พ่อแม่กดดันลูก คาดหวังลูกมากเกินไป ระวังลูกป่วยเป็นจิตเวช
พ่อแม่กดดันลูก สาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เด็กไทยป่วยจิตเวช พ.ญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคจิตเวชในเด็กและวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและไม่ได้รับการรักษา ทำให้มมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเพียง 10 % เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก
สาเหตุที่ลูกป่วยจิตเวช
โรคทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น เป็นกลุ่มโรคที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ในวัยทารก วัยเด็ก หรือวัยรุ่น และต่อเนื่องไปยังอนาคต ส่วนใหญ่จะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการด้านสังคม และเด็กแต่ละคนก็มีสาเหตุการเกิดโรคที่แตกต่างกัน มีอยู่ในทุกช่วงอายุตามช่วงวัย แต่ที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเคสเด็กสมาธิสั้น
จะรู้ได้ยังไงว่าลูกเราเป็นเด็กสมาธิสั้นหรือเปล่า? วิธีที่จะทำให่้พ่อแม่รู้ว่าลูกเราเป็นเด็กสมาธิสั้นไหมต้องสังเกตอาการ ดังต่อไปนี้
- วอกแวก ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานๆ
- เคลื่อนไหวมากเกินไป อยู่นิ่งนานๆ ไม่ได้ ชอบยุกยิก
- ใจร้อน หุุนหันพลันแล่น มักทำไรไม่เคยคิด
- ไม่สามารถทำงานตามที่สั่งได้ ไม่ฟัง ทำงานไม่ครบ ใจลอย
- เกิดร่วมกับโรคอื่นด้วย เช่น โรคดื้อ โรคเกเร โรคบกพร่องทางการเรียน โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า
การแข่งขันเรื่องการเรียน การสอบเข้าโรงเรียนดังๆ หรือมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ทำให้เกิดความเครียดขึ้นมาได้ รวมถึงการคาดหวังในตัวเด็กไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่บางครั้งผู้ปกครองเองก็ลืมไปว่าเป้าหมายในชีวิตนั้นลูกๆต้องเป็นผู้กำหนดไม่ใช่เรากำหนด นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกป่วยเป็นจิตเวช เนื่องจากการที่พ่อแม่ไปกำหนดเป้าหมายให้ลูกบ่อยๆ คุณอาจจะกำหนดให้ลูกแบบผิดๆ และกำหนดยากเกินไปสำหรับเด็ก ทางที่ดีพ่อแม่ควรแนะนำลูกเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น
ปัญหาลูกดื้อส่วนใหญ่ที่ผู้ปกครองพบกันอยู่บ่อยๆนั้นไม่ได้เกิดจากการที่มีกฎระเบียบเยอะๆ เพราะกฏระเบียบในบ้านถือเป็นสิ่งที่ดีแต่เกิดจากการที่ผู้ปกครองขาดความเข้าใจในเรื่องวิธีการที่จะพูดกับลูกของตนอย่างเช่นพูดย้ำๆพูดเสียงดังจึงทำให้ลูกเบื่อและส่งผลให้เป็นปัจจัยเสี่ยง อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือผู้ปกครองมีความเข้าใจในตัวเองหรือไม่ว่าสิ่งที่สอนลูกและบอกลูกนั้นเป็นสิ่งที่ตัวผู้ปกครองเองต้องการหรือเป็นสิ่งที่ลูกต้องการ
วิธีสังเกตว่าลูกป่วยเป็นจิตเวชหรือไม่
- ประสาทหลอนและเข้าใจผิด เช่น หูแว่วได้ยินเสียงแปลกๆหรือได้ยินในสิ่งที่คนปกติทั่วไปไม่ได้ยิน เป็นต้นว่าได้ยินว่ามีคนด่าว่าตนเองทั้งๆที่ไม่มีใครด่าว่าเลย บางรายคิดว่ามีคนจะมาทำร้าย บางรายเห็นภาพอะไรแปลกๆที่ไม่มีอยู่จริง เช่น เห็นผีมาหลอก เห็นคนกำลังจะมาฆ่าตนเอง
- บุคลิกภาพเปลี่ยนไปในทางเลวลง เช่น เคยเป็นคนร่าเริงกลายเป็นคนซึมเศร้า เคยเป็นคนสะอาดกลายเป็นคนสกปรกไม่ดูแลตนเอง เคยเป็นคนสุภาพกลายเป็นคนหยาบคาย
ดังนั้น พ่อแม่ควรทำความเข้าใจในการเลี้ยงดูลูกหลาน ทำความเข้าใจในสิ่งที่เด็กเป็น และคอยประคับประคองให้อยู่ในกรอบที่ถูกต้อง ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญ หรือเปรียบเทียบเด็กกับคนอื่นทำให้เกิดความน้อยใจ และคอยสังเกตดูว่าลูกมีความผิดปกติที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตเวชหรือไม่ หากมีควรพาไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะคนที่มีอาการดังกล่าวไม่ใช่คนบ้าเพียงแต่เป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาเพียงเท่านั้น
ที่มา : khaosod,
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อยากเลิกกับสามีมาก 5 เรื่องจริงเมื่อเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วต้องรับมือให้ไหว
สอนลูกให้มีวินัย ฉลาดสมวัยต้องเลี้ยงลูกแบบ EF
อาการข้างเคียงของวัคซีน แต่ละชนิดส่งผลอะไรกับลูกบ้าง