สารอาหารในน้ำนมแม่ สุดยอดประโยชน์จากธรรมชาติสำหรับลูกน้อย

คุณแม่ทราบไหมคะว่า สารอาหารในน้ำนมแม่ มีประโยชน์ต่อลูกน้อยมาก เพราะเปรียบเสมือนยาชั้นดีที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ทารกแรกเกิด อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย และความอบอุ่นระหว่างคุณแม่และลูกอีกด้วย วันนี้เราจะพามาดูกันว่าสารอาหารในน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างมีประโยชน์ต่อลูกอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ

สารอาหารในนมแม่ที่ดีต่อสมองลูก

นมแม่เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความฉลาดให้แก่ลูกน้อย คุณแม่จึงควรให้ลูกกินนมอย่างเพียงพอเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารบำรุงสมองอย่างเต็มคุณประโยชน์

• เอ็มเอฟจีเอ็ม (MFGM)

เอ็มเอฟจีเอ็ม หรือ MFGM (Milk Fat Globule Membrane) เป็นสารอาหารในน้ำนมแม่ที่ถูกผลิตจากต่อมผลิตน้ำนม ถูกห่อหุ้มด้วยเยื่อบาง ๆ ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด ช่วยสร้างปลอกไขมันหุ้มเส้นใยสมอง เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทที่เชื่อมต่อกับเซลล์สมอง

• ดีเอชเอ (DHA)

สารอาหารในน้ำนมแม่ที่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า 3 เป็นส่วนประกอบสำคัญของไขมันในสมองและจอประสาทตา ซึ่งลูกจะได้รับโดยตรงจากน้ำนมแม่ ที่สำคัญ DHA ในน้ำนมแม่ยังเพิ่มขึ้นตามปริมาณอาหารที่คุณแม่รับประทานด้วย

• ทอรีน (Taurine)

สารอาหารในนมแม่ที่ช่วยบำรุงสมองและช่วยพัฒนาเรื่องการมองเห็นของลูกได้ดี

• ไลโซไซม์ (Lysozyme)

เป็นเอนไซม์ที่มีในน้ำนมแม่มากกว่านมวัวถึง 3,000 เท่า มีฤทธิ์ย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อแบคทีเรียตัวร้าย ทำให้เชื้อตาย แถมยังเติมลงในนมผงไม่ได้ เพราะเอนไซม์ต่าง ๆ จะถูกทำลายด้วยความร้อนในขั้นตอนที่นำนมผงไปฆ่าเชื้อก่อนบรรจุกระป๋องด้วย

สารอาหารในน้ำนมที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อโรค

น้ำนมแม่มีสารอาหารหลายร้อยชนิดที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันเชื้อโรค ซึ่งสารอาหารสำคัญที่พบในน้ำนมแม่นั้น ตัวอย่างเช่น

• เอ็มเอฟจีเอ็ม (MFGM)

เอ็มเอฟจีเอ็ม (MFGM) เป็นสารอาหารในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด ซึ่งโปรตีนบางชนิดใน MFGM มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายและป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยให้ร่างกายของลูกต่อสู้กับการติดเชื้อได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

• แลคโตเฟอร์ริน (Lactoferrin)

เป็นสารภูมิต้านทานโรคที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารที่ใช้ธาตุเหล็กในการเจริญเติบโต สารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี ชนิด IgA (Secretory IgA) ช่วยป้องกันการติดเชื้อของไวรัสและแบคทีเรีย โดยพบสารภูมิต้านทาน ชนิด IgG และ IgM

• ไลโซไซม์ (Lysozyme)

เป็นเอนไซม์ช่วยต่อต้านการติดเชื้อ อย่างเชื้ออีโคไล (E. Coli) และซาลโมเนลลา (Salmonella) ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย และยังช่วยเพิ่มจำนวนเชื้อแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในร่างกาย

• โปรตีน

ในน้ำนมแม่จะประกอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่า เวย์ (Whey) และเคซีน (Casein) โดยจะพบเวย์ในปริมาณที่มากกว่าเคซีน ซึ่งโปรตีนที่พบในน้ำนมแม่เป็นชนิดที่ย่อยง่าย เต็มไปด้วยสารภูมิคุ้มกัน และไม่พบในนมผงทั่วไป

• ไบฟิดัส แฟกเตอร์ (Bifidus Factor)

เป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของแล็กโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยจะช่วยปรับสภาวะให้มีความเป็นกรด เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย 

• วิตามิน

ในน้ำนมแม่มีวิตามินอยู่หลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค วิตามินซี กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic Acid) หรือวิตามินบี 5 ซึ่งปริมาณและชนิดของวิตามินที่ทารกได้รับจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณแม่รับประทานเข้าไป

• คาร์โบไฮเดรต น้ำตาลแล็กโทส (Lactose)

เป็นสารคาร์โบไฮเดรตหลักในน้ำนมแม่ โดยมีอยู่ประมาณ 40% ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดจำนวนแบคทีเรียชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในทางเดินอาหาร ทำให้ทารกไม่ป่วยง่าย รวมไปถึงช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม ธาตุเหล็กและแมกนีเซียม

ประโยชน์ของน้ำนมแม่

น้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกของลูกน้อย เพราะมีคุณประโยชน์มากมายที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก การให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ช่วยให้ทารกเติบโตอย่างแข็งแรง

• ป้องกันภูมิแพ้

สำหรับลูกวัยทารก น้ำย่อยอาหารในกระเพาะลำไส้ยังทำงานไม่เต็มที่ อีกทั้งภูมิคุ้มกันที่คอยดักจับสารแปลกปลอมในร่างกายก็ยังพัฒนา ไม่ดีพอ โปรตีนแปลกปลอมจึงมีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ได้ง่าย แต่ในนมแม่ นอกจากจะมีโปรตีนชนิดที่ทำให้ไม่เกิดการแพ้แล้ว ยังมีสารภูมิคุ้มกันที่จะไปเคลือบเยื่อบุลำไส้ ทำให้ไม่แพ้ด้วย

• ป้องกันแบคทีเรีย

ในน้ำนมแม่มี Bifidus Growth Factor เป็นสารอาหารในน้ำนมแม่ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อแล็กโตบาซิลลัส (ซึ่งไม่มีในน้ำนมวัว) ซึ่งเป็นเชื้อที่ช่วยให้เกิดกรดอินทรีย์ในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียชนิดร้ายอยู่ไม่ได้ นอกจากนี้ แล็กโทสในน้ำนมแม่เองก็ยังเปลี่ยนเป็นกรดแลกติก ที่ช่วยให้ลำไส้มีสภาพเป็นกรดจนแบคทีเรียไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกแรงหนึ่งด้วย

• ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อย

เด็กที่ดื่มนมแม่จะได้รับการกระตุ้นพัฒนาการรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปากหรืออวัยวะในช่องปาก การพัฒนากล้ามเนื้อแขนขา การพัฒนาระบบย่อยอาหาร การรับรู้กลิ่นของแม่ และการมองเห็น พัฒนาการเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นในขณะที่คุณแม่ให้นมลูกน้อย

• ช่วยในเรื่องขับถ่าย

นมแม่เป็นอาหารธรรมชาติ สะอาด และย่อยง่าย ทั้งยังมีสารที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง มีสารช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีที่ไม่ก่อให้เกิด โรคในลำไส้ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดท้องเสีย และช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในลำไส้ลงได้มากลูกน้อยที่กินนมแม่ นอกจากจะไม่มีปัญหาท้องผูกแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดท้องเสียน้อยลงด้วย

• ช่วยในเรื่องอารมณ์และจิตใจ

การให้นมแม่แต่ละครั้งแม่จะต้องโอบกอดลูกแนบอก ความสุขใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความอบอุ่น จะถูกปลูกฝังไว้ในจิตใจลูกตั้งแต่วัยแรกเริ่มของชีวิต ช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างมีความมั่นคงทั้งทางอารมณ์ และจิตใจ

นมแม่ นับเป็นสุดยอดอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงมาก ยิ่งให้ลูกกินนมแม่นานเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้ลูกได้รับ สารอาหารในน้ำนมแม่ มากขึ้น อีกทั้งยังดีต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยเอง เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองและร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสายใยรักระหว่างคุณแม่และลูกน้อยได้ด้วย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

8 อาหารเพิ่มน้ำนมคุณแม่ ให้มีน้ำนมพอ รวมมาให้หมดแล้ว!

คัมภีร์แม่มือใหม่! ป้อนนมลูก แบบไหน ไม่ให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ

สต็อกน้ำนมเหลือง สต็อกนมแม่หลังคลอด ทำอย่างไร แค่ไหนถึงพอ

ที่มา : enfababy, pobpad, bangkokpattayahospital