X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ตรวจครรภ์ก่อนคลอด สำคัญนะ!!! แม่ท้องแก่อย่าละเลย

บทความ 5 นาที
ตรวจครรภ์ก่อนคลอด สำคัญนะ!!! แม่ท้องแก่อย่าละเลย

เรามีตัวอย่างการตรวจครรภ์ก่อนคลอดมาให้อ่านกันค่ะ

ลูกจะเกิดมามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายของเขาไหมนะ ? แล้วคุณจะต้องเผชิญกับความยุ่งยากอะไรต่อจากนี้หรือไม่ ? เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่คุณต้องมีความรู้ในการเตรียมตัว และเข้าร่วมการตรวจทุกอย่างก่อนคลอด เพื่อหาปัญหาของคุณให้เจอเสียก่อน ยิ่งตรวจหาปัญหาเจอก่อน ก็จะยิ่งมีเวลา และวางแผนการรักษาได้หลายรูปแบบมากขึ้น ตรวจครรภ์ก่อนคลอด สำคัญนะ !!! แม่ท้องแก่ห้ามละเลยเด็ดขาด

ตัวอย่างการ ตรวจครรภ์ก่อนคลอด

  • การเจาะถุงน้ำคร่ำ
  • การตัดชิ้นเนื้อจากรก (CVS)
  • การเจาะเลือดทารกจากสายสะดือ (FBS)

การตรวจแต่ละประเภท มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน และเหมาะกับแม่ท้องที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ กันออกไป อย่างไรก็ตาม การตรวจแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุด ตัวอย่างการตรวจครรภ์ก่อนคลอด มีดังนี้

การเจาะถุงน้ำคร่ำ

หมายถึง การรวบรวมข้อมูลและตรวจหาสาเหตุของความผิดปกติของโครโมโซม เช่น ดาวน์ซินโดรม การเผาผลาญอาหารผิดปกติจากกรรมพันธุ์ และการติดเชื้อในครรภ์

การตรวจนี้เหมาะกับใคร

การตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป เคยมีบุตรที่มีความผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด เคยมีประวัติครอบครัวที่มีความผิดปกติของร่างกาย หรือได้รับผลการตรวจคัดกรองที่ไม่ปกติ

เมื่อไหร่จึงควรตรวจ

มักจะเป็นระยะเวลาตั้งครรภ์ระหว่าง 15 – 20 สัปดาห์

ตรวจอย่างไร

แพทย์จะนำน้ำคร่ำบางส่วนจากผนังมดลูกออกมาในขณะที่ทำการอัลตร้าซาวน์ด้วยเข็มเล็กมากๆ เซลล์นี้จะถูกเพาะเลี้ยงในจานเพาะเชื้อ และจะทำการวินิจฉัย คนไข้อาจจะมีความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น คนไข้จะได้รับผลการตรวจภายใน 1-2 สัปดาห์

ความเสี่ยงที่อาจเกิด

มีความเสี่ยงที่จะทำให้ทารกบาดเจ็บ แต่ก็น้อยมาก ขั้นตอนนี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะแท้งบุตรเพียง 1 ต่อ 200 อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำที่เกิดการติดเชื้อที่มดลูก และน้ำคร่ำรั่ว

ตรวจครรภ์ก่อนคลอด

 

การตัดชิ้นเนื้อจากรก (CVS)

หมายถึง มักใช้วิธีนี้ในการหาข้อมูลโครโมโซมที่ผิดปกติ เช่น ดาวน์ซินโดรม และความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ข้อดีของการตรวจแบบนี้ ที่ไม่เหมือนการเจาะน้ำคร่ำ คือ สามารถตรวจได้ในระยะตั้งครรภ์ที่เร็วกว่า สามารถให้ครอบครัวตัดสินใจ และรับฟังคำปรึกษาจากแพทย์ได้อย่างทันท่วงที

การตรวจนี้เหมาะกับใคร

การตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป เคยมีบุตรที่มีความผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด เคยมีประวัติครอบครัวที่มีความผิดปกติของร่างกาย หรือได้รับผลการตรวจคัดกรองที่ไม่ปกติ

เมื่อไหร่จึงควรตรวจ

มักจะเป็นระยะเวลาตั้งครรภ์ระหว่าง 15 – 20 สัปดาห์

ตรวจอย่างไร

แพทย์จะใช้เข็มสะกิดเนื้อเยื่อบาง ๆ ในรกออกมาในระหว่างการทำอัลตร้าซาวด์ เนื้อเยื่อบาง ๆ นี้จะนำไปตรวจหาการคลอดบุตรที่ผิดปกติ เพราะทารกเกิดจากรก และตัวอย่างของเนื้อเยื่อนี้จะต้องมีโครโมโซมเหมือนกันกับทารกที่ยังอยู่ในครรภ์ขณะนี้ อาจจะมีอาการเจ็บปวดเบา ๆ ระหว่างกระบวนการนี้และจะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ด้วย คนไข้จะได้รับผลการตรวจภายใน 1 – 2 สัปดาห์

ความเสี่ยงที่อาจเกิด

การตรวจแบบนี้ก่อให้เกิดการแท้งบุตรเพียง 1% แต่ยังมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และข้อบกพร่องของการเจริญเติบโตของเด็ก หากทำการตรวจนี้เร็วเกินไป

บทความแนะนำ: สร้างความสัมพันธ์กับลูกน้อยแรกเกิด

ตรวจครรภ์ก่อนคลอด

การเจาะเลือดทารกจากสายสะดือ (FBS)

หมายถึง มักใช้วิธีนี้ในการหาข้อมูลโครโมโซมที่ผิดปกติ เช่น ดาวน์ซินโดรม และความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และการติดเชื้อที่อาจเกิดผลกระทบกับทารกในครรภ์และภาวะโลหิตจาง หรือระดับเกล็ดเลือfต่ำ ข้อดีที่สำคัญที่สุดของการตรวจแบบนี้คือ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลดีต่อทารกในครรภ์ที่อาจถูกรบกวนจากการตรวจ

การตรวจนี้เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับมารดาที่พบความผิดปกติจากการตรวจคัดกรอง เช่น จากการอัลตร้าซาวด์ เมื่อการตรวจในแบบอื่น ๆ ยังสรุปไม่แน่ชัด หรือเมื่อทราบถึงการติดเชื้อโรคบางอย่างที่อาจกระทบถึงบุตรในครรภ์ได้

เมื่อไหร่จึงควรตรวจ

มักจะเป็นระยะเวลาตั้งครรภ์ระหว่าง 18 – 23 สัปดาห์

ตรวจอย่างไร

แพทย์จะใช้เข็มเจาะผ่านท้อง เข้าไปถึงมดลูก และเก็บตัวอย่างเลือดจากทารกในครรภ์ ในระหว่างการทำอัลตร้าซาวด์ อาจเจ็บปวดเล็กน้อยระหว่างขั้นตอนที่ทำ และจะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ คนไข้จะได้รับผลการตรวจภายใน 3 – 5 วัน

ความเสี่ยงที่อาจเกิด

มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรเพียง 1 – 1.5%

ตรวจครรภ์ก่อนคลอด

โค้งสุดท้ายก่อนคลอด แม่ท้องแก่เจออะไรบ้าง

เรื่องจริงที่แม่ท้องใกล้คลอดต้องเจอ โค้งสุดท้ายแล้วคนท้องต้องเจออะไรบ้าง?

1.กังวลว่าเมื่อไหร่จะถึงวันคลอด

คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้ว่าวันไหนคือวันครบกำหนดคลอดคร่าวๆ เท่านั้น สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอดอาจจะไม่ต้องกังวลมากนักเพราะว่ารู้วันเวลาที่แน่นอน แต่สำหรับแม่ที่คลอดธรรมชาตินั่นไม่เหมือนกัน บบางทีถึงวันครบกำหนดแล้วแต่ยังไม่คลอดสักทีจนเลยไปถึง 42 สัปดาห์เลยก็มี

2.น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น

ยิ่งนานวันคุณแม่จะรู้สึกว่าท้องโตขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจะเดินก็ลำบาก เนื่องจากภายในม้องของคุณแม่ไม่ได้มีแค่ลูกน้อยเท่านั้น แต่ยังมีรก มีน้ำคร่ำ ไหนจะน้ำหนักตัวของคุณแม่เองอีก ทำให้คุณแม่ยิ่งรู้สึกว่าเคลื่อนไหวลำบาก เหนื่อยง่าย จะยืนจะเดินนานๆ ก็ไม่ได้อีก

3.ความอดทนเริ่มลดน้อยลง

เมื่อลูกโตขึ้นมดลูกก็จะไปเบียบพื้นที่ในร่างกายของคุณแม่ให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้คุณแม่ท้องผูกเอาได้ง่ายๆ ไหนจะฮอร์โมนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบ่ยตัว และเริ่มมีโรคอื่นๆ ตามมา เช่น โรคริดสีดวงทวาร และผื่นคัน ทำให้คุณแม่รู้สึกว่าเมื่อไหร่ลูกจะคลอดสักทีนะ แม่เริ่มไม่ไหวแล้ว

4.อาการต่างๆ รุมเร้า

แม่ท้องมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก ท้องผูก ไม่สบายเนื้อตัวมาตลอดการตั้งครรภ์ และส่วนใหญ่มักจะบ่นกันเรื่องปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหน่วงๆ บริเวณหัวเหน่า ขาบวม เท้าบวม ระบบขับถ่ายแย่ กรดไหลย้อน ทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมเข้ามา และมักจะรู้สึกแย่มากๆ ในช่วงใกล้คลอด เพราะเกิดการหดตัวที่มากขึ้น รวมถึงการเจ็บท้องหลอกที่ถี่ขึ้นอีกด้วย

5.พยายามถามทุกอย่าง

ความกังวลของคุณแม่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นในช่วงโคงสุดท้ายก่อนคลอด โดยเฉพาะท้องแรก คุณแม่จะยิ่งสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากคนที่มีประสบการณ์มาก่อน หรือถามใครก็ได้ที่ช่วยให้ข้อมูล หรือช่วยคลายความกังวลของคุณแม่ให้ได้มากที่สุด

6.นอนหลับยาก

ถึงแม้ว่าคุณแม่จะพยายามนอนตามที่หลายคนแนะนำมาก แต่ก็นั่นแหละพอจะนอนจริงๆ ก็เหมือนนอนไม่เต็มที่ หลับได้สักพักก็ต้องตื่น เพราะลูกดิ้นบ้าง ปวดเมื่อย แขนขาชาบ้าง เจ็บหน่วงๆ จนทำให้ตื่น หรืออาจรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวกบ้าง

7.เข้าห้องน้ำบ่อย

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ท้องต้องงตื่นนอนบ่อยๆ ด้วยความที่กระเพาะปัสสาวะที่มดลูกที่ขยายเบียดมากขึ้น ทำให้พื้นที่ลดลงน้อย คุณแม่จึงต้องขยันเดินเข้าห้องน้ำบ่อยๆ จนทำให้คุณแม่รู้สึกรำคาญตัวเองบ้างก็มี เพราะว่าเพิ่มจะนอนหลับได้เอง ต้องตื่นไปเข้าห้องน้ำเสียแล้ว

8.เบื่อที่จะรอแล้ว

คุณแม่ที่รอคอยลูกน้อยมาจนถึงสัปดาห์สุดท้ายก่อนคลอด จะรู้สึกตื่นเต้นมากๆ และอยากจะเจอหน้าลูกเร็วๆ และถ้าถึงกำหนดคลอดแล้วแต่ลูกยังไม่คลอดจะรู้สึกว่าอยากให้ลูกคลอดมาสักที ไม่อยากจะรอแล้ว ทำให้คุณแม่หลายคนเริ่มที่จะหาวิธีเร่งคลอดเพื่อที่จะได้พบลูกน้อยได้เร็วขึ้น

ที่มา : www.healthline.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คุณแม่ต้องรู้ วิธี เตรียมพร้อม คลอดธรรมชาติ ก่อนคลอดต้องเตรียมตัวยังไง?

หญิงไทยทุกคนมีสิทธิในการฝากครรภ์ฟรีแล้ว

เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลเด็กแรกเกิด

บทความจากพันธมิตร
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
เคล็ดลับเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และเทคนิคการเพิ่มน้ำนมตั้งแต่ตั้งครรภ์
เคล็ดลับเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และเทคนิคการเพิ่มน้ำนมตั้งแต่ตั้งครรภ์
ผิวแตกลาย เกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดควรรู้
ผิวแตกลาย เกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดควรรู้
เช็กเลย 5 คุณสมบัติ แคลเซียมสำหรับคนท้อง แม่ทานง่าย ลูกปลอดภัย ได้ประโยชน์สูงสุด
เช็กเลย 5 คุณสมบัติ แคลเซียมสำหรับคนท้อง แม่ทานง่าย ลูกปลอดภัย ได้ประโยชน์สูงสุด

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

ชลลดา วาดนิ่ม

  • หน้าแรก
  • /
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • /
  • ตรวจครรภ์ก่อนคลอด สำคัญนะ!!! แม่ท้องแก่อย่าละเลย
แชร์ :
  • ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

    ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

  • รวม 10 ที่ตรวจครรภ์ ซื้อ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแม่น ผิดพลาดน้อย!

    รวม 10 ที่ตรวจครรภ์ ซื้อ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแม่น ผิดพลาดน้อย!

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

    ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

  • รวม 10 ที่ตรวจครรภ์ ซื้อ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแม่น ผิดพลาดน้อย!

    รวม 10 ที่ตรวจครรภ์ ซื้อ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแม่น ผิดพลาดน้อย!

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ