รีเทนเนอร์ ไม่ใช่การจัดฟันเหมือนที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจกันผิด จริง ๆ แล้วรีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้คงสภาพฟัน เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งที่เป็นอยู่ ซึ่งทันตแพทย์จัดฟันจะให้คนไข้ที่จัดฟันเสร็จใส่รีเทนเนอร์อย่างเคร่งครัดเพื่อคงสภาพฟันหลังจากจัดฟันเสร็จนั้นเอง รีเทนเนอร์สีไหนสวยมันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคนเราว่าชอบสีไหนเพราะว่าความชอบมันต่างกัน เราไปดูกันว่ารีเทนเนอร์สำคัญอย่างไร จัดฟันรีเทนเนอร์ราคาเท่าไหร่ เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์คืออะไร ไปดูกันเลย
รีเทนเนอร์สำคัญอย่างไร?
คนไข้ที่จัดฟันทุกคน เมื่อถอดเครื่องมือจัดฟันแล้วทันตแพทย์จัดฟันจะแนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อคงสภาพของฟันหลังจากจัดฟันเสร็จ หากคนไข้ไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ฟันของคนไข้มีโอกาสที่จะเคลื่อนไปจากเดิม อาจเกิดฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก ฟันล้มเป็นต้น
เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์
- ฟันของคุณหลังจากจัดฟันเสร็จมีโอกาสเคลื่อนตัวกลับสู่สภาพเดิมเหมือนก่อนจัดฟัน
- ฟันของคนเรามีโอกาสที่จะเคลื่อนตัว เมื่อมีอายุที่มากขึ้นนั้นเอง
รีเทนเนอร์แบบไหน ถึงจะเหมาะกับฟันเรา รีเทนเนอร์สีไหนสวย
รีเทนเนอร์ที่ใช้กันทั่วไปมีอยู่ 2 แบบ คือรีเทนเนอร์แบบลวด และรีเทนเนอร์แบบใส และยังมีแบบที่ใช้บ้างเป็นกรณี คือรีเทนเนอร์แบบติดแน่น และรีเทนเนอร์แบบเหล็ก ดังนั้นจึงขอสรุปไว้คร่าว ๆ ก่อนว่ารีเทนเนอร์มี 4 แบบ ดังนี้ รีเทนเนอร์แบบลวด รีเทนเนอร์แบบใส รีเทนเนอร์แบบติดแน่น และรีเทนเนอร์แบบเหล็ก (สามารถใส่รับประทานอาหารได้) เราไปดูกันว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไรบ้าง
1. รีเทนเนอร์แบบใส
รีเทนเนอร์แบบนี้เป็นแบบที่ใช้กันแพร่หลาย ลักษณะเป็นแผ่นพลาสติกใส ล้อมฟันโดยรอบทั้งด้านนอกและด้านใน แต่ไม่มีส่วนของเพดาน มีความหนาโดยประมาณ 0.75-1.5 มิลลิเมตร
รีเทนเนอร์ราคา : ราคาอาจอยู่ระหว่าง 1,490-2,500 บาทต่อชิ้น
ข้อดี : ไม่รบกวนการออกเสียง ยิ้มแล้วมองไม่เห็นเหล็ก ขนาดมีความเล็กเทอะทะน้อยกว่าแบบลวด
ข้อเสีย : ทำความสะอาดยากกว่าแบบลวด อายุการใช้งานสั้นประมาณ 0.5-1.5 ปี และหากหมดอายุการใช้งานแล้วจะต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่ บางทีน้ำลายอาจจะขังได้ในรีเทนเนอร์ซึ่งบางคนไม่ชอบ สึกหรอได้ง่ายในคนไข้ที่ชอบนอนกัดฟัน ทำให้คงสภาพฟันได้ไม่ดี เมื่อเริ่มสึกหรอ และอีกเรื่องที่ทุกคนมักจะสงสัยกันว่า รีเทนเนอร์แบบใส จะเหลืองไหม คำตอบคือ เหลือง ยิ่งทำความสะอาดไม่ดีก็จะมีคราบเหลืองติดเป็นจำนวนมาก หรืออาจจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้นั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : จัดฟันแบบใส สร้างโลกสดใสให้เด็ก ๆ มีรอยยิ้มสวยมั่นใจได้มากกว่าที่คิด
2. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
จะมีลักษณะเป็นลวดเส้นเดียวยึดอยู่บนฟันด้านในมักจะใช้ในกรณีที่พิจารณาแล้วว่าฟันจะเคลื่อนกลับได้ง่าย เช่น ยึดฟันหน้าบนหรือล่างในกรณีก่อนจัดฟันซ้อนเกมากหรือห่างมากจนเกินไป หรือใช้ยึดฟันหลังเอาไว้รอใส่ฟันปลอมในอนาคตป้องกันฟันล้มในช่วงที่ยังไม่ได้ใส่ฟันปลอม รีเทนเนอร์แบบนี้คนไข้ไม่สามารถขอให้คุณหมอทำให้ได้ คุณหมอจะเป็นคนพิจารณาเองว่าคนไข้เหมาะกับรีเทนเนอร์แบบนี้หรือไม่
บุคคลที่ใส่รีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะต้องทำความสะอาดอย่างดี ใช้ไหมขัดฟันหรือแปลงซอกฟัน ไม่อย่างนั้นอาจจะก่อให้เกิดฟันผุขึ้นได้หรืออาจจะเป็นโรคเหงือกได้ง่าย และจะต้องพบหมอจัดฟันอย่างต่อเนื่องทุก 6 เดือน เนื่องจากจะมีจุดที่หลุดแล้วเราไม่ทราบได้ โดยทั่วไปแล้วถ้าคุณหมอพบว่าเราดูแลได้ดีไม่มีปัญหาอื่น ๆ อาจจะให้ใส่ไปเรื่อย ๆ ถ้าหากพบปัญหาเรื่องแตกหักเสียหาย ฟันผุอาจจะต้องถอดหลังจากติดไปได้ 1-2 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ฟันเคลื่อนได้ยากแล้ว แล้วใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ต่อ
รีเทนเนอร์ราคา : ราคาโดยประมาณไม่สามารถคำนวณได้เพราะขึ้นอยู่กับทางคุณหมอด้วย
ข้อดี : ป้องกันฟันเคลื่อนได้ดีมาก ไม่ต้องถอดเข้า และถอดออก
ข้อเสีย : ทำความสะอาดยาก มีโอกาสหลุดได้ คนที่ใส่จะต้องพบหมอทุก 6 เดือนเพื่อเช็กสภาพ และโดยทั่วไปแล้วก็ยังจะต้องใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ทับอีกชั้นด้วย
3. รีเทนเนอร์แบบลวด
รีเทนเนอร์แบบนี้เป็นแบบที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด มีลักษณะคือ มีโครงเป็นอะคริลิกสีหรือลวดลายบริเวณเพดานปาก เช่น รีเทนเนอร์สีชมพู มันก็คือส่วนของเพดานนั้นเอง (บางคนเรียกว่าส่วนของเหงือก) และมีส่วนที่ยึดฟันเป็นลวดที่ล้อมฟันเอาไว้ อาจจะมีอะคริลิกทับลวดอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นสีใสหรือเป็นสีต่าง ๆ ก็เป็นได้แล้วแต่เราเลือก บางคนเรียกว่าท่อสีนั้นเอง แต่ตามความจริงแล้วมันคืออะคริลิก แต่ถ้าเป็นแบบที่เป็นท่อสี ๆ ที่ไม่ใช้อะคริลิกมันคือ รีเทนเนอร์แฟชั่น ซึ่งไม่ได้จัดทำโดยทันตแพทย์นั้นเอง
รีเทนเนอร์ราคา : รีเทนเนอร์แบบลวดจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาทต่อชิ้น
ข้อดี : ทำความสะอาดได้ง่าย อายุการใช้งานค่อนข้างนานกว่าที่เป็นแบบใส เพราะอายุการใช้งานจะประมาณ 2-3 ปีเลยทีเดียว คงสภาพฟันได้ดี ปรับแต่งแก้ไขได้ง่าย สามารถเลือกสีสันได้ บางคนอาจจะชอบก็ได้
ข้อเสีย : ขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าแบบใส รบกวนการพูด การออกเสียง ยิ้มแล้วยังเห็นลวด
4. รีเทนเนอร์แบบเหล็ก (สามารถใส่ทานอาหารได้)
รีเทนเนอร์แบบนี้พึ่งจะเริ่มทำกันในช่วงหลัง ๆ มีการโฆษณาข้อดีว่าสามารถใส่ทานอาหารได้ โดยที่ไม่ต้องถอดออก และไม่ต้องกลัวลืมไว้เวลาถอนทานอาหาร แข็งแรง โยนลงพื้นก็ไม่เป็นไร
รีเทนเนอร์ราคา : รีเทนเนอร์แบบลวดจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อชิ้น
ข้อดี : ป้องกันฟันเคลื่อน และสามารถใส่ทานอาหารได้
ข้อเสีย : อาจจะทำให้เราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด และอาจทำให้อาหารติดในซอกได้เวลาทาน
การจัดฟันครั้งแรกต้องเตรียมอะไรบ้าง?
การจัดฟันครั้งแรกต้องมีการเตรียม และสิ่งที่ต้องเตรียมคือทั้งร่างกายและจิตใจ และค่าใช้จ่ายให้พร้อม ส่วนเรื่องรายละเอียดการจัดฟัน ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันก็จะขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่เราไปทำ อันดับแรกเลยคือค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปากก็จะอยู่ที่ฟันเราผุไหม หินปูนเยอะหรือเปล่า และมีฟันกรามขึ้นกี่ซี่ต้องผ่าออกไหมนั้นเอง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแต่ละแบบเราจะยกตัวอย่างราคาแบบคร่าว ๆ ให้ท่านก่อนไปดูเลยว่าจัดแบบไหนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
- จัดฟันแบบโลหะ : ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 38,000-47,000 บาท
- จัดฟันแบบดามอน : ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 76,000-78,000 บาท
- จัดฟันแบบใส : ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 60,000-150,000 บาท
แต่ก็เป็นเพียงราคาคร่าว ๆ ถ้าหากสนใจแบบไหนสามารถไปติดต่อที่สถานพยาบาลใกล้เคียงได้เลยว่าค่าใช้จ่ายรวมแล้วเท่าไหร่ และสามารถตรวจได้เลยว่าการเคลียร์ช่องปากนั้นคุณจะต้องเคลียร์อะไรบ้าง
บทความที่เกี่ยวข้อง : จัดฟัน ทำไมบางคนต้องจัดฟัน ประโยชน์ของการจัดฟันมีอะไรบ้าง
รีเทนเนอร์ใช้ระยะเวลาใส่กี่ปี?
รีเทนเนอร์ใส่กี่ปี อยากมีฟันสวยนานแค่ไหน ก็ใส่รีเทนเนอร์นานแค่นั้น อยากมีฟันสวย 2 ปี ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์ 2 ปีอยากมีฟันสวยไปจนแก่ให้ลูกหลานได้เห็นว่า กาลครั้งหนึ่ง คุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย เคยจัดฟันก็ให้ใส่รีเทนเนอร์ไปจนแก่ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณ
เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ การจัดฟันก็เช่นกันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันมีราคาที่ต้องจ่ายไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ซึ่งนอกจากเรื่องค่าจัดฟันและระยะเวลารักษาที่ยาวนานแล้ว ถ้าคุณอยากมีฟันสวยเหมือนตอนที่ถอนเครื่องมือจัดฟันใหม่ ๆ แล้วละก็ คุณต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟันหรือเรียกทับศัพท์กันว่า “รีเทนเนอร์ (Retainers)” อย่างสม่ำเสมอไปเรื่อย ๆ เป็นการแลกเปลี่ยน แต่ถ้าหากว่าได้รีเทนเนอร์มาแล้วแต่รู้สึกว่ารีเทนเนอร์หลวมเราก็ควรจะแจ้งทันตแพทย์ทันทีเพื่อทำการแก้ไขต่อไป
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!