สะใภ้ห้ามแม่ผัว ป้อนกล้วยลูก 2 เดือน โดนสวนกลับ ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน
เชื่อว่าคุณแม่ และคนที่ไม่ใช่คุณแม่หลายคน คงเคยได้เห็นและได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการป้อนกล้วยบดเด็กเล็กที่อายุไม่ถึง 6 เดือน กันอยู่บ่อย ๆ ด้วยเหตุผลเพราะผู้ใหญ่มักจะบอกว่าเคยกระทำมาก่อน ยกตัวอย่างเช่นที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Drama-addict มีการโพสต์ภาพจากเฟซบุ๊ก Gstrong ผู้หญิงสวย บนโลกความจริง เรื่องของการ ป้อนกล้วยลูก โดยมีข้อความว่า
แม่ผัวลั่น อาบน้ำร้อนมาก่อน ป้อนกล้วยลูก 2 เดือน พอห้ามกลับโดนไล่ไปอยู่กับหมอ
“คุณแม่มีลูกอายุ 2 เดือน แต่แม่สามีจะบังคับให้ป้อนกล้วยบด จึงแย้งไปว่าลูกยังเล็กลำไส้ยังไม่ดี ก็ถูกแม่สามีต่อว่า ว่าไม่นับถือ ทำนองว่าเขาอาาบน้ำร้อนมาก่อน คุณแม่รายนี้จึงโต้ตอบกลับไปว่าหมอให้ทานได้ตอน 6 เดือน ช่วงนี้ต้องทานนมแม่อย่างเดียว แม่สามีกลับบอกว่าจะไปเชื่ออะไรหมอ ถ้าเชื่อหมอก้ไปอยู่กับหมอ อย่ามาอยู่บ้านเขา คุณแม่คนนี้จึงเก็บของกลับบ้านเพราะกลัวแม่สามีจะแอบป้อนกล้วยบด”
ขณะที่ชาวเน็ต ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Drama-addict
นอกจากกรณีข้างต้นแล้ว ที่ผ่านมาในโซเชียลยังได้เคยมีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ใหญ่ให้หลานกินกล้วยบด จนติดเชื้อในลำไส้ก่อนเสียชีวิต โดยสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์ข้อความระบุว่า มีญาติผู้ใหญ่ให้หลานกินกล้วยบด ข้าวบด จนทำให้เด็กติดเชื้อในลำไส้ต้องเข้าโรงพยาบาล กระทั่งสุดท้ายเด็กได้เสียชีวิตลงในที่สุด โดยอ้างว่าเป็นความเชื่อสมัยโบราณนั้น
คำอธิบายจากคุณหมอเด็ก
พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด หมอเด็กชื่อดังได้อธิบายถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า คุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวอาจจะเคยเผชิญความขัดแย้งของความรู้ที่ได้รับจากโรงพยาบาลที่สนับสนุนนมแม่ กับความรู้หรือภูมิปัญญาจากรุ่นคุณปู่ย่าตายาย ซึ่งมองว่าความขัดแย้งนี้เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากความรู้ที่ญาติผู้ใหญ่ได้รับมาจากหมอรุ่นก่อน ตอนที่ความรู้เรื่องนมแม่ยังมีไม่มาก ย่อมไม่เหมือนกับความรู้ในปัจจุบัน
ซึ่งในกรณีนี้ คุณหมอเด็กยังเผยอีกว่า แม้กล้วยจะเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารเยอะ แต่ไม่ควรป้อนกล้วยหรืออาหารอื่นก่อนอายุ 6 เดือน นอกจากนมแม่ เพราะจะทำให้เด็กเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้
ที่มารูปภาพ : ไทยรัฐ
คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
ทั้งนี้ คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เริ่มอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมหลังเด็กอายุ 6 เดือน เนื่องจากก่อน 6 เดือนเด็กยังมีกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่แข็งแรงเต็มที่ ระบบการย่อยยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมเข้าไป อาจมีความผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารเนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวม ๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ได้ในอนาคต
ส่วนในกรณีที่ว่า หากเริ่มให้อาหารอื่นก่อนอายุ 6 เดือน เด็กจะเป็นอะไรหรือไม่นั้น พญ.สุธีรา เผยว่า มีทั้งเด็กที่เป็นอันตราย และไม่ได้เป็นอันตราย อย่างล่าสุดมีกรณีที่ผู้ใหญ่เอากล้วยป้อนเด็กอายุเพียงไม่กี่เดือน จนเด็กมีอาการตาเขียวคาดว่าน่าจะสำลัก เพราะว่าเด็กยังมีการเคี้ยวการกลืนได้ไม่ดี และก้อนกล้วยไปติดลมหายใจ หลอดลม เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็อยู่ได้เพียง 2 วัน ก่อนจะเสียชีวิต
ทำไมบางคนไม่เห็นเป็นไร
ส่วนเด็กที่กินกล้วยก่อนอายุ 6 เดือน แล้วปกติดี ไม่เป็นอะไร ก็ถือว่าโชคดี น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ป้อนเยอะเกินไปจนเกิดปัญหา แต่เวลาที่ให้เด็กกินกล้วย อยากให้สังเกตด้วยว่า ระบบขับถ่ายเป็นอย่างไร เพราะ เด็กบางคนกินกล้วยแล้วท้องผูก แต่เด็กบางคนกินกล้วยแล้วถ่ายง่ายนิ่มเป็นปกติดี
“ธรรมชาติบอกเป็นนัยมาอยู่แล้วค่อ ว่า ฟันของเด็กจะขึ้นช่วงอายุ 6 เดือน ดังนั้น ตอนที่ฟันของเด็กยังไม่ขึ้น พ่อแม่ก็ยังไม่ควรจะป้อนอาหารอื่นๆ ให้เด็กนอกเสียจากนมแม่ และถึงแม้ว่า สารอาหารในกล้วยจะมีอยู่ประมาณ 20 กว่าชนิด ขณะที่สารอาหารในนมแม่มีมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลย และเหตุใดพ่อแม่จึงต้องรีบให้ลูกสละการกินอาหารที่มีสารอาหารมากกว่า ไปกินอาหารที่มีสารอาหารน้อยกว่า” กุมารแพทย์ชื่อดัง ให้ความรู้
ที่มา thairath.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกตาย เพราะยายป้อนกล้วย หลังเกิดมาได้แค่ 10 วัน ต้องอีกกี่รายถึงจะยอมเชื่อ
โรคฮีน็อคในเด็ก อย่าคิดว่าแค่ผื่นธรรมดา..อันตรายหากถึงมือหมอช้า
แม่เล่าทั้งน้ำตา ลูกตายเพราะอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ ต้องให้ตายอีกกี่คนถึงจะคิดได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!