DHA มาจากไหน?
DHA (ดีเอชเอ) คือกรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 มีมากในนมแม่ หรือ ปลาทะเล เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน สาหร่ายทะเล และในปลาน้ำจืดที่มีไขมันสูง เช่น ปลาสวาย ปลาช่อน โดยควรเลือก DHA ที่มาจากปลาในแหล่งน้ำคุณภาพ เพื่อป้องกันเรื่องสารเคมีตกค้างในวัตถุดิบ
ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด ลูกน้อยอยู่ในครรภ์จะได้รับ DHA ผ่านทางรก และจะสะสมไว้ในสมองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วงนี้สมองของทารกในครรภ์จะพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่วนในเด็กเล็กจะได้รับ DHA ผ่านนมแม่ คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงไม่ต้องกังวลว่าลูกน้อยจะขาด DHA หรืออาจจะเสริมด้วยนมผงผสม DHA เพิ่มได้ในรายที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมได้ หรือมีน้ำนมไม่เพียงพอ
DHA เสริมสมองลูกได้อย่างไร
DHA เป็นสารอาหารสำคัญของเซลล์ประสาทตา และเซลล์สมองกว่า 60% โดย DHA จะเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า เดนไดรต์ (Dendrite) ซึ่งจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง ยิ่งกรดไขมันจำนวนมากเท่าไหร่จะทำให้เซลล์สมองเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ส่งผลต่อเส้นใยสมอง จุดเชื่อมต่อ และรอยหยักในสมองซึ่งเป็นพื้นที่ในการเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความจำและการเรียนรู้
DHA เสริมสายตาและการมองเห็น
DHA เป็นโครงสร้างที่สำคัญของจอประสาทตา ซึ่งการมองเห็นที่ดีก็จะนำไปสู่พัฒนาการด้านอื่นๆ เพราะดวงตาคือหนึ่งในประสาทสัมผัสที่กระตุ้นให้เด็กรับรู้ข้อมูลจากสิ่งรอบตัว มีงานวิจัยพบว่าข้อมูลต่างๆ ที่เด็กรับรู้จากการมองเห็นถึงกว่า 80% ยิ่งเด็กมองเห็นชัดเจนได้เร็วเท่าใด ก็จะยิ่งเพิ่มคลังข้อมูลในสมอง ก่อเกิดเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกัน ส่งผลต่อความฉลาดของเด็กด้วย
DHA เสริมความคิด สร้างสมาธิ
สมาธิและการจดจ่อเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคม มีงานวิจัยทางการแพทย์* ที่พิสูจน์ว่าเด็กที่ได้รับนมเสริม DHA ในปริมาณ DHA 17 มก. ตอ100 กิโลแคลอรี จะมีสัดส่วนระยะเวลาของการมอง จดจ่อ และมีสมาธิมากกว่าทารกรับนมไม่เสริม DHA ถึง 21%
DHA เพิ่มภูมิคุ้มกัน
พัฒนาการทุกด้านจะไม่สะดุดหากลูกห่างไกลจากการเจ็บป่วย DHA นั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันให้กับเด็กได้อีกด้วย โดยมีงานวิจัยเชิงทดลอง* ที่ให้เด็กประถมดื่มนมเสริม DHA 100 มิลลิกรัมทุกวันตลอดภาคการศึกษา แล้วพบว่ามีส่วนเพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงและไม่เจ็บป่วยง่าย อัตราการขาดเรียนจากการเจ็บป่วยน้อยลงถึง 30% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับนมเสริม DHA
คุณแม่จะเห็นได้ว่าคุณค่าของ DHA นั้นไม่ได้เพียงแค่เสริมสร้างสมองเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอื่นๆ อีกด้วย จึงถือเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่สำคัญและมีประโยชน์กับลูกน้อยที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ดั้งนั้นจึงควรเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยตั้งแต่วันนี้ ด้วย DHA คุณภาพ เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมวัย และร่างกายที่แข็งแรง
ที่มา : manager, mamastory
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!