X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

9 สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำไม่ทำอะไร

บทความ 5 นาที
9 สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำไม่ทำอะไร

ตั้งท้องก็เหมือนเป็นนักเรียนเข้าใหม่ หลังจากความตื่นเต้นแล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ต้องดูแลตัวเองยังไง ควรกินไม่ควรกินอะไร ควรทำไม่ควรทำอะไร มารู้กันตรงนี้เลย

9 สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำไม่ทำอะไร

ตั้งท้องก็เหมือนเป็นนักเรียนเข้าใหม่ หลังจากความตื่นเต้นแล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ต้องดูแลตัวเองยังไง ควรกินไม่ควรกินอะไร ควรทำไม่ควรทำอะไร มารู้กันตรงนี้เลย

1. ควรมีความฟีลกู๊ดเข้าไว้

ช่วงตั้งครรภ์ อารมณ์คนท้องมักจะนอยด์ง่าย เพราะระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น เลิกดูชั่วคราวไปเลยค่ะ ข่าวเศร้า ละครดราม่า ที่จะทำให้แม่ท้องรู้สึกเครียด วิตกกังวลได้ง่าย แม่ท้องเศร้า เครียดตอนท้องก็ส่งผลต่อลูกในท้องด้วยนะ
สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์

2. ควรเช็กไลฟ์สไตล์การกิน

แม้ว่าการกินอาหารที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม จะไม่ส่งผลกระทบต่อทารกโดยตรง แต่ในความเป็นจริงเรื่องที่คุณแม่กินอะไรเข้าไปลูกในท้องก็จะได้รับสารอาหารที่คุณแม่กินด้วย ด้วยไลฟ์สไตล์การบริโภคของแม่ในยุคนี้ที่กินอาหารนอกบ้านบ่อยขึ้น มีของหวานยั่วยวนให้ชิมมากขึ้น กินทุกวัน ๆ ก็อาจทำให้ไปเพิ่มน้ำหนักตัวคุณแม่ เสี่ยงต่อการเป็นภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรืออาหารที่กินไปอาจทำให้ระบบดูดซึมเสียไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินต่าง ๆ ที่สร้างภูมิต้านทานภูมิแพ้ให้กับลูกมีปัญหาได้โดยไม่รู้ตัว

3. ควรได้รับสารอาหารที่จำเป็นทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด

มีอาหารหลายชนิดที่เหมาะสำหรับแม่ท้องกินได้ทุกวัน เพื่อสุขภาพดีต่อแม่และลูกในท้อง เช่น กินโยเกิร์ตไขมันต่ำ ดีต่อระบบขับถ่ายและช่วยสร้างเสริมเนื้อเยื่อให้แก่เจ้าตัวน้อยในครรภ์ให้สมบูรณ์ มะละกอสุก ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดีแก้ปัญหาท้องผูก กระเจี๊ยบเขียว ดีต่อการสร้างเม็ดเลือด บำรุงสมอง และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของทารกในครรภ์ กินได้จนถึงหลังคลอดช่วยสมานแผลภายในของคุณแม่หลังคลอดได้ดี ขมิ้นชัน กินได้ตั้งแต่ตอนท้องไปจนถึงคลอดและให้นมแม่ มีสรรพคุณมากมายสารพัด อาทิ ช่วยเพิ่มน้ำนม ลดอาการท้องอืด ช่วยระบบย่อยอาหาร เป็นต้น
สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์

4. ควรควบคุมน้ำหนัก

เวลาท้องนี้มันจะหิวมากกว่าตอนที่ไม่ท้องอีกใช่ไหมค่ะ จนทำให้คุณแม่เผลอกินจุกจิกมากไป ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ ดังนั้นการคุมไม่ให้น้ำหนักตัวเองมากไป ไม่ใช่ไปอดอาหารนะคะ เพราะจะทำให้ลูกในท้องได้รับสารอาหารไม่ครบ แต่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบคุณค่า เลิกกินจุบจิบ และควรออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอ โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ควรอยู่ระหว่าง 11 – 15 กิโลกรัมกำลังดีค่ะ

5. ควรออกกำลังกาย

แม่ท้องออกกำลังกายได้นะ กีฬาเบา ๆ ที่แม่ท้องสามารถทำได้ง่าย ๆ และไม่เกินอันตรายต่อลูกในท้อง เช่น เดินหรือวิ่งเหยาะ ๆ ว่ายน้ำ เล่นโยคะคนท้อง เป็นต้น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ช่วยให้คุณแม่และลูกในท้องมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น แถมยังช่วยให้คลอดได้ง่ายขึ้นด้วยนะ

6. ไม่ควรกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

พวกเหล้า เบียร์ ไวน์ ยาดอง แอลกอฮอล์ทุกชนิด อดใจไว้นิดในตอนท้องนะคะ กินเข้าไปตอนนี้ไม่ดีแน่ ๆ เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปสู่กระแสเลือดส่งผลไปถึงลูกน้อยได้ ซึ่งอาจทำให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการที่ผิดปกติได้
สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์

7. ไม่ควรกินยาที่ไม่คุ้นเด็ดขาด

ช่วงท้องนี้นอกจากอาหารการกินที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษแล้ว หยูกยาที่กินเวลาป่วยไข้ไม่สบายนี่ก็สำคัญเชียว เพราะยาบางตัวอาจส่งผลถึงลูกในท้องได้ ดังนั้นจะกินยาอะไรควรปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ หรือหากซื้อยากินเองควรสอบถามเภสัชกรก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่และลูกน้อยนะคะ

8. ไม่ควรกินเครื่องดื่มคาเฟอีน

มีงานวิจัยระบุว่าการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอันอย่างพวกกาแฟ ชา แต่พอประมาณหรือเพียง 1-2 ถ้วยต่อวันตอนท้องนั้นจะไม่เป็นอันตรายหรือมีผลเสียต่อทารกในครรภ์ แต่ถึงแม้จะกินในปริมาณน้อยเหล่าคาเฟอีนก็จะเข้าไปกระตุ้นความดันรวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจของคุณแม่และส่งผลกระทบต่อการเติบโตของลูกในท้องตามไปด้วย ทางที่ดีและปลอดภัยต่อลูกสุดก็คืองดดื่มแล้วหันมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้เพื่อลูกกันดีกว่าค่ะ

9. ไม่ควรเป็นสิงห์อมควัน

การสูบบุหรี่ถือเป็นการทำร้ายลูกในท้องตรง ๆ เลยล่ะ ไม่ว่าคุณแม่จะเป็นผู้สูบเองหรืออยู่ใกล้ควันบุหรี่แล้วสูดหายใจเข้าไป เสี่ยงให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้นะคะ

เมื่อคุณแม่ทราบข้อปฏิบัติที่ควรหรือไม่ควรทำในตอนตั้งครรภ์แล้ว อย่าลืมที่จะใส่ใจดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้องนะคะ ระยะเวลาประมาณ 10 เดือนหลังจากนี้ไป มันจะเปลี่ยนตัวเองและทำให้คุณแม่กลายเป็นคนใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพดี ๆ ขึ้นมาได้ เพื่อลูกน้อยนะคะ

วิธีดูแลเพื่อสุขภาพของทารกในครรภ์

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย แนะนำการปฏิบัติตัวตอนตั้งครรภ์เพื่อสุขภาพของทารกในครรภ์ ว่า เด็กคืออนาคตที่สําคัญของประเทศที่ต้องได้รับการพัฒนาให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การสร้างคนไทยคุณภาพจึงต้องเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิจนถึงอายุ 2 ปี

ถือเป็นช่วงเวลาทองของเด็กที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสมอง เพราะโครงสร้างสมองจะมีการพัฒนาสูงสุด ทั้งการสร้างเซลล์สมองและการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมองเกิดเป็นโครงข่ายใยประสาทนับล้านโครงข่าย และการที่เซลล์สมองมีการเชื่อมต่อกันทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ส่งผลต่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

การปฏิบัติตัวตอนตั้งครรภ์

คนท้องต้องปฏิบัติตัวตอนตั้งครรภ์อย่างไร

การเตรียมความพร้อมของสตรีก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอด เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งยังเป็นตัวกำหนดสุขภาพและโรคในอนาคตได้อีกด้วย

  • ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 12 สัปดาห์

คนท้องต้องกินวิตามิน ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก สัปดาห์ละ 1 เม็ด รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาหารต้องอุดมด้วยธาตุเหล็กและโฟเลท เช่น ตับ เนื้อสัตว์ ผักผลไม้เพื่อลดความเสี่ยงต่อความพิการแต่กำเนิด ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูก

  • ในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดไปจนกระทั่งเด็กอายุ 2 ปี

แม่ต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดี ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต คือ ช่วงที่อยู่ในท้องแม่ ช่วงเด็กอายุ 0-6 เดือน ช่วงเด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี แม่ควรกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เช่น ปลา ตับ ไข่ ผัก ผลไม้ และนมสดรสจืด กินวิตามินบำรุงที่มีไอโอดีน เหล็ก โฟลิกทุกวัน หากขาดไอโอดีนลูกน้อยสมองพัฒนาไม่สมบูรณ์ไอคิวต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และต้องคอยดูแลฟัน ออกกำลังกาย นอนหลับวันละ 7-9 ชั่วโมงทุกวัน

การกิน

แม่ควรให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่กับอาหารตามวัย เน้นข้าว เนื้อสัตว์สลับตับ ไข่ ผัก ผลไม้ในปริมาณเพียงพอสัดส่วนเหมาะสมอาหารตามวัยบดละเอียดไปหยาบจนถึงอายุ 2 ปีขึ้นไป เพราะนมแม่มีสารอาหารที่สำคัญสำหรับการพัฒนาสมองซึ่งไม่มีอาหารใดเทียบได้

เด็ก 1-3 ปี ต้องกินอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ในปริมาณเพียงพอสัดส่วนเหมาะสมเน้นกินปลา ตับ ไข่ นม

การกอด

พ่อแม่ควรกอดลูกทุกวันเพื่อให้เด็กรับรู้ว่าพ่อแม่รักและหวังดีเสมอ การอบรมเด็กต้องทำด้วยความรัก ความเข้าใจและใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์บังคับ ฝืนใจ ไม่ดุด่าให้ลูกกลัวและเสียกำลังใจ คอยให้คำแนะนำ พูดชมเชยและให้รางวัลถ้าลูกทำได้ดี ซึ่งรางวัลสำหรับเด็กเล็กเพียงแค่กอด หอมแก้ม ตบมือให้ เท่านี้เด็กก็ภูมิใจแล้ว

การเล่า

พ่อแม่สามารถเล่านิทานให้ลูกฟังได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือเมื่อเด็กอายุ 3 เดือน ให้เริ่มเล่านิทานให้ฟังเป็นประจำทุกวันต่อเนื่องจนกระทั่งเด็กโต เลือกนิทานที่มีภาพน่ารัก รูปสัตว์ ใช้เสียงสูง ต่ำ หรือร้องเพลงประกอบขณะเล่า ควรเล่าให้จบเล่ม และเก็บหนังสือไว้ที่เดิมให้ลูกมองเห็นได้

การนอน

วิธีดูแลลูกเมื่อเข้าสู่วัยเรียน

พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องดูแลให้เด็กกินอาหารถูกหลักโภชนาการ จัดอาหารหลักให้เด็กกินให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่เว้นมื้อใดมื้อหนึ่งโดยเฉพาะมื้อเช้า เพราะจะทำให้เด็กความจำดี พัฒนาสมอง และควรจัดอาหารให้ เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเด็ก

  1. ใน 1 วัน เด็กควรกินข้าว/แป้ง 8 ทัพพี ผัก 4 ทัพพี ผลไม้ 3 ส่วน เนื้อสัตว์ 6 ช้อนกินข้าว นม 2 แก้ว
  2. ฝึกเด็กในการกินอาหารให้ตรงเวลา ไม่กินจุบจิบ ไม่กินขนมก่อนอาหารมื้อหลัก
  3. ส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายชนิดที่มีแรงกระแทกของข้อ เช่น กระโดดเชือก กระโดดยาง กระโดดตบ เล่นบาสเก็ตบอล โดยทำต่อเนื่องไม่น้อยกว่าครั้งละ 10-15 นาที ทุกวันๆ ละ 60 นาที หรือทำแบบสะสมเวลา
  4. ลูกต้องนอนหลับสนิทอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง โดยลดปัจจัยเอื้อที่เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับ เช่น ไม่เล่นเกมก่อนนอน ไม่วางโทรศัพท์ไว้บนที่นอน หรือไม่เปิดทีวีทิ้งไว้ในห้องนอน เพื่อให้นอนหลับสนิท ซึ่งจะส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโต การเพิ่มความสูง และควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้เป็นไปอย่างปกติ

 

เฝ้าดูฟัน

ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการส่งเสริมให้ลูกฉลาด แข็งแรง เติบโตสมวัยคือ การเฝ้าดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูกตั้งแต่ฟันซี่แรก รองอธิบดีกรมอนามัย เตือนว่า หากเด็กมีปัญหาฟันผุจะสร้างความเจ็บปวด การติดเชื้อ และปัญหาการบดเคี้ยวอาหารส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก

นอกจากนี้ การมีฟันผุหลายซี่ในปากมีความสัมพันธ์กับภาวะแคระแกร็นของเด็กและเด็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจะมีแนวโน้มว่าฟันแท้จะผุมากขึ้นเช่นกัน เมื่อไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที โรคจะลุกลามและสูญเสียฟันในที่สุด และอาการเจ็บปวดอาจทำให้ต้องหยุดเรียน ส่งผลกระทบต่อการเรียนด้วย

 

การปฏิบัติตัวตอนตั้งครรภ์หรือวิธีดูแลตัวเองตอนท้องนี้ สามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก สิ่งสำคัญคือ หากแม่รู้ตัวว่าท้องต้องรีบฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด ต้องไปตามนัดทุกครั้ง หมั่นสังเกตอาการตัวเอง เพราะคนท้องมักจะมีอาการมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งอาการที่เป็นปกติระหว่างตั้งครรภ์ รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งทำให้ทั้งคนท้องและทารกในครรภ์มีความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ถ้าแม่ท้องรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ เพื่อได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องนะคะ

Credit content : th.theasianparent.com

Advertisement

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

อยากให้ผิวพรรณดี ไม่หมอง ไม่คล้ำ ระหว่างตั้งครรภ์ทำได้ไม่ยาก

9 วิธีลดอาการบวมระหว่างตั้งครรภ์

 

บทความจากพันธมิตร
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่
4 อาการคนท้อง  ยอดฮิตของแม่ตั้งครรภ์ เลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้
4 อาการคนท้อง ยอดฮิตของแม่ตั้งครรภ์ เลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • 9 สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำไม่ทำอะไร
แชร์ :
  • คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

    คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

  • คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

    คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

    วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

  • คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

    คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

  • คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

    คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

    วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว