TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

เตรียมรับมือ 11 เรื่องจริงของร่างกาย หลังคลอดลูก ที่แม่ต้องเผชิญ

บทความ 3 นาที
เตรียมรับมือ 11 เรื่องจริงของร่างกาย หลังคลอดลูก ที่แม่ต้องเผชิญ

แม่มือใหม่ต้องเตรียมใจและรับมือเอาไว้ หลังคลอดลูก คุณแม่จะได้เจอกับเรื่องเหล่านี้ หากเกิดขึ้นแล้วอย่าเพิ่งตกใจนะคะ เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับแม่หลังคลอด

แม้ว่า หลังคลอดลูก คุณแม่จะหายกังวลไปเปราะหนึ่งเหมือนยกภูเขาก่อนใหญ่ออกจากท้อง แต่อย่างไรเราก็อยากให้คุณเตรียมรับมือกับอาการหลังคลอดไว้

เตรียมรับมือ 11 เรื่องจริง หลังคลอดลูก ที่แม่ต้องเผชิญ

#1 ต้องเจอกับอาการปวดมดลูกที่จะเกิดขึ้นภาย1-2 วันแรกหลังคลอดได้

#2 น้ำคาวปลาจะมีและค่อย ๆ ลดลงจดหมดภายใน 2 สัปดาห์ หลังมดลูกเล็กลงมาขนาดเท่าเดิม หากสังเกตว่าน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น มีสีแดงตลอดภายใน 15 วันหลังคลอด อาจมีการอักเสบในโพรงมดลูก เนื่องจากน้ำคาวปลาที่ออกมาเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียซึ่งอาจจะมีแบคทีเรียเล็ดลอดเข้าไป ทำให้เกิดการอักเสบได้ ถือเป็นอาการที่ผิดปกติ ควรมาพบแพทย์ทันที

หลังคลอดลูก

#3 คุณแม่หลังคลอดบางคนอาจจะมีก้อนหรือเต้านมบวมขึ้น เนื่องจากช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด น้ำนมจะยังออกไม่ดีทำให้มีการคัดบริเวณเต้านม แต่เมื่อน้ำนมออกดีก็จะคัดตึงตอนเวลาให้นมลูก หลังให้ลูกดูดนมอาการคัดเต้าก็จะหายไป

#4 สำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่มีนมผสมร่วมด้วย จะมีฮอร์โมนที่เรียกว่า “โปรแล็กติน” (Prolactin) ออกมาจากต่อมใต้สมอง ซึ่งทำให้ไข่ไม่ตก จึงทำให้ยังไม่มีประจำเดือนมาหลังคลอด แต่เมื่อลูกกินนมแม่น้อยลงหรือคุณแม่ทิ้งระยะห่างในการให้นมมากขึ้น ฮอร์โมนชนิดนี้ก็จะลดน้อยลง จึงทำให้มีการตกไข่และประจำเดือนก็กลับมาปกติหลังคลอดได้ โดยส่วนใหญ่แล้วประจำเดือนจะมาประมาณ 6-8 เดือนหลังคลอด แต่ถ้าให้นมแม่ไม่สม่ำเสมอฮอร์โมนตัวนี้ก็จะหลั่งออกมาไม่สม่ำเสมอ ก็จะไม่สามารถกดการตกไข่ได้ และทำให้ประจำเดือนกลับมาได้เร็วขึ้น

#5 ประจำเดือนที่มาครั้งแรกหลังคลอดอาจมีปริมาณมากหรือนานกว่าปกติ เนื่องจากรังไข่จะยังปรับตัวได้ไม่ดีหรือบางครั้งอาจเกิดจากไข่โตขึ้นและมีเยื่อบุที่หนาขึ้น เป็นวงจรรอบเดือนที่ผิดปกติ ซึ่งจะหายเองได้ในประมาณ 1-2 รอบเดือน

#6 เสี่ยงต่อการติดเชื้อหากนอนแช่อ่างหลังคลอดลูกใหม่ ๆ เพราะเชื้อแบคทีเรียจะเล็ดลอดเข้าช่องคลอดแล้วเกิดการอักเสบที่มดลูกได้

หลังคลอดลูก

#7 แม่ที่คลอดลูกเอง การได้ออกกำลังกายเบา ๆ ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วและให้น้ำคาวปลาออกได้ดี แต่สำหรับแม่ผ่าคลอด ไม่ควรออกกำลังกายที่เน้นบริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพราะอาจจะมีอันตรายต่อแผลที่ผ่าคลอดได้

หลังคลอดลูก

#8 เพื่อป้องกันการหย่อนยานของเต้านมและช่วยบรรเทาอาการคัดเต้า คุณแม่สามารถเริ่มใส่ยกทรงให้นมลูกได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไปเลยนะคะ แต่ไม่ควรเป็นเลือกใส่ยกทรงที่คับจนเกินไป เพราะการการบีบรัดเต้าจะส่งผลต่อปริมาณน้ำนมที่น้อยลงด้วย

#9 การใช้ผ้ารัดหน้าท้องเป็นประจำทุกวันหลังคลอด จะช่วยทำให้หน้าท้องกระชับได้ง่ายขึ้น มดลูกเข้าอู่เร็ว และสำหรับแม่ผ่าคลอดผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลหลัง กระชับบริเวณแผล เพื่อให้แผลสมานติดกันได้ดี

หลังคลอดลูก

#10 ให้นมแม่ล้วนช่วยลดน้ำหนักลงได้ ถ้าลูกได้ดูดนมแม่ทั้งวันหรือมีการปั๊มน้ำนมออกเพื่อเก็บสะสม น้ำหนักส่วนเกินของคุณแม่จะลดลง เพราะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่ประมาณ 500 แคลอรี่ต่อวัน จึงคล้ายกับการออกกำลังกายที่เป็นการลดน้ำหนักไปในตัว ดังนั้นหลังคลอดสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกจะมีน้ำหนักลดมาเป็นปกติได้ภายใน 6 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องหาวิธีลดน้ำหนักแบบอื่นมาช่วยเลย

หลังคลอดลูก

#11 ในภาวะปกติของแม่ที่ผ่าคลอดลูก แผลที่เย็บไว้จะสมานเข้าด้วยกันกันเองภายใน 7 วันหลังคลอดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแม่แต่ละคนและลักษณะของการเย็บ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะค่อย ๆ ใช้เวลาประมาณ 2 – 12 สัปดาห์


ข้อมูลจาก นพ.ปภากร มิ่งมิตรพัฒนะกุล สูติ-นรีแพทย์ จากศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ

ที่มา : pregnancy.haijai.com

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

หลังคลอดลูกต้อง แจ้งเกิดลูกภายในกี่วัน ทำสูติบัตรให้ลูกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ทำไมผู้หญิงบางคนมีอารมณ์ด้านลบหลังคลอดลูก

 

บทความจากพันธมิตร
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • เตรียมรับมือ 11 เรื่องจริงของร่างกาย หลังคลอดลูก ที่แม่ต้องเผชิญ
แชร์ :
  • หมอเตือน! เด็กเกิดใหม่ 10 จังหวัดนี้ เสี่ยง "โรคขาดาบ” ทารกพิการจากเชื้อซิฟิลิสตั้งแต่ในครรภ์

    หมอเตือน! เด็กเกิดใหม่ 10 จังหวัดนี้ เสี่ยง "โรคขาดาบ” ทารกพิการจากเชื้อซิฟิลิสตั้งแต่ในครรภ์

  • 7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

    7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

  • แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

    แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

  • หมอเตือน! เด็กเกิดใหม่ 10 จังหวัดนี้ เสี่ยง "โรคขาดาบ” ทารกพิการจากเชื้อซิฟิลิสตั้งแต่ในครรภ์

    หมอเตือน! เด็กเกิดใหม่ 10 จังหวัดนี้ เสี่ยง "โรคขาดาบ” ทารกพิการจากเชื้อซิฟิลิสตั้งแต่ในครรภ์

  • 7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

    7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

  • แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

    แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว