แม่ท้องต้องรู้ สัญญาณบอกเหตุว่า คุณแม่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเปี่ยมไปด้วยความหวังสำหรับคุณแม่ทุกคน แต่เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด ความกังวลและความตื่นเต้นก็อาจจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การรู้จักสัญญาณบอกเหตุว่าคุณแม่ใกล้คลอดเต็มที่ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณแม่เตรียมตัวและพร้อมรับมือกับการคลอดบุตรได้อย่างราบรื่น บทความนี้จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจถึง 4 สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าคุณแม่ใกล้คลอดเต็มที่ พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ละสัญญาณ วิธีสังเกต และสิ่งที่คุณแม่ควรทำเมื่อพบสัญญาณเหล่านี้ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและผ่านช่วงเวลาสำคัญนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
คุณแม่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว สัญญาณที่ 1 : ประจำเดือนเทียม
ประจำเดือนเทียม หรือที่เรียกว่า “Bloody Show” คือการที่เยื่อบุโพรงมดลูกบางส่วนหลุดออกมาปนกับเมือกในช่องคลอด ทำให้มีเลือดออกเล็กน้อยสีชมพูหรือสีน้ำตาล อาจมีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ หรือเป็นเส้น ๆ โดยประจำเดือนเทียมเกิดจากการที่ปากมดลูกเริ่มเปิดและบางลง ทำให้หลอดเลือดฝอยขาด
- สังเกตได้อย่างไร: คุณแม่จะสังเกตเห็นเลือดออกสีชมพูหรือสีน้ำตาลปนกับเมือก อาจมีปริมาณมากหรือน้อยก็ได้
- สิ่งที่ควรทำ:
- สังเกตปริมาณเลือด: หากเลือดออกมาก หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- เตรียมตัวไปโรงพยาบาล: เมื่อมีเลือดออก ควรเตรียมของใช้ส่วนตัวและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้พร้อม เพื่อที่เมื่อถึงเวลาจะได้เดินทางไปโรงพยาบาลได้ทันที
สัญญาณที่ 2 : ปากมดลูกเปิดและบางลง
ช่วงที่ใกล้คลอด ปากมดลูกจะค่อย ๆ เปิดและบางลง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดบุตร โดยมีสาเหตุจากฮอร์โมนและการหดตัวของมดลูกจะทำให้ปากมดลูกเปลี่ยนแปลง
- สังเกตได้อย่างไร: คุณแม่จะไม่สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูกได้ด้วยตัวเอง แต่แพทย์จะสามารถตรวจพบได้จากการตรวจภายใน
- สิ่งที่ควรทำ:
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูก: ควรไปพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบความคืบหน้าของการเปิดและบางตัวของปากมดลูก
สัญญาณที่ 3 : มดลูกบีบตัว
เมื่อแม่ท้องใกล้คลอด จะมีการหดตัวของมดลูก เป็นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เพื่อช่วยให้ทารกเคลื่อนตัวลงมาสู่ช่องคลอด โดยสาเหตุมาจากฮอร์โมนโปรสตาแกลนดินและออกซิโทซินจะกระตุ้นให้มดลูกหดตัว
- สังเกตได้อย่างไร: คุณแม่จะรู้สึกปวดท้องเป็นระยะ ๆ คล้ายกับประจำเดือนมา แต่ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ และช่วงเวลาระหว่างการบีบตัวจะสั้นลงเรื่อย ๆ
- สิ่งที่ควรทำ:
- จับเวลาการหดตัว: ควรจับเวลาการบีบตัวของมดลูก เพื่อดูว่าช่วงเวลาระหว่างการบีบตัวสั้นลงหรือไม่
- ปรึกษาแพทย์: หากการบีบตัวของมดลูกบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์
สัญญาณที่ 4 : น้ำเดิน
อาการน้ำเดิน คือการที่ถุงน้ำคร่ำแตก ทำให้น้ำคร่ำไหลออกมาทางช่องคลอด ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดจากการหดตัวของมดลูก หรือการที่ทารกเคลื่อนไหว
- สังเกตได้อย่างไร: คุณแม่จะรู้สึกมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด อาจเป็นน้ำใส ๆ หรือมีสีเหลือง
- สิ่งที่ควรทำ:
- ไปโรงพยาบาล: เมื่อน้ำเดิน ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะหมายความว่าทารกพร้อมที่จะคลอดออกมาแล้ว
สิ่งที่คุณแม่ควรเตรียมตัวก่อนคลอด
การเตรียมตัวก่อนคลอดลูกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับคุณแม่มือใหม่ การเตรียมตัวให้พร้อมจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตใหม่ค่ะ
สิ่งที่คุณแม่ควรเตรียมตัวก่อนคลอด:
1. ด้านร่างกาย
- ตรวจสุขภาพตามนัด: ไปพบคุณหมอตามนัดทุกครั้งเพื่อตรวจสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อย
- ออกกำลังกายเบาๆ: การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสำหรับการคลอด เช่น การเดิน การว่ายน้ำ โยคะสำหรับหญิงตั้งครรภ์
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่: เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอสำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและลดความเครียด
- เรียนรู้เทคนิคการหายใจและผ่อนคลาย: การเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่สามารถควบคุมอาการเจ็บปวดขณะคลอดได้ดีขึ้น
2. ด้านจิตใจ
- เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง: การตั้งครรภ์และการมีลูกเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จึงควรเตรียมใจให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
- เข้าร่วมกลุ่มสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์: การพูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังตั้งครรภ์จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำและกำลังใจ
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยลดความเครียดและทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- ปรึกษาจิตแพทย์: หากคุณรู้สึกเครียดหรือกังวลมากเกินไป ควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
3. เตรียมสิ่งของจำเป็น
- กระเป๋าสำหรับไปโรงพยาบาล: เตรียมกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของคุณแม่ เสื้อผ้าเด็ก ผ้าอ้อม แพมเพิส ของใช้ส่วนตัว และเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น บัตรประชาชน สมุดฝากครรภ์
- เตรียมห้องสำหรับลูกน้อย: จัดเตรียมห้องสำหรับลูกน้อยให้พร้อม เช่น เปล เตียง เปลี่ยนผ้าอ้อม และของใช้ต่างๆ สำหรับเด็ก
- เลือกโรงพยาบาลและแพทย์: เลือกโรงพยาบาลและแพทย์ที่คุณไว้วางใจ เพื่อให้การคลอดเป็นไปอย่างราบรื่น
4. เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลลูกน้อย:
- เข้าคอร์สเตรียมตัวก่อนคลอด: คอร์สเหล่านี้จะสอนเกี่ยวกับการดูแลลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด เช่น การให้นม การเปลี่ยนผ้าอ้อม การอาบน้ำ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- อ่านหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก: การศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจะช่วยให้คุณแม่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกมากขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนคลอด เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ
- ผ่อนคลาย: พยายามผ่อนคลายและสนุกกับช่วงเวลาแห่งการตั้งครรภ์
- ขอความช่วยเหลือ: อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เช่น สามี พ่อแม่ หรือเพื่อนฝูง
การรู้จักสัญญาณบอกเหตุว่าคุณแม่ใกล้คลอดเต็มที่ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณแม่เตรียมตัวและพร้อมรับมือกับการคลอดบุตรได้อย่างราบรื่น หากคุณแม่พบสัญญาณใด ๆ ที่กล่าวมา ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม
ขอขอบคุณข้อมูล : bangkokhospital.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อาการคนใกล้คลอด เป็นอย่างไร อาการใกล้คลอดแบบไหน ควรไปหาหมอ
เช็กด่วน 7 สัญญาณใกล้คลอด พร้อมเคล็ดลับดูแลร่างกายหลังคลอด แข็งแรงไว เบาใจเรื่องแผลเป็นจากการผ่าคลอด
ใกล้คลอด ห้ามทําอะไร อาการไหนที่แม่ต้องกังวล ข้อควรระวังสำหรับคนท้อง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!