เคยสงสัยไหมทำไม คนท้องมือชา ชาปลายนิ้วมือ เป็น ๆ หาย ๆ เป็นอาการที่พบได้บ่อย ๆ จนทำให้คุณแม่ท้องหลายท่านเกิดความกังวล กลัวว่าอาการมือชาตอนท้องนี้ จะส่งผล หรือเป็นอาการเริ่มต้นของโรคอื่น ๆ หรือไม่ แต่จริง ๆ แล้วอาการแบบนี้เกิดจากอะไรกันแน่ เรามาหาคำตอบกันเลย
สาเหตุที่ทำให้ คนท้องมือชา ชาปลายนิ้วมือ
สาเหตุที่ทำให้คนท้องมือชานั้น เป็นเพราะในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่ท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งส่งผลให้เส้นเอ็นคลายตัว ทำให้ข้อต่อกระดูกมีการหย่อนตัว อีกทั้งการที่มีน้ำสะสมในร่างกายมากขึ้น ยิ่งอายุครรภ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ช่องอุโมงค์บริเวณข้อมือแคบลง ทำให้เส้นประสาทบริเวณข้อมือเกิดการถูกกดทับ จึงทำให้เกิดอาการมือชา หรือปลายนิ้วมือชาตอนท้องได้
อีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถส่งผลให้เกิดอาการชาได้ คือ การขาดวิตามิน B1 หรือ ไทอามีน (Thiamine Deficiency) ของคนท้อง ซึ่งวิตามินชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ป้องกันอาการเหน็บชาได้โดยตรง อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เอง จึงมักได้จากการทานอาหารในแต่ละมื้อ หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีความปลอดภัย เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินบี 1 ขาดแล้วอาจเสียชีวิตจริงไหม แล้วดีต่อแม่ท้องอย่างไร ?
วิดีโอจาก : DrNoon Channel
อาการมือชา เท้าชาเป็นแบบไหน ?
คุณแม่ท้องอาจมีความรู้สึกชา เจ็บ หรือปวดบริเวณปลายนิ้ว หรืออาจจะเป็นทั้งมือก็ได้ และส่วนใหญ่คุณแม่ท้องจะรู้สึกชาที่ด้านนิ้วหัวแม่มือมากกว่าด้านนิ้วก้อย และอาจเกิดอาการปวดข้อมือ หรือฝ่ามือได้ โดยอาจมีอาการที่มือเพียงข้างเดียว หรืออาจจะมีอาการทั้งสองมือก็ได้เช่นกัน
Sarah Prager ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาสูติศาสตร์ และนรีเวชวิทยา แห่งมหาวิทยาลัย Washington กล่าวว่า “อาการมือชาตอนท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยที่คุณแม่ท้องมักมีอาการมือชาในตอนกลางคืน หรือในช่วงที่เพิ่งตื่นนอน และจะเป็นบ่อยขึ้นเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น แต่อาการมือชาตอนท้องนั้นจะค่อย ๆ หายไปเอง ไม่มีอันตรายอะไร จะมีก็เพียงบางกรณีเท่านั้นที่อาจจะเป็นอาการของโรคโลหิตจาง โรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ หรือโรคปวดร้าวลงขา”
อาหารที่มีวิตามิน B1 สำหรับคนท้อง
ด้วยสารอาหารวิตามิน B1 สามารถป้องกันอาการเหน็บชาที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายได้โดยตรง เพราะช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เป็นไปอย่างปกติด้วยนั่นเอง กรณีที่คุณแม่มีอาการชามือ ชาปลายนิ้วมือ หรือชาเท้าบ่อย ๆ สามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามิน B1 เช่น เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อหมู, ข้าวซ้อมมือ, ไข่แดง, นม, ถั่ว, เมล็ดทานตะวัน หรือธัญพืชชนิดที่มีเปลือกบาง เป็นต้น โดยร่างกายของคนท้องจะต้องการวิตามิน B1 ประมาณ 1.5 – 1.6 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่ผู้หญิงทั่วไป จะต้องการวิตามิน B1 เพียง 1.1 มิลลิกรัม/วันเท่านั้น
นอกจากการรับวิตามิน B1 เพื่อแก้อาการเหน็บชาแล้ว แม่ท้องต้องระวังพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการรับสารอาหารชนิดนี้ได้น้อยลง เช่น ทานแต่เนื้อสัตว์ไม่ทานผักผลไม้เลย, การทานอาหารที่น้อยเกินไป เพราะยิ่งร่างกายอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายจะต้องการสารอาหารมากขึ้น รวมถึงวิตามินชนิดต่าง ๆ ด้วย นอกจากนี้การกินเมนูอาหารบางประเภทอาจไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินของร่างกายได้ด้วย เช่น ปลาน้ำจืด, ชา, กาแฟ, หอยบางชนิด หรือแอลกอฮอล์ เป็นต้น
วิธีรับมืออาการมือชาตอนท้อง
หากคุณแม่ท้องมีอาการมือชา ก่อนอื่นเลยคือต้องสังเกตว่า คุณแม่ท้องทำกิจกรรมอะไร ที่ส่งผลต่ออาการมือชาหรือไม่ จากนั้นให้ทำการแก้ไขตามสาเหตุของการเกิดอาการนั้น ๆ ได้แก่
- หากทำงานที่ต้องใช้มือมาก เช่นทำงานโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ควรหาที่รองข้อมือ เพื่อไม่ให้ข้อมืองอ หรือใช้สายรัดพยุงข้อมือ และควรพักเพื่อยืดข้อมือเป็นระยะ หรือการทำงานบ้านอย่างเช่นล้างจาน ก็ควรให้สามีเป็นคนช่วย
- สำหรับอาการมือชาที่เกิดจากภาวะการตั้งครรภ์ สามารถบรรเทาได้ด้วยการแช่มือในน้ำอุ่น เพื่อให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น และหลีกเลี่ยงการนอนทับมือโดยการวางมือไว้ให้สูง หรือวางไว้บนหมอน
- หากมีอาการมือชา ให้ทำการสะบัดมือเป็นจังหวะ ก็จะทำให้อาการมือชาลดลงได้
- การออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะสำหรับคนท้อง ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้อาการมือชาบรรเทาลงได้ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นนั่นเอง
คนท้องมือชาเมื่อไหร่ที่ต้องกังวล
ปกติแล้ว อาการมือชาตอนท้อง เป็นอาการที่ไม่มีอันตรายร้ายแรงอะไร และจะมีโอกาสพบอาการมือชา ปลายนิ้วมือชา หรือเท้าชาในช่วงการตั้งครรภ์เดือนที่ 7 – 8 แต่หากอาการปวด หรืออาการมือชาไม่ลดลง หรือมีอาการปวด หรือชามากขึ้นอย่างรุนแรง หรือเกิดขึ้นอ่ากะทันหัน ก็ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที เพื่อรับการวินิจฉัย และรับการรักษาต่อไป โดยปกติแล้วหากมีอาการดังกล่าว และไม่ใช่สัญญาณของโรคร้ายใด ๆ แพทย์มักจะพิจารณาให้วิตามินเสริมกับคุณแม่
อาการมือชา ชาปลายนิ้วมือหลังคลอด
คุณแม่หลายคนอาจเป็นกังวล ไม่ชอบอาการปวดชาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย กลัวว่าเมื่อคลอดแล้วอาการจะยังเกิดขึ้นอีกบ่อยมากแค่ไหน โดยอาการเหล่านี้จะหาย หรือไม่หายไปนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสาเหตุของอาการชาที่คุณแม่กำลังเผชิญอยู่ ดังนี้
- อาการชาจากระดับฮอร์โมน : จนส่งผลให้มีอาการบวมน้ำ เกิดการกดทับ อาการจะค่อย ๆ หายไปได้เองตามธรรมชาติ เพราะหลังคลอด ร่างกายของคุณแม่จะค่อย ๆ ปรับสมดุล ทำให้อาการชาจะหายไปได้เองโดยที่คุณแม่ไม่ต้องกังวล
- อาการชาจากการขาดวิตามิน B1 : กรณีที่เกิดอาการชาจากการขาดวิตามิน แม้ว่าคุณแม่จะคลอดไปแล้ว อาการชาอาจไม่หายไป จนกว่าร่างกายของคุณแม่จะได้รับวิตามินที่ร่างกายขาดอย่างเพียงพอ อาการถึงจะค่อย ๆ หายไป แล้วถ้าหากร่างกายขาดวิตามินอีก อาการก็อาจกลับมาได้เช่นกัน
แม้ว่าอาการชาตามมือ ชาปลายนิ้วมือจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ และบุคคลทั่วไป แต่เมื่อมีความผิดปกติมากก็ไม่ควรมองข้าม และปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเสมอ เพื่อกำจัดความกังวล
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องเวียนหัว หน้ามืด เกิดจากอะไร มีวิธีแก้อาการวูบบ่อยไหม
9 วิธีลดอาการบวมระหว่างตั้งครรภ์ ท้องแล้วเท้าบวม ทำไงดี
ไขข้อสงสัยคุณแม่ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ อันตรายหรือไม่ ?
ที่มา : naitreetgrandir, bangkokhospital
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!