ทำเด็กหลอดแก้ว เป็นตัวช่วยยอดฮิตของคนมีลูกยาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทำเด็กหลอดแก้วแล้วจะตั้งครรภ์สมบูรณ์โดยไม่แท้ง ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วนั้น ก็สามารถทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้ เรามาดูสาเหตุการแท้งบุตร จากการทำเด็กหลอดแก้วกันเลย
IVF หรือ เด็กหลอดแก้วมีขั้นตอนการทำอย่างไร?
ด้วยวิทยาการอันก้าวหน้าในปัจจุบัน เรามีวิธีที่จะสามารถช่วย ให้ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้กำเนิดเด็ก ที่สมบูรณ์แข็งแรงได้อย่างปลอดภัย การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF – In vitro fertilization คือเทคโนโลยีวิธีหนึ่ง ที่ช่วยในการปฏิสนธิ โดยการนำไข่และสเปิร์ม ออกมาปฏิสนธินอกร่างกาย มีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้
- กระตุ้นให้ร่างกายของผู้หญิงตกไข่ และทำให้ไข่สุกภายในรังไข่ โดยการให้ยา หรือด้วยวิธีการอื่น ๆ
- นำไข่ออกมาจากร่างกาย เมื่อไข่มีความพร้อมที่จะผสม
- นำไข่ไปปฏิสนธิกับสเปิร์มของผู้บริจาค หรือของสามี
- เซลล์ไข่ที่ถูกปฏิสนธิ จะถูกเลี้ยงจนโตขึ้นเป็นตัวอ่อน
- เมื่อตัวอ่อนแข็งแรง นำไปฝังในมดลูกของผู้หญิง เพื่อให้เติบโตต่อไป
ทำเด็กหลอดแก้ว มีโอกาสแท้งมากกว่า การตั้งครรภ์ปกติหรือไม่?
การตั้งครรภ์โดยการใช้วิธีการ IVF และ ICSI นั้น จะต้องมีความระวังตั้งแต่ในช่วงระยะแรก ๆ เพราะหลังจากที่ตัวอ่อนฝังตัวแล้ว ไม่ว่าจะ ลุก นั่ง เดิน หรือแม้กระทั่งการรับประทานอาหาร ก็จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากผ่านพ้นช่วงที่ตัวอ่อนฝังตัวเรียบร้อยเมื่อไหร่ ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนหญิงตั้งครรภ์ทั่ว ๆ ไป ในเรื่องของความเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดภาวะแท้งของการทำเด็กหลอดแก้วนั้น อยู่ในระดับเดียวกับหญิงตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ
ทำ IVF จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน?
ความเป็นไปได้ของการมีลูกจากการทำเด็กหลอดแก้วนั้น ในกลุ่มผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 34 ปี จะมีเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 30 – 40 % ในการถ่ายฝากตัวอ่อนครั้งแรก และอัตราการเกิดต่ำลงมาก ในกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไป เนื่องจากคุณภาพของรังไข่ของฝ่ายหญิง จะเปลี่ยนแปลงตามอายุ และอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น ฝ่ายหญิงที่มีมดลูกไม่แข็งแรง หรือมดลูกทำงานผิดปกติ มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร้ายแรง ที่เป็นอันตรายหากตั้งครรภ์
ซึ่งหากมีสาเหตุต่าง ๆ ที่ไม่สามารถทำให้มีบุตรด้วยตนเองได้ ก็คือการทำเด็กหลอดแก้ว ที่จะทำการเก็บสเปิร์มของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย แล้วใส่กลับเข้าไปให้อาสาที่ไว้ใจตั้งครรภ์แทน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัยที่หลาย ๆ คนอยากรู้กับการทำ เด็กหลอดแก้ว รู้ก่อนได้เปรียบ!
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะแท้ง มีอะไรบ้าง
หลายคนอาจจะคิดว่าเมื่อผ่านช่วงแรกไปแล้ว คงไม่ต้องระวังตัวอะไรมากนัก แต่ความจริงแล้ว การทำเด็กหลอดแก้วก็อาจจะเกิดการแท้ง ได้ทุกช่วงอายุครรภ์ ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น จะขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ ยิ่งอายุครรภ์สูงก็ยิ่งส่งผลอันตรายต่อแม่ด้วย
1. ปัจจัยเสี่ยงจากแม่
- การสูบบุหรี่ ระหว่างการตั้งครรภ์ และใช้สารเสพติดระหว่างการตั้งครรภ์
- โรคอ้วน
- ปัจจัยเรื่องสุขภาพ โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคไต โรคไฮเปอร์ ไทรอยด์
- การติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หัดเยอรมัน เอชไอวี ช่องคลอดอักเสบ หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส มาลาเรีย เชื้อไวรัส CMV
- การทานอาหารที่ไม่สะอาด อาหารหมักดอง อาหารดิบ กึ่งสุกกึ่งดิบ
- ปัญหาของโครโมโซมที่เกิดจากพ่อและแม่
- ฮอร์โมนไม่สมดุล ทำให้ส่งผลต่อทารกในครรภ์
2. ปัจจัยเสี่ยงจากระบบสืบพันธุ์
- ครรภ์รูปร่างผิดปกติ
- มีเนื้องอกในมดลูก
- ภาวะที่รังไข่มีขนาดใหญ่
- ปากมดลูกไม่แข็งแรง เป็นสาเหตุที่ทำให้ปากมดลูกเปิดก่อนกำหนด ทำให้แท้งลูกง่าย
- ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ศูนย์เด็กหลอดแก้ว ใช้สเปิร์มผิดอาจทำหญิงท้องนับสิบ มีลูกกับคนที่ไม่ใช่สามี
กิจกรรมที่หลายคนเข้าใจผิดว่า จะทำให้เกิดการแท้ง
-
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการตั้งครรภ์
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการตั้งครรภ์นั้น ก็อาจจะเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่พูดว่าจะมีการแท้งลูก แต่ความจริงแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการตั้งครรภ์นั้น สามารถทำได้ เพียงแต่เว้นในช่วงไตรมาสแรก หรือช่วง 3 เดือนแรก คุณพ่อจะต้องทำกิจกรรมให้เบาลง เนื่องจากเป็นช่วงที่ตัวอ่อนกำลังพัฒนาการระบบภายในร่างกายให้สมบูรณ์จนกลายเป็นทารก ซึ่งหากได้รับการกระทบที่รุนแรง อาจทำให้เกิดการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์ได้ แต่หลังจาก 3 เดือนแล้ว สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า การออกกำลังกายจะทำให้แท้ง หรือได้ยินมาว่า คนตั้งครรภ์ไม่ควรออกกำลังกายเลย เพราะจะทำให้เกิดการแท้งได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ในการกลับกัน การออกกำลังกายในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์นั้น จะช่วยให้สุขภาพทั้งตัวแม่ และทารกในครรภ์แข็งแรงอีกด้วย แต่การออกกำลังกายนั้น ไม่ควรหักโหมจนเกินไป ควรออกกำลังกาย ที่เบา ๆ เช่น ว่ายน้ำ เต้นรำ โยคะ เป็นต้น
การเดินทางในช่วงของการตั้งครรภ์นั้นไม่ได้ทำให้เกิดการแท้ง แต่หากเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ ควรเลี่ยงเดินทางในพื้นที่ที่ขรุขระมากเกินไป เพราะอาจจะกระทบกระเทือนแรงส่งผลให้ทารกในครรภ์ได้ การเดินทางโดยเครื่องบิน ก็สามารถเดินทางได้เช่นกัน เพียงแต่การเดินทางโดยเครื่องบินจะต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์ เพื่อมีใบยินยอมในการเดินทาง และการเดินทางโดยเครื่องบินอาจจะไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มาแล้ว เพราะอาจจะเสี่ยงในการคลอดบนเครื่องบิน ซึ่งอาจจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องมือสำหรับการคลอด
-
การนั่งนาน ๆ หรือการใช้คอมพิวเตอร์
หลายคนเชื่อว่าการที่นั่งนาน ๆ หรือใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไปจะทำให้เกิดภาวะแท้ง จากรังสีคอมพิวเตอร์ ซึ่งในกรณีนี้เป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับรังสีคอมพิวเตอร์ที่จะทำให้เกิดการแท้ง รังสีจากคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้มีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้แท้งได้ เพียงแต่การใช้คอมพิวเตอร์อาจจะทำให้เกิดการเครียดง่ายขึ้น และการนั่งนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เป็นสาเหตุของการปวดเมื่อย
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กหลอดแก้วโรงพยาบาลรัฐ แต่ละรพ.มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง?
เด็กหลอดแก้วต่างจากการทำกิฟต์อย่างไร?
การทำกิฟต์เป็นวิธีเดิมของการนำอสุจิและไข่ใส่ไว้ที่ส่วนปลายของท่อนำไข่ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิภายใน ส่วนการทำเด็กหลอดแก้วนั้น เป็นการรักษาในปัจจุบันโดยการนำไข่กับอสุจิมาผสมกัน และทำให้เกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย และเพาะเลี้ยงตัวอ่อนประมาณ 3 – 5 วัน ก่อนที่จะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก
การทำเด็กหลอดแก้ว ไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะปัจจัยที่จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ น้ำหนัก และจำนวนที่ทำเด็กหลอดแก้ว ดังนั้น หากคุณแม่ทำเด็กหลอดแก้วแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ควรพักร่างกายและจิตใจก่อนกลับมาเข้ารับการรักษาอีกครั้งค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เด็กหลอดแก้วโรงพยาบาลเอกชน มีราคาเท่าไหร่ ให้เราแนะนำ
เด็กหลอดแก้ว กับไขข้อสงสัยที่หลาย ๆ คนอยากรู้ก่อนตัดสินใจทำ
10 ข้อต้องรู้ ขั้นตอนทำเด็กหลอดแก้ว เตรียมตัวฝังตัวอ่อนอย่างไรให้สำเร็จ
ที่มา : mayoclinic, medparkhospital
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!