ผู้หญิงที่ผลิตไข่ได้น้อยเสี่ยงแท้งลูกระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วสูง
จากการวิเคราะห์การตั้งครรภ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว 124,351 ครั้งระหว่างปี 2534 ถึง 2551 นักวิทยาศาสตร์พบว่า การตั้งครรภ์ของผู้หญิงที่ผลิตไข่ได้น้อยกว่า 4 ใบหลังจากได้รับการกระตุ้นระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วประมาณร้อยละ 20 จบลงด้วยการแท้งลูก
งานวิจัยบ่งชี้ว่าคุณภาพของไข่ในกรณีเหล่านี้มีคุณภาพไม่ดีนัก แพทย์กล่าวว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้พวกเขาให้คำปรึกษาแนะนำคนไข้ได้
การทำเด็กหลอดแก้วจำเป็นต้องมีการกระตุ้นวงจรการเจริญเติบโตของไข่ การสกัดไข่จากรังไข่ และการผสมกับตัวอสุจิในห้องปฏิบัติการประกอบด้วย จากนั้นก็ย้ายตัวอ่อนเข้าไปไว้ในครรภ์ให้พัฒนา
ความเสี่ยงการผ่าตัดรังไข่
การศึกษาที่คิงส์คอลเลจ ลอนดอนและมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมพบว่า อัตราการแท้งลูกลดลงเหลือร้อยละ 15.5 สำหรับผู้หญิงที่ผลิตไข่ได้ 4 ถึง 9 ใบ และเหลือร้อยละ 13.8 สำหรับผู้หญิงที่ผลิตไข่ได้ 10 ถึง 14 ใบ
ความเสี่ยงการแท้งลูกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15 สำหรับประชากรทั้งหมด
ดร. เสช ซันคารา ผู้ร่วมทำงานวิจัยชิ้นนี้จากหน่วยการเจริญพันธุ์ที่คิงส์คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า “ฉันคิดว่าข้อมูลนี้จะช่วยผู้หญิงได้มากขึ้น การทำเด็กหลอดแก้วเป็นประสบการณ์ที่ทุกข์ทรมานได้ และการแท้งลูกยิ่งทำให้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดขึ้นไปอีก”
ดร. ซันคารากล่าวว่าการศึกษาชิ้นนี้สามารถบ่งชี้ปัจจัยเสี่ยงใหม่ ๆ เช่น การผ่าตัดรังไข่ ซึ่งสามารถเพิ่มอัตราความเสี่ยงแท้งลูกได้ หากไปทำให้จำนวนไข่ที่ผู้หญิงผลิตได้ลดลง
เธอกล่าวว่าความเป็นจริงที่ว่า ผู้หญิงที่มีไข่น้อยกว่ามีโอกาสแท้งลูกมากกว่า เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าคุณภาพไข่ย่อมด้อยกว่าด้วย เพราะการแท้งลูกก็เกิดจากไข่เหล่านั้น
ที่มา: บีบีซี
การทำอิ๊กซี่คืออะไร?
เข้าใจหลักการการรักษาผู้มีบุตรยาก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!