แล้วทำอย่างไร ให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ การที่ ประจำเดือนยังไม่มา เป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ เรามาดูคำตอบกันค่ะ
เมื่อไหร่ประจำเดือนหลังคลอดจะมา ?
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่คลอดลูกแล้วจะกลับมามีประจำเดือน แต่จะแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล ระหว่าง แม่ที่ไม่ให้นมลูก หรือให้นมชง กับ แม่ที่ให้นมลูกอย่างเดียว
-
แม่ที่ไม่ให้นมลูก หรือ ให้นมชง
โดยทั่วไปแล้วคุณแม่จะกลับมามีประจำเดือนหลังคลอดลูก ไปแล้วประมาณ 6-8 สัปดาห์ ถ้าหากประจำเดือนไม่มาภายใน 3 เดือน ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจว่าสาเหตุคืออะไร
คุณแม่ที่ให้นมลูกบางคนอาจจะไม่มีประจำเดือน ตลอดการให้นม ส่วนใหญ่คุณแม่ที่ให้นมลูกเองประจำเดือนจะมาช้า เนื่องจากร่างกายไม่ตกไข่ออกมา และเกี่ยวข้องกับปริมาณการให้นมลูก เพราะถ้าหากคุณแม่ให้นมลูกน้อยลงจะกลับมามีประจำเดือนได้เร็วขึ้น และรับประทานอาหารเสริมให้เพียงพอ ก็จะมีแนวโน้มกลับมามีประจำเดือนเร็วกว่า 6 เดือน แต่ในคุณแม่บางคน ก็อาจจะกลับมามีประจำเดือนหลังคลอด 1 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนค่ะ
หากคุณแม่ยังพบปัญหาเกี่ยวกับอาการตกขาวที่ผิดปกติอื่น ๆ สามารถเลือกอ่านบทความในหัวข้อนี้ได้ คลิก
วิดีโอจาก : พี่กัลนมแม่ Pekannommae mother and child care
ทำไมประจำเดือนไม่มาสักที
การที่ประจำเดือนหลังคลอดยังไม่มา อาจจะต้องสังเกตปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัย ว่าเป็นเพราะอะไร เพราะบางครั้งพฤติกรรม หรือ ร่างกายของคุณแม่ ก็สามารถส่งผลทำให้ประจำเดือนยังไม่มาค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 สัญญาณ ใกล้คลอด ที่เเม่ต้องเฝ้าระวัง
มีผลทำให้การตกไข่จะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงที่ลูกกินนมแม่นี้ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้เหมือนกันว่านานแค่ไหน คุณแม่หลังคลอดบางคนอาจไม่มีประจำเดือนไปจน 5-6 เดือนเลยก็ได้ค่ะ นอกจากนี้การให้ลูกกินนมแม่ยังถือเป็นการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติอีกด้วยค่ะ แต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เช่นกัน
ยาบางชนิดมีผลกระทบต่อฮอร์โมนทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มา
คุณแม่หลังคลอดที่ทำการคุมกำเนิด โดยการฉีดยาหรือฝังยา การคุมกำเนิดแบบนี้มีผลให้ ประจำเดือนหลังคลอดไม่มา หรือมาช้าออกไปอีกระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่านานขนาดไหน
คุณแม่หลังคลอดที่มีอาการซึมเศร้า หรือ มีความเครียดสะสม คุณแม่บางคนวิตกกังวลหรือเครียดเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูกมากเกินไปส่งผลให้ไข่ไม่ตก ก็ย่อมส่งผลทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มาได้เช่นกันค่ะ
ร่างกายของคุณแม่แต่ละคนมีความสมบูรณ์ไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงย่อมส่งผลให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ นั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มา
คุณแม่หลังคลอดที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อต่าง ๆ หรือโรคเรื้อรังบางโรค เช่น เบาหวาน โรคไต ฯลฯ ซึ่งมีอาการค่อนข้างรุนแรงและต่อเนื่อง จึงอาจทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มาหรือมาช้ากว่าปกติได้
ประจำเดือนหลังคลอดเป็นอย่างไร ?
หลังคลอดบุตรไปแล้วเนื่องจากร่างกายต้องการปรับตัวสักระยะหนึ่ง ทำให้ประจำเดือนของคุณแม่มาไม่สม่ำเสมอ อาจมากะปริบกะปรอยซึ่งประจำเดือนจะมาหลังจากน้ำคาวปลาหมด โดยประมาณเป็นเวลา 1 เดือน แต่ถ้าคุณแม่ที่ให้นมบุตร อาจทำให้ประจำเดือนมาช้าตามระยะเวลาที่ให้นมบุตร ในคุณแม่ที่มีร่างกายแข็งแรงดีสามารถกลับมาตกไข่ได้เร็ว ก็จะทำให้มีประจำเดือนได้เร็วขึ้น
- มีเลือดออกเป็นจุด ผู้ที่ให้นมบุตรน้อยลงจะเริ่มกลับมามีประจำเดือน โดยจะมีเลือดประจำเดือนออกมาเป็นจุดเล็ก ๆ และไม่สม่ำเสมอ
- มีลิ่มเลือด ผู้ที่มีประจำเดือนหลังคลอดหลายรายมักมีลิ่มเลือดออกมา โดยลิ่มเลือดนั้นอาจเกิดจากการฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย ไม่ใช่สาเหตุของปัญหาสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีลิ่มเลือดออกมากับเลือดประจำเดือนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือประจำเดือนมามากกว่าที่เคยเป็น ควรพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา
- ตกไข่และตั้งครรภ์ได้ ผู้ที่คลอดบุตรแล้วอาจตั้งครรภ์ได้อีกแม้ประจำเดือนจะยังไม่มา เนื่องจากร่างกายจะตกไข่ออกมาก่อนประจำเดือนมาประมาณ 2 สัปดาห์โดยที่อาจไม่รู้ตัว จึงควรคุมกำเนิดทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะมีประจำเดือนหลังคลอดแล้วหรือไม่ก็ตาม
- มีตกขาว โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่คลอดบุตรมักมีเลือดหรือตกขาวออกมาจากช่องคลอด เนื่องจากร่างกายต้องขับเลือดและเนื้อเยื่อที่ตกค้างภายในมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ออกไป ผู้ที่คลอดบุตรอาจมีเลือดและลิ่มเลือดออกมามากในช่วงสัปดาห์แรก ผู้ที่ไม่ได้ให้นมบุตรอาจมีน้ำคาวปลาหรือตกขาวออกมาเป็นเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่จะกลับมามีประจำเดือนอีกครั้ง โดยจะเริ่มมีเลือดประจำเดือนปนมากับน้ำคาวปลาเมื่อประจำเดือนใกล้มา
- อาการเหมือนมีประจำเดือนปกติ เช่น ปวดเมื่อยร่างกาย ปวดท้องน้อย แต่ในช่วงแรกอาจทำให้ประจำมาไม่สม่ำเสมอ เช่น ประจำเดือนมา 1 เดือน และหายไป 1-2 เดือน หรือ ปริมาณและวันที่มีประจำเดือน แตกต่างจากก่อนที่คุณแม่จะมีบุตร
ในช่วงที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้คุณแม่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะกลไกในการคุมกำเนิดในกรณีที่คุณแม่ให้นมบุตร ประมาณ 60-70% เท่านั้น ในคุณแม่ที่ตกไข่ดี อายุน้อย มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอก็อาจทำให้มีบุตรได้ง่าย ซึ่งสามารถทานยาคุมกำเนิด หรือยาฉีดคุมกำเนิดได้โดยที่คุณแม่ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อทานยาคุมกำเนิดที่ไม่มีผลกระทบกับการให้น้ำนมบุตร และความปลอดภัยของคุณแม่ด้วย
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอปพลิเคชัน theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มา : pobpad.com , maerakluke.com
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
ประจำเดือนหลังคลอด เป็นยังไง ไขข้อกังวลคุณแม่มือใหม่
ตกขาวสีเขียว คืออะไร ? แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ?
ตกขาวปนเลือด ผิดปกติหรือไม่ สาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอ ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!