X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

อยากให้ลูกผมดก เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ผมบาง ?

บทความ 5 นาที
อยากให้ลูกผมดก เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ผมบาง ?

ไม่อยากให้ลูกผมบางเลย กลัวลูกจะผมบางจัง อยากให้ลูกผมดก ทำได้ไหม ทำได้อย่างไร เส้นผมของลูกแปรผันตามพันธุกรรมที่รับมาจากพ่อแม่ แต่การบำรุงเส้นผมของลูกก็สำคัญมาก เพราะพอจะช่วยได้บางส่วน ดีกว่าการไม่ลงมือทำอะไรเลย อาจทำให้เส้นผมของลูกแห้งเสียก็ได้

 

อยากให้ลูกผมดก ตั้งต้นมาจากพันธุกรรมเป็นหลัก

หากต้องการให้ลูกมีผมดกดำ คงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างใจนึก เพราะสิ่งที่กำหนดในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก แม้กระทั่งนิสัยบางส่วนก็มาจากผู้ให้กำเนิด อย่างคุณพ่อและคุณแม่ทั้งนั้น หากพ่อและแม่มีผมบาง จะหวังให้ลูกมีผมดกก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้นก่อนจะอ่านบทความนี้ต่อไป ให้สังเกตเลยว่าพ่อหรือแม่ มีคนใดคนหนึ่งผมดกดำไหม หากมีก็สบายใจได้ระดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การบำรุงเส้นผมให้กับลูกรักก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง แต่ที่ได้มาแน่นอนคือเส้นผมของลูกที่แข็งแรงแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง : อยากให้ลูกผมตรง มีวิธีไหนบ้าง เด็กยืดผมได้ไหม ?

 

วิดีโอจาก : เด็กทารก Everything Channel

 

5 วิธีช่วยให้ลูกมีผมดกดำ

ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องของพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การบำรุงเส้นผมให้กับลูกรัก ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเส้นผมแบบไหนก็จะแข็งแรง และมีโอกาสในการงอกใหม่มากขึ้น ดีกว่าปล่อยไปเลย อาจจะทำให้เส้นผมลูกบางมากกว่าเดิม โดยมีวิธีดังนี้

 

1. บำรุงให้ทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์

การบำรุงทารกน้อยให้มีพัฒนาการที่ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เป็นสิ่งที่ควรทำ จริง ๆ แล้วก็คือการดูแลครรภ์นั่นแหละ แต่สำหรับวิธีที่จะช่วยเรื่องพัฒนาการ และฮอร์โมนที่ส่งผลต่อเส้นผม จะทำผ่านการทานอาหารของคุณแม่ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ถูกต้อง ช่วยให้ทารกมีผมดกดำขึ้นในอนาคต โดยอาหารที่คุณแม่ควรหามาทานก็มีอยู่หลายชนิด ตัวอย่างเช่น

 

  • ผักใบเขียวทั้งหลาย : เนื่องจากภายในผักใบเขียวนั้นอุดมไปสารอาหารที่จำเป็นหลายอย่าง โดยเฉพาะวิตามิน A และวิตามิน C ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม และยังช่วยให้รากผมมีความแข็งแรงมากขึ้น การเพิ่มผักใบเขียวในเมนูโปรดจึงสำคัญต่อทั้งคุณแม่ และทารกในครรภ์
  • งาดำ : การกินงาดำไม่ได้ช่วยให้ผมลูกดกดำ เพราะงาดำเป็นสีดำ แต่ที่ช่วยให้ผมลูกดกนั้นเป็นเพราะสารอาหารประเภทวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ในงาดำต่างหาก เพราะสารอาหารเหล่านี้สามารถเร่งการเติบโตของเส้นผมได้
  • ถั่ว และธัญพืช : ด้วยสารอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะวิตามิน B หลายชนิด และโปรตีน ที่สามารถช่วยบำรุงให้เส้นผมหนา ไม่แตกปลาย แต่คุณแม่ต้องระวังการกินอาหารประเภทนี้ได้พลังงานใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ อาจส่งผลต่อน้ำหนักได้
  • เนื้อแซลมอน : สารอาหารที่สำคัญสำหรับคนท้องอย่างโอเมก้า 3 และกรดอะมิโนในปลาแซลมอน ช่วยให้พัฒนาการโดยรวมของทารกในครรภ์เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเรื่องเส้นผมด้วย
  • ไข่ไก่ : นับว่าเป็นอาหารพื้นฐานของคนไทย ที่มักทานกันเป็นประจำ หาได้ไม่ยาก ไข่ไก่เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายของคุณแม่ และทารก สามารถช่วยให้ลูกมีผมที่สวย เส้นหนา และดกดำได้เช่นกัน
  • น้ำอัญชัน : นอกจากการนำน้ำอัญชันไปทาคิ้ว หรือผมลูกให้ดกดำ การที่แม่ท้องกินระหว่างตั้งครรภ์ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน เพราะในน้ำอัญชันมี “แอนโทไซยานิน (Anthocyanin)” กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงศีรษะ ช่วยให้ลูกมีเส้นผมที่ดกดำได้ด้วยนั่นเอง

 

แม้อาหารเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้ทารกคลอดออกมาแล้วโตไปมีเส้นผมดกดำขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผล 100 % เพราะการทานอาหารตลอด 3 ไตรมาส เพื่อบำรุงในด้านนี้ ไม่อาจเอาชนะเหตุผลทางธรรมชาติอย่างพันธุกรรมได้อย่างแน่นอน

 

อยากให้ลูกผมดก

 

2. สระผมให้ลูกวันละ 1 ครั้ง

การสระผมนอกจากจะเป็นการทำความสะอาด เป็นการกำจัดเชื้อโรคบนเส้นผมแล้ว การสระผมยังช่วยกระตุ้นโอกาสในการงอกของเส้นผม ทำให้มีเส้นผมเส้นใหม่ ๆ งอกขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องระวังให้แม้การสระผมจะพอกระตุ้นได้บ้าง แต่ไม่ควรสระผมให้ลูกเกินวันละ 1 ครั้ง นอกเหนือจากที่ว่าเส้นผมของลูกเกิดการปนเปื้อน หรือสกปรกจากสิ่งใด ๆ มา เพราะการสระผมถี่เกินไปใน 1 วัน จะส่งผลเสียต่อเส้นผมได้

นอกจากนี้ยังต้องระวังหลังจากสระผมเสร็จ หรือผมของลูกเปียกจะต้องเช็ดให้แห้งสนิท อย่าปล่อยให้ชื้น เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเชื้อรา ส่งผลต่อเส้นผมโดยตรง และหนังศีรษะได้ เช่น หนังศีรษะแดง มีอาการลอก ไปจนถึงผมอาจหลุดร่วงออกเป็นวง ๆ เป็นต้น

 

3. เลี่ยงการโกนผมลูกบ่อย ๆ

หลายคนมีความเชื่อว่า การโกนผมให้ลูกบ่อย ๆ จะเป็นการผลัดเส้นผม ทำให้เส้นผมของลูกงอกออกมาไว เส้นผมแข็งแรง จริง ๆ แล้วการทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ควรหยุดทำทันที เพราะการโกนผมยังมีความเสี่ยงหลายอย่างที่ไม่คุ้มค่า นอกจากจะไม่ได้ทำให้เส้นผมยาวไวแล้ว ยังสามารถเกิดแผลจากการโกนได้ ด้วยร่างกายของทารก หากมีบาดแผลจากของมีคม แม้แผลจะไม่ลึก แต่หากไม่สังเกตเห็น ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้นั่นเอง

 

4. ใช้น้ำมันมะกอก / น้ำอัญชันชโลมเส้นผม

เป็นเทคนิคที่ใช้กันโดยทั่วไป หากผู้ปกครองท่านไหนยังไม่เคยลองก็สามารถหามาทำได้ น้ำมันมะกอกหาซื้อได้ไม่ยาก สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่ต้องศึกษาให้ดีว่ายี่ห้อที่ซื้อสามารถใช้ชโลมผมเด็กแล้วมีอันตรายไหม ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อนซื้อ โดยให้ชโลมให้ทั่วเส้นผมสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น และระวังน้ำมันเข้าตาลูกด้วย ค่อย ๆ ทำ ถือเป็นการบำรุงเส้นผมที่ทำได้ไม่ยากอีกด้วย

ในส่วนของน้ำอัญชันก็มีวิธีใช้เหมือนกันนั่นคือ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเด็ก และควรปรึกษาถึงความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อเช่นกัน

 

อยากให้ลูกผมดก 2

 

5. ให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์

จริง ๆ แล้วอาหารที่เราได้แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์กินในช่วงต้นนั้น ไม่ใช่แค่สามารถช่วยบำรุงเส้นผมของทารกในครรภ์ได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำมาให้ลูกกินได้ในช่วงอายุที่เหมาะสม เพื่อเป็นการบำรุงเส้นผมให้ลูกได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่, ผักใบเขียว, งาดำ หรือธัญพืช เป็นต้น

 

บทความจากพันธมิตร
เด็กสมาธิสั้น ดื้อ ซน อารมณ์รุนแรง มีโอกาสรักษาหายไหม?
เด็กสมาธิสั้น ดื้อ ซน อารมณ์รุนแรง มีโอกาสรักษาหายไหม?
เด็กดื้อ เด็กซน ใช่อาการเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ โรคสมาธิสั้น คืออะไร ทำไมต้องรีบพาลูกไปรักษา
เด็กดื้อ เด็กซน ใช่อาการเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ โรคสมาธิสั้น คืออะไร ทำไมต้องรีบพาลูกไปรักษา
รวม 5 ที่เรียนภาษาอังกฤษระดับแนวหน้า ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย พร้อมเทคนิคเรียนดีที่ไม่ควรพลาด!
รวม 5 ที่เรียนภาษาอังกฤษระดับแนวหน้า ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย พร้อมเทคนิคเรียนดีที่ไม่ควรพลาด!
เปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาตัวเอง ด้วยเทคนิคการเรียนแบบ Home School
เปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาตัวเอง ด้วยเทคนิคการเรียนแบบ Home School

การบำรุงเส้นผมให้ลูก และปลูกฝังให้ลูกดูแลเส้นผมได้ด้วยตนเอง เป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรทำอยู่แล้ว ด้วยวิธีที่ทำได้ไม่ยาก สุดท้ายแล้วจะส่งผลดีต่อตัวของลูกรักได้อย่างแน่นอน

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

6 วิธีหาก “อยากให้ลูกผิวขาว” ดูสวยใสเป็นธรรมชาติ

อยากให้ลูกมีลักยิ้ม มีวิธีทำแบบไหนได้บ้าง ปลอดภัยไหม ?

อยากให้ลูกอ้วน รวมวิธีเพิ่มน้ำหนัก เมื่อลูกผอมเกินไป

ที่มา : 1, 2

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sutthilak Keawon

  • หน้าแรก
  • /
  • ช่วงวัยของเด็ก
  • /
  • อยากให้ลูกผมดก เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ผมบาง ?
แชร์ :
  • 5 เมนูเฟรนช์โทสต์ สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ออกแบบไส้ได้หลากหลาย

    5 เมนูเฟรนช์โทสต์ สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ออกแบบไส้ได้หลากหลาย

  • สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

    สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

  • เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

    เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

  • 5 เมนูเฟรนช์โทสต์ สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ออกแบบไส้ได้หลากหลาย

    5 เมนูเฟรนช์โทสต์ สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ออกแบบไส้ได้หลากหลาย

  • สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

    สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

  • เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

    เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ